อาชีวะให้เลือด...มิติใหม่วิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์
ให้เลือดให้ชีวิต Give Blood–Give Life
วิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ (วท.) เป็น 1 ใน 421 สถานศึกษาของกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งมั่นจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เป็นมิติใหม่ของอาชีวศึกษาที่จะเริ่มต้นพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดทัศนคติเชิงบวกเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน ปัญหาของการทะเลาะวิวาท ยกพวกตีกัน ภาวะของอารมณ์รุนแรงของเด็กช่าง ต่อจากนี้ไปจะถูกปรับเปลี่ยนในบทบาทใหม่ด้วยคำว่า “การให้” ถือเป็นการนำร่องแห่งแรกที่ วท.กาฬสินธุ์ ที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะร่วมบริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจไม่มีการบังคับด้วยวิธีการใดๆ และส่งไม้ต่อไปยังสถานศึกษาในเครือข่าย 2 แห่ง ประกอบด้วย วิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชินีมุกดาหาร และวิทยาลัยการอาชีพปากช่อง เพื่อต่อยอดไปยังเครือข่ายต่อไปเป็นทอดๆ จนครบ 421 แห่ง ในสังกัดอาชีวศึกษานายวิศวชาติ สุวรรณราช ผอ.วท.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยของการก้าวไกลสู่อาเซียนGive Blood-Give Life หรือโครงการอาชีวะให้เลือดให้ชีวิตเป็นโครงการแรกที่เกิดขึ้นในรั้วอาชีวศึกษา โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสำนักงานเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์และ รพ.กาฬสินธุ์ ได้พร้อมใจกันเดินหน้าโครงการนี้อย่างเต็มกำลัง เพื่อเทิดพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา รวมถึงการส่งเสริมให้ผู้เรียนอาชีวศึกษาทำความดี มีจิตอาสา มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นการเพิ่มพูนการมีจิตสาธารณะ ทั้งยังเป็นการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ทั้งระบบจากโครงการนี้ นอกจากนี้ยังเป็นจุดนำร่องแห่งแรกที่จะเปิดฉากการบริจาคโลหิตโดยนักเรียน นักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาแบบไร้เงื่อนไขเป็นการบริจาคด้วยความสมัครใจไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทนใดๆทั้งนี้ เพื่อตอบสนองประโยคทองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กล่าวไว้ว่า “ผู้เรียนอาชีวศึกษาคือผู้ทรงคุณค่าของสังคม” ถือเป็นการจุดประกายให้เกิดโครงการเชิงคุณภาพที่หวังให้นักเรียน นักศึกษา และผู้เข้าร่วมโครงการอาชีวะให้เลือดให้ชีวิตได้รู้จักการให้ การให้ที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน ทั้งยังเป็นการพัฒนาบุคคลให้มีจิตสาธารณะ โดยมีเป้าหมายเป็นนักเรียนนักศึกษาจำนวน 400 คนคณะครูอาจารย์อีก 100 คน และเครือข่ายของ วท.กาฬสินธุ์อีก 65 คน อย่างไรก็ตามความคาดหวังของโครงการนี้ มีความต้องการให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของผู้เรียนอาชีวศึกษาที่ได้เสียสละตนเองทำความดีเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน โดยภาพลักษณ์ของผู้เรียนอาชีวศึกษาจะได้เป็นที่ยอมรับของสังคม และจะทำให้เพิ่มปริมาณผู้เรียนอาชีวศึกษาเพิ่มมากขึ้นในอนาคตนางจารุวรรณ โพธิกุฎสัย นายกเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าที่ผ่านมาในการขอรับบริจาคโลหิตในสถานศึกษาต่างๆ ใน จ.กาฬสินธุ์ ได้รับความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะในปีนี้เป็นปีมหามงคลที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมพรรษาครบ60 พรรษา ทั้งนี้ ด้วยทรงดำรงตำแหน่งองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทยด้วยความเอาพระทัยใส่ และทุ่มเทพระวรกายมามากมาย ทางเหล่ากาชาดจ.กาฬสินธุ์ จึงได้มีการเชิญชวนประชาชนทั่วไปร่วมบริจาคโลหิตเพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน ซึ่งรวมถึงการออกหน่วยเคลื่อนที่ไปใน 18 อำเภอ ของ จ.กาฬสินธุ์ ด้วย“สำหรับโครงการอาชีวะให้เลือดให้ชีวิต ของสถาบันการศึกษาอาชีวศึกษาใน จ.กาฬสินธุ์เชื่อว่าจะสามารถช่วยให้ภาวะการขาดแคลนเลือดในธนาคารเลือดของรพ.กาฬสินธุ์ และโรงพยาบาลประจำอำเภอทั้ง 18 แห่ง บรรเทาลงได้ เพราะที่ผ่านมา ธนาคารเลือดประสบปัญหาขาดแคลนเลือดที่เป็นทุกกรุ๊ปเลือด ในภาวะเร่งด่วนในสถานการณ์ต่างๆ ต้องเปิดรับบริจาคเลือดจากเครือญาติและบุคคลทั่วไปในการรักษาผู้ป่วยแต่ละครั้ง เนื่องจากธนาคารเลือดมีไม่เพียงพอ ซึ่งการบริจาคเลือดของนักเรียน-นักศึกษา และบุคลากรการศึกษาของสถาบันอาชีวศึกษาใน จ.กาฬสินธุ์ จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้ เพราะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีศักยภาพสูง มีร่างกายที่สมบูรณ์ และมีจำนวนมากนอกจากนี้การกระตุ้นให้เด็กวัยรุ่นสมัยใหม่หันมาสนใจความดี เสียสละตนด้วยการบริจาคโลหิต ถือเป็นวิธีการสร้างสรรค์ที่จะช่วยลดปัญหาวัยรุ่นในสังคมปัจจุบันได้อีกด้วยแต่หากท่านใดที่ต้องการบริจาคโลหิตสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ โทร.0-4382-2232 หรือโรงพยาบาลทุกแห่ง” นายกเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี