nn โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)...เป็นหนึ่งโครงการสำคัญที่รัฐบาลชุดก่อนและรัฐบาลนี้พยายามที่จะสร้างขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศ รวมทั้งตั้งใจจะทำให้เป็นต้นแบบของการสร้างโอกาสและกระจายความเจริญไปยังระดับภูมิภาค เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม...แต่กระนั้นก็ยังถูกหยิบเอามาโจมตีทางการเมือง อย่างที่เห็นในการอภิปรายในสภาในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบายเมื่อปลายเดือนก่อน..และก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอาเข้าจริงโครงการนี้อาจจะเกิดขึ้นไม่ได้ด้วยซ้ำไป....
อย่างไรก็ตาม แทนที่รัฐบาลจะออกมาโต้เถียงในหน้าสื่อ…รัฐบาลกับเลือกวิธีเร่งเดินหน้าทำงานเพื่อให้โครงการบังเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วดีกว่า....ล่าสุด...นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง....พร้อมด้วย ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และคณะ สกพอ. เดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา
ภารกิจ ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 คณะฯ ได้มีโอกาสเข้าพบ นาย Taro Aso รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเน้นย้ำสถานะทางเศรษฐกิจของไทยว่ามีเสถียรภาพและมีนโยบายทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยและสนับสนุนการลงทุนและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งในประเทศและเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน และสถาบันการเงินของทั้งสองประเทศในด้านต่างๆ เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การเชื่อมโยงระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ และนโยบายรองรับสังคมผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้หารือกับนาย Tadashi Maeda ผู้ว่าการธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan Bank for International Cooperation: JBIC) เกี่ยวกับการดำเนินโครงการที่สำคัญของ JBIC ในประเทศไทย เช่น การสนับสนุนด้านเงินกู้ทั้งในโครงการภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการสนับสนุนทางการเงินแก่ SMEs ของญี่ปุ่นในประเทศไทย ในโอกาสนี้ ได้เชิญชวนให้ JBIC ขยายบทบาทในประเทศไทย โดย นายอุตตม...ได้กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งในประเทศและเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกับภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งนี้ นายอุตตม ได้แสดงความขอบคุณที่ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกลไกการขับเคลื่อนการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ ไทยมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังได้หารือทวิภาคีกับผู้บริหารของบริษัท Marubeni Corporation ซึ่งได้ให้ความมั่นใจถึงเศรษฐกิจไทย พร้อมทั้งเชิญชวนให้บริษัทขยายการลงทุนในประเทศไทย
ส่วนภารกิจ ในวันที่ 31 สิงหาคม 2562 คณะ ได้มีโอกาสเข้าพบนาย Hiroshige Seko รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เพื่อกระชับความร่วมมือและสานต่อนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และยังได้พบหารือกับผู้บริหารหน่วยงานเศรษฐกิจของญี่ปุ่น อาทิ นาย Kazuho Tanaka ผู้ว่าการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Japan Finance Corporation (JFC) และนาย Nobuhiko Sasaki ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศญี่ปุ่น (JETRO) รวมถึงภาคเอกชนและสถาบันการเงินระดับสูง อาทิ บริษัท Mitsubishi Electric Corporation บริษัท Toyota Motor Corporation และธนาคาร Mizuho พร้อมกันนี้ คณะได้เข้าร่วมงานเสวนาเรื่อง ทิศทางนโยบายด้านเศรษฐกิจการเงิน การคลังของไทยและความต่อเนื่องของ EEC และพบปะภาคเอกชนญี่ปุ่น โดยมีผู้แทนสมาพันธ์ธุรกิจ (Keidanren) ประมาณ 30 ราย เข้าร่วมรับฟังการเสวนาดังกล่าวด้วย
ล่าสุดนายชินจิ นาคาโนะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (Japanese Chamber of Commerce, Bangkok) หรือ JCC ได้เข้าหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้สอบถามถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อต้องการให้รัฐบาลสานต่อนโยบายเดิม ซึ่งได้ร่วมมือกับญี่ปุ่นในการร่วมพัฒนาโครงการไทยแลนด์ 4.0 นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การพัฒนาบุคลากร JCC ยังได้รายงานผลการสำรวจความเชื่อมั่นของนักธุรกิจญี่ปุ่นที่ต้องการลงทุนในประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกของปี พบว่าความเชื่อมั่นลดลง เนื่องจากความกังวลในเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ค่าเงินบาทแข็งค่า และการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า แต่การสำรวจความเชื่อมั่นใน 6 เดือนข้างหน้า หลังจากจัดตั้งรัฐบาลแล้ว รัฐบาลเตรียมทยอยออกมาตรการทางด้านเศรษฐกิจ การสานต่อนโยบายและการลงทุนขนาดใหญ่ โดยขอให้รัฐบาลดูแลสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน การปรับค่าจ้างแรงงานอย่างรอบคอบ
ถึงตรงนี้สรุปว่านักลงทุนต่างชาติซึ่งก็น่าจะรวมถึงนักลงทุนในประเทศด้วย...ต่างมองว่าเห็นโอกาสที่ดีของโครงการ EEC...แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลจากปัจจัยภายในประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของการเมืองนั้น อาจจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นของลงทุนลงไปบ้าง...จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่รัฐบาลต้องเร่งออกไปสร้างความเชื่อมันและเชิญชวนนักลงทุนอีกครั้ง.....
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี