วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ / ลงมือสู้โกง โดย...เพียงกมล สุรางค์ไทย
ลงมือสู้โกง โดย...เพียงกมล สุรางค์ไทย

ลงมือสู้โกง โดย...เพียงกมล สุรางค์ไทย

เพียงกมล สุรางค์ไทย
วันพุธ ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
เที่ยวด้วยกัน ร่วมกันต้านโกง

ดูทั้งหมด

  •  

จากการพบความพิรุธในการลงทะเบียนใช้สิทธิ์โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” นำไปสู่การตรวจสอบพบโรงแรม ร้านค้าส่อทุจริตจำนวนกว่า 500 แห่ง จึงเกิดการชะลอการเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์จากโครงการ ในเฟสที่ 2 ทำให้ในช่วงปีใหม่นี้นอกจากโควิดที่อาจจะกลับมาแพร่ระบาดสร้างความเดือดร้อนให้กับทุกคนอีกครั้งแล้ว ธุรกิจท่องเที่ยวก็อาจจะไม่สามารถฟื้นตัวได้ดีเท่าที่ควรเนื่องจากการทุจริต

โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลต้องการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคประชาชนผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สนับสนุนการสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม ทั้งนี้รัฐบาลได้สนับสนุนโครงการแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่


ส่วนที่หนึ่ง สนับสนุนส่วนลดค่าโรงแรมที่พัก โดยการสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ทั้งนี้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน

ส่วนที่สอง สนับสนุนส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว รัฐบาลจะสนับสนุนคูปองอาหาร/ท่องเที่ยวมูลค่า 900 บาท ต่อห้องต่อคืน ให้กับประชาชน เมื่อ check-in โรงแรม ในช่วงวันจันทร์-พฤหัสบดี รับ 900 บาท และ วันศุกร์-อาทิตย์ รับ 600 บาท ซึ่งผู้รับสิทธิ์จะได้รับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว วันละ 1 ครั้ง หลังเวลา 17.00 น. ของวันที่ทำการ check-in โดยคูปองจะหมดอายุเวลา 23.59 น.ของวัน check-out คูปองอาหาร/ท่องเที่ยวสามารถใช้ได้ที่ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการโดยประชาชนชำระ 60% และรัฐบาลสนับสนุนอีก 40% ผ่านการตัดเงินจากคูปอง เสมือนว่าประชาชนได้รับส่วนลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไป 40%

ส่วนสุดท้ายเป็นการสนับสนุนค่าเดินทางโดยเครื่องบิน ประชาชนที่ใช้สิทธิ์ขอรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินจะต้องเป็นผู้ที่จองโรงแรมผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันเท่านั้น โดยมีสิทธิ์ได้รับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 2 สิทธิ์ผู้โดยสาร ต่อ 1 ห้องโรงแรมที่จอง ทั้งนี้เงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 2,000 บาท ต่อผู้โดยสาร และสิทธิ์เพิ่มเติมรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อผู้โดยสาร ที่เดินทางท่องเที่ยวไปยัง ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย โดยประชาชนต้องจ่ายเงินค่าตั๋วเต็มจำนวนไปก่อน ณ ตอนจองตั๋วเครื่องบิน และต้องมีการเดินทางในเที่ยวบินนั้นจริง รวมถึง check-in และ check-out ที่โรงแรมที่จองไว้กับโครงการ จริง โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมตั๋วเครื่องบินเป็นประเภทไปหรือกลับ หรือทั้งไปและกลับจากจังหวัดที่จองโรงแรม กรณีขึ้นลงคนละจังหวัดก็สามารถทำได้ หากเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคเดียวกัน วันที่เดินทางไปหรือกลับ ต้องไม่ห่างจากวัน check-in หรือ check-out โรงแรมที่จองผ่านโครงการฯไม่เกิน 5 วัน จะเห็นได้ว่ารัฐบาลได้ออกนโยบายที่เป็นการรักษาระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยดึงดูดใจให้ประชาชนให้ไปเที่ยวรู้สึกผ่อนคลาย และเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร สายการบินต่างๆ ที่ต้องประสบปัญหาจากโรคระบาด ถึงแม้ว่านโยบายเหล่านี้จะต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมากก็ตาม

แต่เป็นที่น่าเสียดาย เมื่อโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟสที่ 2 มีความจำเป็นที่ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากมีการพบการโกงที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินโครงการมีผู้ใช้สิทธิ์ออกมาแฉเรื่องราคาห้องของโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ ปรับสูงขึ้นมากเมื่อจองผ่านโครงการ รวมถึงกลุ่มต่างๆ ในเฟซบุ๊คที่เปิดประกาศรับซื้อขายสิทธิ์และคูปองกันอย่างโจ่งแจ้ง เป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศตรวจสอบพฤติกรรมและธุรกรรมที่น่าสงสัยทันที จึงพบว่ามีกรณีการกระทำที่เข้าข่ายทุจริตเป็นขบวนการซึ่งเป็นการร่วมมือกันของผู้ได้รับสิทธิ์กับผู้ประกอบการโรงแรม และร้านค้าที่ร่วมในโครงการ ที่สามารถตรวจสอบได้ในขณะนี้มี 6 วิธีโกงด้วยกัน ได้แก่

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสุดท้ายของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟสที่ 1 สิทธิที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับกลับหมดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ มิหนำซ้ำยังมีผู้พบเห็นการโกง มีผู้ใช้สิทธิออกมาแฉเรื่องโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการฯ ปรับราคาค่าห้องสูงขึ้นมากเมื่อจองผ่านโครงการฯ รวมถึงกลุ่มต่างๆ ในเฟซบุ๊คที่เปิดประกาศรับซื้อขายสิทธิและคูปองกันอย่างโจ่งแจ้ง ทำให้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟสที่ 2 ที่รัฐบาลกำลังจะประกาศรับลงทะเบียนต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด นายกรัฐมนตรีประกาศให้ตรวจสอบพฤติกรรมและธุรกรรมที่น่าสงสัยทันที จึงได้พบว่ามีกรณีการกระทำที่เข้าข่ายทุจริตเป็นขบวนการ เป็นการร่วมมือกันของผู้ได้รับสิทธิกับผู้ประกอบการโรงแรมและร้านค้าที่ร่วมในโครงการ โดยกลโกงที่สามารถตรวจสอบได้ในขณะนี้มี 6 วิธีโกงด้วยกัน ได้แก่

1) จองห้องพักราคาถูก ผ่านแอพฯ มีการเช็คอินแต่ไม่ได้เข้าพักจริง เอาประโยชน์จากการใช้คูปองสนับสนุน

2) ร่วมมือกับผู้จองซื้อขายสิทธิ์กัน โดยโรงแรมและร้านค้าเป็นผู้ซื้อสิทธิ์ ผู้จองหรือผู้รับบริการเป็นผู้ขายสิทธิ์ ไม่ได้มีการเดินทางหรือไปรับบริการจริงแต่ส่งเลขท้ายบัตรประชาชนและเบอร์มือถือ เพื่อเช็คอิน check-in และใช้สิทธิ์

3) โรงแรมมีตัวตนจริง ลงทะเบียนถูกต้อง ทั้งที่ยังไม่เปิดให้บริการแต่กลับมีการขายห้องพัก

4) ใช้คูปองเต็มมูลค่าเงินที่สนับสนุนทั้งที่ไม่เกิดการรับบริการจริง รับเงินจากส่วนต่าง

5) โรงแรมปรับขึ้นราคาค่าห้องพักและบริการอื่นๆ มากกว่าปกติเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนที่มากขึ้น มีการเข้าพักจริงแบบเหมากรุ๊ป ส่วนใหญ่เป็นการจองตรงกับโรงแรม

6) โรงแรมเปิดขายห้องพักเกินจำนวนจริงที่มี เช่น โรงแรมมีห้องพัก 100 ห้อง แต่เปิดจอง 300 ห้อง หากเกินก็จะนำสิทธิ์ไปขายต่อให้กับโรงแรมอื่นแล้วกินส่วนต่าง โดยอ้างว่าเป็นการ upgrade

เหตุการณ์โกงของโครงการเราเที่ยวด้วยกันนั้น ผู้เขียนอยากขอเชิญชวนให้ทุกท่านร่วมด้วยช่วยกันเป็นหูเป็นตารักษาผลประโยชน์ให้กับสังคม ช่วยกันป้องกัน เปิดโปงผู้กระทำผิดให้ได้รับโทษ เกิดเป็นกลไกของสังคมที่จะไม่ยอมให้มีคนทุจริตโกงประชาชน โกงรัฐทั้งในสถานการณ์ปกติและในช่วงสถานการณ์ที่เกิดความยากลำบากจากโรคระบาดนี้

ในเร็ววันนี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับเครือข่ายได้สร้างเครื่องมือ “จับโกงงบ COVID ด้วย ACT Ai”ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลการใช้เงินในโครงการต่างๆ ของงบที่รัฐบาลกู้มาเพื่อรับมือกับวิกฤติโควิด-19ที่กำลังจะเปิดตัวขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ ท่านสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ covid19.actai.co เพราะการติดตามตรวจสอบเป็นหูเป็นตาให้กับสังคมนั้นไม่จำเป็นต้องรอการแต่งตั้ง แต่เป็นสิ่งที่พวกเราประชาชนต้องช่วยกัน ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อพวกเราเอง


เพียงกมล สุรางค์ไทย
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:24 น. ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
12:09 น. ‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน
12:03 น. เชียงรายอ่วม!ฝนหนักทำน้ำท่วม 15 อำเภอ ปภ.เร่งสำรวจความเสียหายช่วย ปชช.
11:48 น. ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68
11:30 น. แก่นแท้ของการบวชในพระพุทธศาสนา สู่ความหลุดพ้น หรือเพียงแค่โลกียวิสัย?
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

สุดทน!‘สุทิน’จี้ผู้รักษากฎหมายต้องขยับ ปล่อยให้‘สทร.’ย่ำยีประเทศไม่ได้อีกแล้ว

‘นักเขียนซีไรต์’ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด มุ่งแก้ ม.112 นิรโทษกรรมตัวเอง

จับ 3 พ่อค้าชาวกัมพูชาลอบข้ามแดนกลางดึก คาดพิษเศรษฐกิจชายแดนทำค้าขายไม่ได้

'ธรรมนัส'เผย ความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ชูนโยบายเพื่อคนฐานราก

  • Breaking News
  • ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
  • ‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน ‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน
  • เชียงรายอ่วม!ฝนหนักทำน้ำท่วม 15 อำเภอ ปภ.เร่งสำรวจความเสียหายช่วย ปชช. เชียงรายอ่วม!ฝนหนักทำน้ำท่วม 15 อำเภอ ปภ.เร่งสำรวจความเสียหายช่วย ปชช.
  • ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68 ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68
  • แก่นแท้ของการบวชในพระพุทธศาสนา สู่ความหลุดพ้น หรือเพียงแค่โลกียวิสัย? แก่นแท้ของการบวชในพระพุทธศาสนา สู่ความหลุดพ้น หรือเพียงแค่โลกียวิสัย?
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

แบไต๋ Forex-3D คดีแชร์ลูกโซ่ลวงโลก

แบไต๋ Forex-3D คดีแชร์ลูกโซ่ลวงโลก

24 ส.ค. 2565

7 วัน อันตราย...เทศกาลซื้อขายความผิด

7 วัน อันตราย...เทศกาลซื้อขายความผิด

13 เม.ย. 2565

หน้าที่ซ่อนเร้นกับโอกาสในการเกิดคอร์รัปชัน

หน้าที่ซ่อนเร้นกับโอกาสในการเกิดคอร์รัปชัน

20 ต.ค. 2564

สลากแพง...แก้ได้หรือไม่!!

สลากแพง...แก้ได้หรือไม่!!

28 เม.ย. 2564

เที่ยวด้วยกัน ร่วมกันต้านโกง

เที่ยวด้วยกัน ร่วมกันต้านโกง

23 ธ.ค. 2563

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved