ลดภาษีสถานบันเทิงถึงสิ้นปี69 บรรเทาภาระผู้ประกอบการหนุนการจ้างงาน

ลดภาษีสถานบันเทิงถึงสิ้นปี69 บรรเทาภาระผู้ประกอบการหนุนการจ้างงาน

วันพฤหัสบดี ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

 

ดร. พรชัย ฐีระเวช อธิบดีกรมสรรพสามิตเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ควบคู่กับการยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการในระยะยาว โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างทั่วถึง สอดคล้องกับนโยบาย “Quick Big Win” ของรัฐบาลซึ่งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ประกอบด้วย 5 มาตรการย่อย ได้แก่


1. มาตรการภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว

2. มาตรการภาษีสำหรับนิติบุคคลเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ

3. มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนาของภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (Front Load)

4. มาตรการขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ

5. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก

ทั้งนี้สำหรับมาตรการที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกรมสรรพสามิตคือมาตรการขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจโดยขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษี สำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจประเภทที่ 17.01 เช่น ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ บาร์ และค็อกเทลเลานจ์ ตามมูลค่าจาก10%เหลือ 5 %ออกไปอีก 1 ปีมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569

ดร. พรชัย กล่าวว่ามาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดภาระต้นทุนของสถานบริการช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและปรับลดราคาค่าบริการลงเพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวให้ใช้จ่ายมากขึ้นซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจส่งเสริมการท่องเที่ยว การจ้างงานและสร้างการหมุนเวียนรายได้ภายในประเทศ อีกทั้งยังเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ได้สั่งการให้สำนักงานสรรพสามิตภาคสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาทั่วประเทศมีความพร้อมในการให้คำแนะนำและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษี และชำระภาษีด้วยความถูกต้องเพื่อที่จะได้กระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศให้สอดคล้องตามมติคณะรัฐมนตรีและสอดรับตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง(ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)รมช.คลัง(นายวรภัค ธันยาวงษ์) และปลัดกระทรวงการคลัง(นายลวรณ แสงสนิท) ผู้ประกอบการสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมสรรพสามิต1713 หรือที่สำนักงานสรรพสามิตทั่วประเทศ

ดร. พรชัยกล่าวว่ากรมสรรพสามิตมุ่งมั่นดำเนินนโยบายภาษีเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการช่วยลดภาระผู้ประกอบการและส่งเสริมให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมั่นคงควบคู่ไปกับการบูรณาการความร่วมมือกับกรมการปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คำแนะนำและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมาจดทะเบียนสถานประกอบการเพื่อขยายฐานภาษีสรรพสามิตรวมทั้งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top