การเลือกตั้งทั่วไปชัดเจนและเชื่อว่าจะเป็นไปตามโรดแมปโดยจะมีขึ้นไม่เกินเดือน ก.พ.2562 หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านร่างกฎหมายสำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับสุดท้าย คือกฎหมายเลือกตั้งสส.และกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เว้นแต่จะมีการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมืองจนทำให้การเลือกตั้งต้องสะดุด
ความเคลื่อนไหวที่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้การเลือกตั้งมีปัญหาก็คือความพยายามปลุกระดมเพื่อขับไล่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ของคนกลุ่มหนึ่งที่บงการชักใยใช้นักศึกษาที่ นำโดย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” และ นายรังสิมันต์ โรม เป็นแกนนำ โดยมีขบวนการบางกลุ่มโดยพยายามสร้างสถานการณ์ขั้นแตกหักกับอำนาจรัฐคสช. โดยนัดแสดงพลังครั้งใหญ่ไล่คสช.ที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 24 มี.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าแผนสุมไฟป่วนเมืองให้เกิดการลุกฮือทั่วประเทศของขบวนการกลุ่มดังกล่าวคงไม่ประสบผลเหมือนที่ผ่านๆ มา โดยมีคนหน้าเดิมพวกเดียวกันออกมาชุมนุมแสดงพลังเพียงหยิบมือเดียว ขณะที่ประชาชนทั้งประเทศรู้ทันไม่ให้ความสนใจ
การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญที่จะชี้ชะตาอนาคตของประเทศโดยจะเป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองกลุ่มอำนาจเก่าซึ่งเป็นบริษัทธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา กับอำนาจรัฐทหารที่พยายามสืบทอดอำนาจผ่านนายกฯคนนอกหลังการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้น เพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศให้สำเร็จอย่างยั่งยืนภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
หากวิเคราะห์ในภาพรวมโดยพิจารณาจากกติกาการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมทั้งความได้เปรียบในการคุมอำนาจในมือของอำนาจรัฐคสช.ทำให้เชื่อว่า ด้วยระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสมซึ่งคะแนนทุกคะแนนมีความหมายจะทำให้พรรคขนาดใหญ่ได้ที่นั่งสส.ลดลง ขณะที่พรรคขนาดเล็กและขนาดกลางมีโอกาสได้สส.มากขี้น รวมทั้งการกำหนดเพดานจำกัดจำนวนสส.ของพรรคใหญ่ไม่ให้มีการผูกขาดเหมือนที่ผ่านมา ตลอดจนความแตกแยกภายในพรรคใหญ่สองพรรคคือพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ จึงคาดว่า รัฐบาลหลังการเลือกตั้งต้องเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค โดยที่ไม่มีพรรคการเมืองใหญ่พรรคใดพรรคหนึ่งสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้สำเร็จและจากการไม่สามารถตกลงกันได้ในการสรรหาหัวหน้าพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นนายกฯทำให้เชื่อว่าในที่สุดจะเป็นโอกาสให้ต้องมีนายกฯคนนอกนั่นคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.
อีกทั้งยิ่งการสรรหานายกฯหลังการเลือกตั้งยืดเยื้อออกไปนานเท่าใดก็ยิ่งเปิดโอกาสให้รัฐบาลคสช.อยู่บริหารประเทศนานขึ้นเท่านั้น
พรรคเพื่อไทยนั้นพยายามทำทุกวิถีทางทั้งบนดินและใต้ดินหวังกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกครั้ง แต่เส้นทางกลับสู่อำนาจของพรรคเพื่อไทยไม่ง่ายเหมือนในอดีตอีกต่อไป ทั้งด้วยปัจจัยต่างๆ ที่ไม่เอื้ออำนวย และที่สำคัญคือพรรคเพื่อไทยมีชนักปักหลังสำคัญในเรื่องภาพพจน์การทุจริตโกงบ้านกินเมืองอย่างมโหฬารและพฤติกรรมอันเลวร้ายในอดีตที่เป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติ อีกทั้งประชาชนเอือมระอาต่อพฤติกรรมของนักการเมืองและไม่อยากเห็นประเทศกลับไปสู่วิกฤติความรุนแรงและวังวนวงจรอุบาทว์อันเลวร้ายอีก
อย่างไรก็ตามไม่อาจปฏิเสธได้ว่าภาคอีสานและภาคเหนือยังเป็นฐานคะแนนเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทยที่ยังคงแข็งแกร่งแม้จะลดกระแสความนิยมลงบ้าง ซึ่งผลการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นหากชาวภาคอีสานและชาวภาคเหนือเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทยอย่างท่วมท้นก็อาจทำให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสมากขึ้นในการจัดตั้งรัฐบาล
เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างฝ่ายเผด็จการคสช.กับฝ่ายประชาธิปไตยอย่างที่อ้าง แต่จะเป็นการต่อสู้ระหว่างพลังฝ่ายที่ต้องการเดินหน้าปฏิรูปประเทศเพื่อชาติบ้านเมือง กับกลุ่มอำนาจเก่าซึ่งเป็นธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมอันเลวร้ายที่เป็นต้นเหตุของวิกฤติสร้างความบอบช้ำอย่างหนักให้กับประเทศ ทั้งนี้ประชาชนโดยเฉพาะชาวภาคอีสานและภาคเหนือจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดชะตากรรมอนาคตของชาติผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ซึ่งหากเลือกผิดนั่นหมายการเดิมพันอนาคตชาติที่จะกลับไปสู่วังวนวงจรอุบาทว์อันเลวร้ายแบบเดิมซ้ำซาก
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี