สวัสดีครับ ช่วงนี้เป็นช่วงปลายปี 2018 แล้ว ใกล้จะถึงเทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ น่าเสียดายที่เราสามารถส่งท้ายได้แค่ปีแต่ไม่สามารถส่งท้ายปัญหาคอร์รัปชันในสังคมให้หมดไปได้ ผมจึงสรุปเรื่อง “ต้านคอร์รัปชันที่ต้องทำต่อ” ทั้งหมด 9 ประเด็นดังนี้ครับ
การปลูกฝังความรู้ด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน – ที่ผ่านมาหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม พัฒนาหลักสูตร เครื่องมือ โครงการ และสื่อต่างๆ ที่หลากหลาย เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนไทยมีความรู้ด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน เช่น หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ของสำนักงาน ป.ป.ช. โรงเรียนคุณธรรม โตไปไม่โกง เกมต้านโกง ฯลฯ ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงจำเป็นต้องมีกระบวนการบูรณาการหลักสูตรและเครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ และนำไปสู่การใช้จริงอย่างมีประสิทธิภาพในโรงเรียน โดยครูและนักเรียนเป็นผู้เลือก ไม่ใช่ด้วยการถูกบังคับ นี่จึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างกระทรวงศึกษาธิการ และ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ที่ดำเนินโครงการเยาวชนตื่นรู้สู้โกง โดยในปีหน้านี้จะมีการทดลองนำการบูรณาการหลักสูตรและเครื่องมือเหล่านี้กับโรงเรียนจำนวนหนึ่งที่มีความพร้อมและสมัครใจ ผ่านระบบการจัดการที่ดี ให้เกิดผลสำเร็จก่อนการขยายผลต่อไป
2. การยกระดับเจตจำนงทางการเมืองในการต่อต้านการทุจริต - เมื่อไม่นานมานี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มูลนิธิเพื่อคนไทย และองค์กรเครือข่ายได้จัดทำโพลล์รวบรวมความเห็นจากประชาชนในเรื่องนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันให้เป็นการบ้านสำหรับผู้ที่จะได้ลงเลือกตั้งมาบริหารประเทศไทยเร็วๆ นี้ คงต้องติดตามในปีต่อไปว่ารัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งนี้จะสามารถแก้คอร์รัปชันเก่าได้หรือไม่
3. การส่งเสริมธรรมาภิบาลในทุกภาคส่วน – หนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหาคอร์รัปชันอย่างมีประสิทธิภาพในหลายประเทศทั่วโลกคือ การส่งเสริมธรรมาภิบาล ดังนั้น หากเราสามารถผลักดันให้เกิดธรรมาภิบาลขึ้นในแต่ละภาคส่วน ซึ่งมีลักษณะและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เช่น ภาคการเมือง ภาคการศึกษา ภาคการท่องเที่ยว ภาคตลาดเงิน ภาคตลาดทุน ภาคการสาธารณกุศล กลุ่มองค์กรอิสระ และองค์กรที่เกี่ยวข้องการความเชื่อและศาสนา ฯลฯ ก็จะทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้นทั่วประเทศอย่างยั่งยืน
4. ความโปร่งใสโดยการเปิดเผยข้อมูล – ปัจจัยหนึ่งในการมีธรรมาภิบาลคือการมีความโปร่งใส ที่ผ่านมาได้มีการริเริ่มเปิดเผยข้อมูลและพัฒนากลไกการเปิดเผยข้อมูลแล้วบ้าง เช่น โครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (Construction Sector Transparency: CoST) กลไกการมีตัวแทนภาคประชาชนเข้าไปติดตามการจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่ในโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact : IP) การเปิดเผยข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างในเว็บไซต์ www.gprocurement.go.th แต่ก็ยังมีอุปสรรคด้านความสมบูรณ์ข้องข้อมูลที่เปิดเผย การมีรายละเอียดครบถ้วน มีความทันท่วงที เข้าถึงได้ง่าย สามารถอ่านและวิเคราะห์ได้ด้วยคอมพิวเตอร์ ไม่มีกรรมสิทธิ์หากนำไปใช้ต่อ และไม่ต้องขออนุญาตในการใช้หรือเข้าถึงข้อมูล ดังนั้น ความท้าทายในปีหน้าคือการพัฒนาระบบการเปิดเผยข้อมูลให้เป็น “ค่าตั้งต้น” (default) ไม่ต้องรอให้ใครร้องขอ ให้ประชาชนสามารถเข้าไปติดตามอ่านข้อมูลได้ทุกเวลาเพื่อช่วยกันตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลได้
5. งานด้านกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและปราบปราม –ปัจจุบันมีการผ่านกฎหมายที่ส่งเสริมการทำงานต่อต้านคอร์รัปชันจำนวนมาก เป็นที่น่าเสียดายที่ประชาชนอีกเป็นจำนวนมากยังไม่ทราบ สาระสำคัญของกฎหมายเหล่านี้เท่าที่ควร ในปีต่อไปจึงควรมีการสื่อสารประเด็นนี้สู่สังคมในรูปแบบที่เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ในส่วนกระบวนการยุติธรรมและปราบปรามนั้นประชาชนจำนวนมากก็ยังคงรอความชัดเจนในการพิจารณาคดีทุจริตคอร์รัปชันที่คั่งค้างอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อนำผู้ที่ประพฤติผิดมารับโทษตามกฎหมาย
6. การพัฒนาการทำงานของหน่วยงานรัฐ – เป็นเรื่องปกติที่ไม่ควรปกติไปแล้วในสังคมไทยที่ธุรกิจและประชาชนต้องจ่ายสินบนเมื่อทำการติดต่อกับหน่วยงานราชการเพื่อซื้อความสะดวกรวดเร็ว ซื้อโอกาส และซื้อความผิดให้เป็นถูก น่าดีใจว่าในปีที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการได้ร่วมกันทบทวนความเหมาะสมของกฎหมายในโครงการ Regulatory Guillotine ในการลดขั้นตอนการดำเนินการขออนุญาตตามกฎหมายซึ่งจะเสร็จสิ้นในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ก็ยังจะมีอีกหลายกระบวนงานที่ระบบราชการยังใช้เวลานานจนอาจจะทำให้เกิดการจ่ายสินบนอยู่ จึงเป็นความท้าทายในการแก้ปัญหาด้านการพัฒนาการทำงานของหน่วยงานรัฐในปีหน้านี้
7. พัฒนางานข่าวสืบสวนสอบสวน สื่อพลเมือง - ในปีที่ผ่านมาข่าวสืบสวนสอบสวนและสื่อพลเมืองสามารถจุดประเด็นปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันให้กลายเป็นที่สนใจได้อย่างต่อเนื่อง และยังขยายวงของปัญหาจากพื้นที่หนึ่งไปสู่ปัญหาเดียวกันในพื้นที่อื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย เช่น กรณีขนมจีนน้ำปลา ซึ่งนับเป็นปัญหาระดับโรงเรียนในการทุจริตงบอาหารกลางวันแต่เมื่อเกิดประเด็นจากโรงเรียนหนึ่งแล้วจึงเกิดการตื่นตัวต่อปัญหาและนำไปสู่การตรวจสอบในโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ความท้าทายในปีต่อไปจึงเป็นการจะทำอย่างไรที่จะสามารถยกระดับพัฒนาสื่อสืบสวนสอบสวนที่มีจำนวนผู้เล่นไม่มาก และเสริมพลังให้กับสื่อพลเมืองหรือสื่อในท้องที่ในการเป็นกลไกรักษาผลประโยชน์ของสังคมได้ดียิ่งขึ้น
8. การสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน – การพัฒนาของเทคโนโลยีสามารถสร้างพื้นที่ที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมได้โดยง่าย ซึ่งนำมาพัฒนาการทำงานต่อต้านคอร์รัปชันได้มากมาย เช่น ใช้สร้างเครื่องมือให้ประชาชนทุกคนร่วมเป็นหูเป็นตา แลกเปลี่ยนข้อมูลความไม่ชอบมาพากลที่อาจจะนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันได้ มีพื้นที่ที่ปลอดภัยในการให้ข้อมูล รวมทั้งยังมีกลไกการทำงานที่สามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาได้จริง นอกเหนือจากด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาแล้ว ประชาชนยังสามารถมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้การทำงานด้านต่อต้านคอร์รัปชันได้ ด้วยการร่วมสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานผ่านหลายช่องทาง เช่น กองทุนธรรมาภิบาลไทย และ ระดมทุนผ่านเทใจ ดังนั้น การทำงานในปีต่อไปจะต้องมีการพัฒนากลไกให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น รวมถึงสร้างจะความตระหนักต่อพลังของประชาชนเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาด้วย
9. การพัฒนากลไกสร้างความยั่งยืนขององค์กรหรือโครงการต่อต้านคอร์รัปชัน – ปัจจัยสำคัญหนึ่งของความยั่งยืนคือการสนับสนุนทางการเงิน โดยในปัจจุบันมีกองทุนต่าง ๆ ที่ให้การสนับสนุนการทำงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน เช่น กองทุนธรรมภิบาลไทย, กองทุนรวมคนไทยใจดี, กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, กองทุนสื่อเพื่อความยุติธรรม, การระดมทุนผ่าน Crowdfunding platform เทใจ เป็นต้น และในปีหน้าจะมีการจัดตั้งกองทุนของสำนักงาน ป.ป.ช. อีกด้วย ทำให้การผลักดันความคิดดีๆ ไปสู่การปฏิบัติเกิดได้ง่ายขึ้น แต่ความท้าทายคือ จะทำอย่างไรให้โครงการที่ได้รับการสนับสนุนนี้สามารถยั่งยืนได้ด้วยตัวเองทั้งด้านการเงินและการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง
ยังมีเรื่องต้องทำอีกมากในปีต่อไป โดยสิ่งที่ทำได้ง่ายและเร็ว ที่องค์กรของท่านสามารถทำได้เลยคือการร่วมประกาศและส่งเสริมนโยบาย No Gift Policy งดการให้และรับของขวัญ หรือมีการมีแนวปฏิบัติในการให้และรับของขวัญที่เหมาะสม เช่น การให้บัตรอวยพร การกำหนดมูลค่าของขวัญ การนำของขวัญที่ได้มาเป็นของส่วนกลางแล้วจับสลากแบ่งกัน ฯลฯ เพื่อป้องกันการติดสินบนอย่างแอบแฝง ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อองค์กรและสังคม ดังเช่นที่หลายๆ องค์กรได้ประกาศกันไปแล้ว ก็จะเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้องรับปีใหม่ที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์อย่างมากครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี