“แพทองธาร ชินวัตร”..ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี..สถานเดียวเท่านั้น..ทางอื่นไม่มีให้เลือก..ซึ่งแม้แต่การยุบสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง..เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น..ไม่เกี่ยวกับสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ..แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น..เกิดจากการกระทำของ“แพทองธาร”..ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้นำฝ่ายบริหาร

การแถลงของ“แพทองธาร ชินวัตร”..ที่ทำเนียบรัฐบาล..เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนเมื่อวานนี้..ด้วยการกล่าว“ขออภัย”ต่อประชาชนคนไทย..จากการกระทำของตนเอง..ที่เข้าข่ายความผิดโทษมหันต์..ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต..ตามตามประมวลกฎหมายอาญา..หมวด 3 “ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร”..มาตรา 119 ถึงมาตรา 129..และเข้าข่ายขาดคุณสมบัติการดำรงแหน่งนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับจริยธรรม..ตามรัฐธรรมนูญ..มาตรา 160 (4) และ (5) นั้น..ไม่สามารถล้างความผิดที่ตนได้กระทำ..เพราะความผิดสำเร็จแล้ว..เป็นการกระทำความผิดครบองค์ประกอบ

“แพทองธาร ชินวัตร”..แถลง“ขออภัย”กับสิ่งที่ตนเองได้กระทำผิดไป..ที่ห้องสีงาช้าง..ตึกไทยคู่ฟ้า..ทำเนียบรัฐบาล..และเผยแพร่ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)..ภายหลังการประชุมที่ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม,..นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ,..พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม,..พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.),..พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.),..พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.),..พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ,.. พล.อ.อ.วชิระพล เมืองน้อย..เสนาธิการทหารอากาศ..และพล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม..เข้าร่วมประชุม

“แพทองธาร ชินวัตร”..แถลงโดยยังดึงดันที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป..ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี..ของประชาชนคนไทยทุกภาคส่วนที่ดังกระหึ่มอยู่ในเวลานี้-ดังที่ยกมาโดยสังเขป 3 ย่อหน้าถัดจากนี้

“ได้มีการเชิญหน่วยงานความมั่นคง..กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง..มาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้น..ก่อนอื่นต้องขออภัยต่อประชาชนคนไทยทุกคน..ที่มีเรื่องของกรณีคลิปเสียงหลุดออกมา..ระหว่างที่ดิฉันพูดคุยกับผู้นำกัมพูชา..ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น..ต้องขออภัยพี่น้องประชาชน..ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ..ตัวดิฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับทางแม่ทัพภาคที่ 2..และกองทัพ..อธิบายถึงเจตนาว่าเป็นเพียงเทคนิคของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไป..ว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจเขาก่อน..เพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดต่อๆ ไป..เป็นการต่อรองให้การปะทะหยุดลง..นี่คือความตั้งใจที่แท้จริง..ที่ต้องการให้สถานการณ์สงบสุข..และไม่ทราบจริงๆ..ว่าจะมีการอัดคลิป..และเผยแพร่เช่นนี้”

“ดิฉันได้ทำความเข้าใจกับกองทัพเรียบร้อยแล้ว..ซึ่งกองทัพก็รับฟังและบอกว่า..วันนี้เราต้องร่วมมือกันเพื่อผนึกกำลังเอาไว้..คนไทยทุกคนๆ..ก็ต้องผนึกกำลังกันไว้เช่นกัน..เพราะวันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่า..มันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ..ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ..ต่อประชาชนหรือของอะไรที่จะมาพูดว่า..รัฐบาลกับกองทัพต้องมาสู้กัน..วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกัน..เราต้องปกป้องอธิปไตยของเราไว้..และนี่คือสิ่งที่เห็นตรงกัน..และยินดีที่จะซัพพอร์ตกองทัพทุกๆ อย่าง..ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่กองทัพต้องการการสนับสนุนใดๆ ก็ตาม..คือสิ่งที่เราตั้งใจว่าจะทำร่วมกัน”

“เวลานี้ที่เคยบอกไป..ไม่ใช่เวลาที่เราจะต้องมาสู้กันเอง..สิ่งที่เกิดขึ้น..ดิฉันต้องขออภัยในความที่ไม่ทราบจริงๆ..ว่ามีการอัดคลิปเกิดขึ้น..เพราะฉะนั้น..วันนี้ดิฉันรับทราบดี..ต่อจากนี้จะระวังในเรื่องของการพูดคุยให้มากขึ้น..และแน่นอนว่าทางกองทัพที่เราพูดคุย..เรามั่นใจอย่างหนึ่งว่า..ถ้าเรารวมกันเป็นหนึ่ง..สามัคคีกัน..เราจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันอย่างแข็งแรงได้”

นอกจากนั้น ในวันเดียวกันหลังจาก“แพทองธาร ชินวัตร”แถลงข่าวเสร็จสิ้น..ในช่วงบ่ายเพจ“รัฐบาลไทย”ได้ออกแถลงการณ์รัฐบาล..มีเนื้อหาโดยสรุปเพื่อขออภัยต่อประชาชนคนไทย..จากกรณี“คลิปเสียงการสนทนา”..โดยแก้ตัวเรื่องที่พูดกับ“ฮุน เซน”ว่า..พล.ท.บุญสิน พาดกลาง..แม่ทัพภาค 2 ของไทย“เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา”..ว่า“เป็นการเลือกใช้ถ้อยคำที่มุ่งโน้มน้าวให้กัมพูชาร่วมมือลดระดับการเผชิญหน้า..โดยมีเป้าหมายสำคัญประการเดียว..คือ..ปกป้องอธิปไตย..รักษาผลประโยชน์ของชาติ”

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ..ก็มีความเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนเมื่อวานนี้..โดยได้เชิญเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจําประเทศไทย..มารับหนังสือประท้วง “ฮุน เซน”..กรณีปล่อยคลิปเสียง..ซึ่งฝ่ายไทยเห็นว่า..การกระทําดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณและมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐ..ที่ไม่อาจยอมรับได้..และถือเป็นการทําลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน..ที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ..รวมทั้งความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้ง 2 ฝ่าย..ตามแนวปฏิบัติสากล..และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี

อย่างไรก็ตาม..ถึงนาทีนี้ หมดเวลาของ“แพทองธาร ชินวัตร”เรียบร้อยแล้ว..และหมดข้ออ้างใดๆ..ที่พยามจะแก้ตัว..เพียงเพื่อดิ้นรนให้ตนเองได้อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป..ถึงอยู่ไปก็รังแต่จะสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง..อันจะนำไปสู่การเผชิญหน้าของประชาชนทั้งสองฝ่ายรอบใหม่..คือฝ่ายที่ยืนหยัดปกป้องความถูกต้องชอบธรรม..กับฝ่ายที่เป็นกองเชียร์พรรคเพื่อไทย

และสำคัญที่สุด..ถึงเวลาที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดจะต้องถอนตัวออกจากรัฐบาลผสมชุดนี้..ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ..โดยยึดแบบอย่างจากพรรคภูมิใจไทย..ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูร..หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย..ที่มี สส.ทั้งหมด 69 คน..ซึ่งได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล..อันเนื่องมาจาก“คลิปอัปยศ”ดังกล่าว..และรัฐมนตรีทุกคนของพรรคภูมิใจไทย..ก็ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนเมื่อวานนี้..รวมทั้งนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง..พรรคภูมิใจไทย..ที่ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2..ด้วยเช่นกัน

8 รัฐมนตรีทั้งหมดของพรรคภูมิใจ..ที่ยื่นใบลาออกโดยไม่ยอมร่วมจมหัวจมท้ายกับ“แพทองธาร ชินวัตร”..เหมือนต้อง“พายเรือให้โจรนั่ง”..ประกอบด้วย..นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย,..นายทรงศักดิ์ ทองศรี..และนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์.. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย,..พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ,..นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ,..นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน,..นางศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ..และนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

ดังนั้น..ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนยังดันทุรัง..ก็จะต้องพบจุดจบเดียวกับ“แพทองธาร ชินวัตร”..ไม่ว่าจะเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง,..พรรคกล้าธรรม 31 เสียง (26+5 เสียง),..พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง,..พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง..และพรรคประชาชาติ 9 เสียง..โดยจะถูกประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศนี้ลุกขึ้นมาขับไล่..ซึ่งอย่างน้อยเวลานี้ คปท. กองทัพธรรม..และ..คปปส. ก็ได้เป็นทัพหน้าไปชุมนุมประชิดทำเนียบรัฐบาล..ตรงเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ..พร้อมกับส่งเสียงขับไล่“แพทองธารอออกไป”เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ “พิชิต ไชยมงคล”แกนนำ คปท. ได้เรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล..และขอให้“แพทองธาร ชินวัตร”..กล่าวขอโทษประชาชน..และขอโทษประเทศไทย..พร้อมทั้งต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี..อีกทั้ง..นายพิชิตยังประกาศ..ขอให้ประชาชนคนไทยออกมาแสดงพลังที่ทำเนียบรัฐบาล..ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายนจนถึงวันอังคารที่ 24 มิถุนายนสัปดาห์หน้า..เพื่อกดดันให้“แพทองธาร”และรัฐมนตรีทั้งคณะลาออก

“พิชิต ไชยมงคล”..ปราศรัยท่ามกลางประชาชนที่มาชุมนุมว่า..“แพทองธารอยู่ในตำแหน่งนายกฯที่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนไทย..กลับเอาความลับประเทศไทยไปขายให้กับกัมพูชา.. ดังนั้น..แพทองธารต้องออกไปทันที..เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าแพทองธารจะออกไป..เราจะแสดงพลัง..ขอเชิญพี่น้องออกมาแสดงพลังร่วมกันนับจากวันนี้..จนกว่าแพทองธารจะออกไป..เรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งการเมือง..และสีเสื้อ..แต่เป็นเรื่องอธิปไตยของประเทศชาติ..ที่คนไทยทุกคนต้องแสดงพลังปกป้องประเทศชาติร่วมกัน..นายกฯไม่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้..เราต้องเอาใจความเป็นคนไทยออกมาปกป้องอธิปไตย”

นอกเหนือจาก คปท. กองทัพธรรม..และ คปปส.แล้ว..ก็ยังจะมีตามมาอีก“หลากหลายทัพ”ของประชาชน..เป็นต้นว่า..“กลุ่มราษฎรรักชาติ” ได้นัดแถลงข่าว “รวมพลังแผ่นดิน”..ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ (ห้องราชา) ถนนราชดำเนิน..ในวันที่ 20 มิถุนายนวันนี้ เวลา 10.00 น.

โดยผู้ที่จะมาร่วมแถลงข่าว..เพื่อเรียกร้องอย่างเป็นทางการ..ให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคประกาศถอนตัวออกจากการเป็นรัฐบาลผสมที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ..ก็มี..อาทิ..เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง,..แก้วสรร อติโพธิ,..ขวัญสรวง อติโพธิ,..ปรีดา เตียสุวรรณ์,..สมชาย แสวงการ,..ชาญชัย อิสระเสนารักษ์,..ประสาร มฤคพิทักษ์,..จเด็จ อินสว่าง,..ประพันธุ์ คูณมี,..พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส,..พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม,..พล.ท.กนก เนตระคเวสนะ,..พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์,..พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา,..กษิต ภิรมย์,..นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม,..ถาวร เสนเนียม,..ถวิล เปลี่ยนศรี,

ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์,..รสนา โตสิตระกูล,..ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์,..คมสัน โพธิ์คง,..นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์,..เจษฎ์ โทณะวณิก,..ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร,..นันทิวัฒน์ สามารถ,..วีระ สมความคิด,..ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์,..สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม,..อัญชะลี ไพรีรัก,..หฤทัย ม่วงบุญศรี (อุ๊หฤทัย),..ชัชชัย สุขขาวดี (หรั่ง ร็อคเคสตร้า),..สาวิทย์ แก้วหวาน,..มานพ เกื้อรัตน์,..คมสันต์ ทองศิริ,..ณีรนุช จิตต์สม,..เสน่ห์ หงษ์ทอง,..เครือข่ายองค์กรแรงงานรัฐวิสาหกิจ,..จตุพร พรหมพันธุ์,..นิติธร ล้ำเหลือ,..พิชิต ไชยมงคล,..นัสเซอร์ ยีหมะ,..และใจเพชร กล้าจน..เป็นต้น

ขณะเดียวกันในทางคดีอาญา..เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนเมื่อวานนี้..นายสมชาย แสวงการ..อดีต สว.,..นายนิติธร ล้ำเหลือ..หรือ“นายนกเขา”..และนายคมสัน โพธิ์คง..นักวิชาการด้านกฎหมาย..ก็ได้เข้าแจ้งความดําเนินคดี“แพทองธาร ชินวัตร”..ฐานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา..หมวด 3..เกี่ยวกับความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร

ส่วนความผิดทางด้านจริยธรรม..อันเป็นคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ“แพทองธาร ชินวัตร”..ที่จะมีผลทำให้พ้นจากตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา160 (4) “มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์”..และ (5)“ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง”..ไม่เพียงแต่“นักร้อง”อย่างนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ..ที่ยื่นคำร้องต่อ กกต. และนายศรีสุวรรณ จรรยา..ที่ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เรื่องจริยธรรม..และพ่วงความผิดทางคดีอาญาเข้าไปด้วย..เท่านั้น  

คณะกรรมาธิการการทหาร และความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา..ที่มี..พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นประธาน..ก็ประกาศจะยื่นเรื่องต่อองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องทุกองค์กร..เช่น..ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ..เพื่อให้มีการถอดถอน“แพทองธาร ชินวัตร”..ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี..เนื่องจากเห็นว่า..กรณีคลิปเสียง..เข้าข่ายกระทำผิดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา..เป็นต้นว่า..มาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้..รวมทั้ง..มาตรา 160 (4) และ (5)..ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เห็นภาพความเคลื่อนไหวอย่างนี้แล้ว..“แพทองธาร ชินวัตร”อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีลำบาก..ทางที่ดีควรประกาศลาออกเสียตั้งแต่วันนี้จะดีกว่า..จะได้ไม่ต้องหนีแบบหัวซุกหัวซุน..เพราะถูกประชาชนลุกขึ้นมาขับไล่

มิหนำซ้ำช่องทางธรรมชาติตรงชายแดน“ไทย-เขมร”..ที่เรียกกันว่าช่อง“สุนัขลอด”นั้น.. จากนี้ไปก็คงจะมีป้ายประกาศห้ามเป็นภาษาเขมรว่า-“คนในตระกูลชินวัตรห้ามลอด” !

รุ่งเรือง ปรีชากุล