วันก่อน ได้เขียนบทความ “มาตรฐานนิด้าโพล”
ได้ตั้งโจทย์ไปยังนิด้าว่า “...เมื่อ ดร.อานนท์ลาออกไปแล้ว ผลสำรวจอย่างไม่เป็นทางการก็หลุดออกไปสู่สื่อสาธารณะแล้ว (ถูก-ผิด-ครบถ้วนหรือไม่ ก็ไม่รู้) บัดนี้ ถึงเวลาที่นิด้าโพลเอง จะต้องปกป้องสถาบันวิชาการของตนเอง ด้วยการตรวจสอบมาตรฐานการทำโพลล์ชุดที่เป็นปัญหา และเปิดเผยชุดคำถามที่ใช้จริงๆ กับผลสำรวจ พร้อมด้วยคำอธิบาย ประเมินมาตรฐานทางวิชาการ ว่าการทำโพลล์ชุดนั้น ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้มาตรฐานของนิด้าโพลอย่างไร? ด้วยเหตุผลใด?”
ในข้อเขียนข้างต้นได้ระบุชื่อ “อาจารย์ประดิษฐ์ วรรณรัตน์” อธิการบดีของนิด้าด้วย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา อาจารย์ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดแถลงข่าว ชี้แจงรายละเอียดต่อสื่อมวลชน กรณีสั่งระงับผลสำรวจความเห็นนิด้าโพล เกี่ยวข้องประเด็นนาฬิกาหรู
วันนี้ ขอสรุปสาระสำคัญ ตามที่ฝ่ายนิด้า ได้แจ้งไขออกมา ดังนี้
1.อธิการบดีนิด้า เปิดเผยข้อเท็จจริงเป็นครั้งแรก ว่าคำถามที่ถูกใช้ในการถามกลุ่มตัวอย่างมี 5 คำถาม
ได้แก่
คำถาม 1 ปกติเพื่อนของท่านเคยให้ยืมนาฬิกาแสนหรูราคาแพงมาใส่หรือไม่?
คำถาม 2 หากนักการเมืองอ้างว่าทรัพย์สินมูลค่าสูงมากที่ครอบครองมาจากการหยิบยืมเพื่อน ท่านเชื่อว่าเป็นการพูดความจริงหรือไม่?
คำถาม 3 ท่านคิดว่าการอ้างเรื่องการหยิบยืมทรัพย์สินราคาแพงมาครอบครอง จะทำให้การตรวจสอบการทุจริตต่อไปในอนาคต ทำได้หรือไม่?
คำถาม 4 ท่านคิดว่าคนที่พูดโกหก หรือพูดไม่จริง มีโอกาสประพฤติทุจริตหรือคดโกงหรือไม่?
คำถาม 5 ท่านยอมรับพฤติการณ์ปกป้องพรรคพวกรุ่นพี่รุ่นน้องที่น่าสงสัยว่าจะทุจริต/ประพฤติมิชอบ/กระทำผิดกฎหมายได้หรือไม่?
2.อธิการฯนิด้าระบุว่า คำถามในการทำโพลล์จะต้องไม่ชี้นำผู้ตอบให้ตอบไปในทิศทางที่ผู้ทำโพลล์ต้องการ
แต่ปรากฏว่าทุกคำถามในการทำโพลล์นี้ มีลักษณะเป็นคำถามชี้นำอย่างเห็นได้ชัดเจน (จากการสรุปของ ดร.นพดล กรรณิกา อดีต ผอ.เอแบคโพล และ ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ จากสวนดุสิตโพล ในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าว ช่อง PPTV ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2561)
ตัวอย่างเช่นคำถามที่ 1 เป็นคำถามที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ตอบแบบสอบถามจำนวน 55% มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาท และ 61% มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ซึ่งกลุ่มนี้คงไม่มีเพื่อนสนิทที่จะมีนาฬิกาแสนหรูราคาแพงให้ยืมได้ ดังนั้น คนกลุ่มนี้ก็จะต้องตอบว่า “ไม่เคย” อีกทั้งคำถามนี้ยังได้บรรจุคำที่สร้างอารมณ์ (Loading words) เช่น “แสนหรูราคาแพง” ซึ่งไม่ควรใช้ในการตั้งคำถามของการทำโพลล์ที่ถูกต้อง
3.อธิการบดีนิด้า ยืนยันว่า เหตุผลหลัก 3 ประเด็นที่ทำให้การทำโพลล์ดังกล่าว ขาดคุณสมบัติของการเป็นโพลล์ที่ดี และถูกต้องตามหลักวิชาการ ได้แก่
(1) ประโยชน์ที่ได้ต่อสังคมในการทำโพลล์เรื่องนี้ โดยท่านมองว่า การทำโพลล์เรื่องนี้ในช่วงเวลานี้ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กำลังอยู่ภายใต้การสอบสวนของป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช. ยังไม่ได้ข้อสรุป ผลของโพลล์อาจไปสร้างกระแสชี้นำสังคม นำไปสู่ความวุ่นวายได้
(2) คำถามในการทำโพลล์ จะต้องไม่ชี้นำผู้ตอบให้ตอบไปในทิศทางที่ผู้ทำโพลล์ต้องการ
(3) ผู้ทำโพลล์ต้องมีความเป็นกลางและปราศจากอคติต่อประเด็นหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับโพลล์ที่ทำ แต่ปรากฏว่า จากข้อความที่นายอานนท์ ได้โพสต์ลงบนหน้า Facebook ของตนเองเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2561 (ซึ่งเป็นวันก่อนการทำโพลล์) ว่า “ถ้าป้อมรอด ตู่กับ คสช. ก็จะไม่รอด อยู่ไม่ได้ ขาดความชอบทำ” แสดงให้เห็นว่านายอานนท์มีอคติและความไม่เป็นกลางต่อประเด็นนี้ ก่อนการทำโพลล์ครั้งนี้ และข้อความ “ลุงตู่ครับ ผมนะอยู่ข้างท่านมาตลอด ลุ้นใจหายใจคว่ำกับลุงมาตลอด ลุ้นจนถอดใจก็มี คนรอบข้างตัวลุงมีปัญหาจริงๆ ครับลุงตู่” ที่นายอานนท์ได้โพสต์ลงบน Facebook ของตนเองเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2561 (ซึ่งเป็นวันก่อนกำหนดการรายงานผลโพลล์) แสดงให้เห็ว่าผู้โพสต์มีความคิดเห็นชัดเจนตามที่ตนได้โพสต์ และคำถามที่ 5 ของการทำโพลล์ครั้งนี้ก็มีใจความในทำนองเดียวกับสิ่งที่นายอานนท์โพสต์
4.อาจารย์ประดิษฐ์ยืนยันว่า จากการพิจารณาเหตุผล 3 ประการข้างต้น เห็นว่าการทำโพลล์ดังกล่าว ขาดคุณสมบัติของการเป็นโพลล์ที่ดี ตนต้องรับผิดชอบต่อภารกิจของสถาบัน จึงต้องออกคำสั่งระงับยับยั้งโพลล์ดังกล่าวเพื่อการตรวจสอบ เพื่อธำรงไว้ซึ่งความถูกต้องและชื่อเสียงของสถาบัน
การันตีว่า ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดี 5 ปี ไม่เคยสั่งให้แก้ไขผลโพลล์แต่อย่างใด
ท่านฝากไปยังสื่อมวลชนและประชาชนว่า อย่าเคลือบแคลงหรือไม่มั่นใจในการดำเนินงานของนิด้าโพล ซึ่งยึดมั่นในความเป็นกลางและความถูกต้องตามหลักวิชาการในการสะท้อนเสียงของประชาชนให้สังคมได้รับรู้
5.เป็นเรื่องดีที่ทางนิด้า ไม่นิ่งนอนใจ
ไม่ปล่อยเรื่องให้เงียบหาย เป็นคลื่นกระทบฝั่ง โดยที่สังคมไม่ได้รู้ข้อเท็จจริง
สำหรับเรื่องนี้ เห็นด้วยกับท่านอธิการฯนิด้า ว่าคำถามไม่เป็นธรรม และไม่ได้มาตรฐานของการทำโพลล์จริงๆ
หากอนุญาตให้เปิดเผยตั้งแต่ต้น แล้วใช้วิธีติดตามมอนิเตอร์ ตรวจสอบมาตรฐาน ประเมินผลอย่างตรงไปตรงมา และให้ผู้จัดทำได้ชี้แจงผลงานของตนเองด้วย และหากไม่ได้มาตรฐาน ก็ควรจัดการลงโทษกับผู้บริหารที่ทำงานไม่ได้มาตรฐานของนิด้าโพล ย่อมจะเป็นธรรม และสวยงามกว่า เพราะเมื่อปิดกั้นไว้ สุดท้าย ผลสำรวจก็หลุดไปถึงสื่อสาธารณะอยู่ดี ซ้ำยังขาดข้อมูลว่าถามกลุ่มตัวอย่างว่าอย่างไร
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี