มีข่าวว่า รัฐบาลจะถอนร่างกฎหมายเปิดกาสิโนในเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์แล้วจะดันกฎหมายนิรโทษกรรมแทน

หลายคนได้ยิน ก็ตกใจ จะสุดซอยอีกแล้วหรือ?

1. เมื่อวานนี้ (25 มิถุนายน 2568) นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่า การเปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ในวันที่ 3 ก.ค.นี้นั้น จะเป็นการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา กระทู้ถามทั่วไป และกระทู้แยกเฉพาะ และในช่วงบ่ายจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต่างๆ ที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

โดยในวันที่ 9 ก.ค.นี้ จะเป็นการพิจารณากฎหมาย ซึ่งเดิมวาระของสภาฯ พิจารณาเรื่องแรก คือ ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ต่อด้วยร่าง พ.ร.บ. สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รวมประมาณ 4 ร่าง

นางมนพร กล่าวว่า “ความเห็นของฝั่งรัฐบาลก็ได้สื่อสารไปยังนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ว่า เห็นควรที่จะเลื่อนพ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ฯ ออกไปก่อน โดยจะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้ามาเป็นเรื่องแรก...”

2. เรื่องจริงๆ คืออะไร?

ประการแรก เหตุผลแท้จริงที่พรรคเพื่อไทยต้องเลื่อน ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์(เปิดกาสิโนข้างใน) น่าจะเป็นเพราะเสียง สส. ฝั่งรัฐบาลหายไปจากการถอนตัวของพรรคภูมิใจไทยมากกว่าเรื่องอื่น

และพรรคภูมิใจไทยก็เพิ่งประกาศคัดค้านกฎหมายฉบับนี้เต็มที่

ขณะนี้ เสียง สส. ฝ่ายรัฐบาล เมื่อหักเอาเสียงภูมิใจไทย 69 เสียงออกไปแล้ว จะเหลืออยู่ประมาณ 256 เสียง

เสียง สส. ฝ่ายค้านประมาณ 241 เสียง

แต่เสียง สส. ฝ่ายรัฐบาลนั้น จะได้คะแนนเต็มที่ทุกเสียง ก็อาจจะไม่พอ

เพราะพรรคประชาชาติ 9 เสียง สส. มุสลิม ไม่อาจโหวตสนับสนุนได้

ขณะที่ รทสช. 36 เสียง ก็คงยังมีปมขัดแย้งภายในกันอยู่ แรงกดดันสูง

ส่วนประชาธิปัตย์ 25 เสียง สส.ส่วนหนึ่งที่ไม่สนับสนุนให้ร่วมรัฐบาลต่อ และยังมีจุดยืนต้านอยู่เดิมอีกต่างหาก ก็งจะไม่โหวตให้แน่นอน

เพราะฉะนั้น ประเมินแล้ว ร่างกฎหมายนี้ ไม่น่าจะผ่าน

เว้นแต่จะได้กำลังเสริมจากพรรคส้ม เป็นงูเห่ามาช่วยพรรคเพื่อไทย ซึ่งถ้าทำเช่นนั้น พรรคส้มก็เสียหมาทันที

ถ้าสภาตีตกร่างกฎหมายที่เป็นนโยบายของรัฐบาล รัฐบาลก็จะหัวคะมำทันที

นี่น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เลื่อนออกไป มากกว่าเรื่องอื่น

ประการที่สอง ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่จะเอาขึ้นมาพิจารณา เป็นแบบสุดซอย หรือไม่?

ความจริง ก็เป็นไปตามที่คุณมนพรกล่าว คือ มันมีอยู่หลายร่าง ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ. สังคมสันติสุข (พรรค รทสช.เสนอ) และร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมอื่นๆ รวมทั้งหมด 4 ร่าง

จะสุดซอยหรือไม่ จึงขึ้นอยู่กับว่า เสียง สส. พรรครัฐบาล เลือกจะสนับสนุนร่างไหน

3. ก่อนหน้านี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันจุดยืนชัดเจนมาโดยตลอด คือ จะไม่รับหลักการร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่รวมถึงคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

จากการตรวจสอบ พบว่า มีกำหนดไว้ในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. … เสนอโดย นายชัยธวัช ตุลาธน อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ… เสนอโดยภาคประชาชน

ดังนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่รับหลักการทั้ง 2 ฉบับนี้

ทิศทางของพรรคร่วมรัฐบาล ก็ชัดเจนตั้งแต่ตอนร่วมรัฐบาลกันว่า จะไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 แน่นอน

เว้นแต่ว่า พรรคเพื่อไทยจะตระบัดสัตย์ หรือไม่?

4. ร่างแต่ละฉบับ นิรโทษกรรมต่างกันออกไปอย่างไร?

4.1 ช่วงเวลาการกระทำผิดที่ได้อานิสงส์

ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน (เสนอโดยประชาชนที่สนับสนุนพรรคส้ม) เอาตั้งแต่ 19 กันยายน 2549 วันที่พ.ร.บ.ประกาศใช้

ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม (เสนอโดยพรรคก้าวไกล) เอาตั้งแต่ 11 กุมภาพันธ์ 2549 วันที่พ.ร.บ.ประกาศใช้

ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข (เสนอโดยพรรคครูไทยเพื่อประชาชน) เอาตั้งแต่ 19 กันยายน 2549 30 พฤศจิกายน 2565

ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข (เสนอโดยพรรครวมไทยสร้างชาติ)เอาตั้งแต่พ.ศ. 2548 พ.ศ. 2565

จะเห็นได้ว่า ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ฉบับที่เสนอโดยพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้อนถอยหลังนิรโทษกรรมไปถึงคดีที่เกิดขึ้นช่วงปี 2548 ครอบคลุมสถานการณ์ก่อนรัฐประหาร 2549 ด้วย

ส่วนกรอบเวลาสิ้นสุด ร่างฉบับภาคประชาชน และร่างฉบับที่สส. พรรคก้าวไกล เสนอ กำหนดยาวไปถึงวันที่กฎหมายบังคับใช้ (หากผ่านการพิจารณาของรัฐสภาและได้ประกาศใช้บังคับ)

ขณะที่ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ทั้งฉบับที่เสนอโดยพรรคครูไทยเพื่อประชาชนและพรรครวมไทยสร้างชาติ กำหนดเวลาสิ้นสุดเพียงแค่ปี 2565 เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าคดีทางการเมืองที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นต้นมา จะไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการนิรโทษกรรม ถึงแม้โดยเงื่อนไขอื่นๆ จะเข้าเกณฑ์ตามร่างกฎหมายสองฉบับนี้ก็ตาม

4.2 คดีแบบไหนจะได้อานิสงส์ล้างผิด

ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทั้งสี่ฉบับ ต่างกำหนดกลไกในการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาว่าการกระทำหรือคดีใดบ้างที่จะได้รับการนิรโทษกรรม

ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน (ที่สนับสนุนส้ม) กำหนดไว้เลยว่า คดีที่จะได้รับการนิรโทษแน่นอน ได้แก่

คดีตามฐานความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

คดีตามฐานความผิดในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ)

คดีความผิดตามประกาศ คำสั่ง หรือคำสั่งหัวหน้า คสช.

คดีพลเรือนที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหารตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 37/57 และประกาศ คสช. ฉบับที่ 38/57

คดีตามฐานความผิดในพระราชบัญญัติออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559

และคดีตามฐานความผิดที่เกี่ยวโยงกับข้อดังกล่าว

ร่างฉบับที่พรรครวมไทยสร้างชาติเสนอ ไม่เปิดช่องให้นิรโทษกรรมคดี มาตรา 112 คดีทุจริตประพฤติมิชอบ

โดยความผิดที่จะได้นิรโทษกรรม คือ ความผิดสืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง หรือการแสดงออกทางการเมือง ในระหว่าง พ.ศ. 2548 – 2565 ในฐานความผิด ดังต่อไปนี้เท่านั้น

“1. ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (1) ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ตามมาตรา 113 (3) หรือ (2) มาตรา 114 (เฉพาะการตระเตรียมการอื่นใด หรือสมทบกันเพื่อเป็นกบฏ) มาตรา 116 และมาตรา 117 (2) ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้าย ตามมาตรา 135/1 (2) หรือ (3) มาตรา 135/2 และมาตรา 135/3 (3) ความผิดต่อเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 136 มาตรา 138 และมาตรา 139 (4) ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ตามมาตรา 209 มาตรา 210 ถึงมาตรา 214 มาตรา 215 และมาตรา 216 (5) ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภยันตรายต่อประชาชน ตามมาตรา 217 ถึง มาตรา 220 มาตรา 225 และมาตรา 226 (6) ความผิดต่อร่างกาย ตามมาตรา 295 มาตรา 299 และมาตรา 300 (7) ความผิดต่อเสรีภาพ ตามมาตรา 309 วรรคหนึ่งและวรรคสาม มาตรา 310 วรรคหนึ่ง มาตรา 310 ทวิ และมาตรา 311 วรรคหนึ่ง (8) ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามมาตรา 358 และมาตรา 359 (3) (9) ความผิดฐานบุกรุก ตามมาตรา 362 มาตรา 364 และมาตรา 365 (1) หรือ (2) โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือ (3) - 2 - 2. ความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 และมาตรา 31 3. ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 4. ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 5. ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง 6. ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคม 7. ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวง 8. ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 9. ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 10. ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก 11. ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 12. ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ”

5. สรุป โอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะดันนิรโทษสุดซอย มีความเป็นได้น้อย

พรรคภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ฯลฯ ไม่เอาด้วยแน่นอน (เว้นพรรคส้ม)

และถ้าดันจริงๆ ก็มีโอกาสสำเร็จเป็นศูนย์

เพราะหากแม้นผ่าน สส. ก็จะไปที่ สว.

และสว. ที่ยืนตระหง่านอยู่ เป็นหลัก คือ สว.สีน้ำเงิน ที่จุดยืนชัดเจน ปกป้องคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์

สารส้ม