nn เรื่องของความปลอดภัยในอาหารกำลังเป็นประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ...ซึ่งขณะนี้เรื่องของอาหารที่กำลังเป็นกระแสสำคัญคือ..การระบาดของเชื้ออหิวาต์แอฟริกา (Africa Swine Fever) .....ในหลายประเทศ ทำให้ปริมาณเนื้อสุกรหายไปจากตลาดจำนวนไม่น้อย...
ทั้งนี้กำลังสร้างปัญหาหนักให้กับประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภคหลักของโลก...ซึ่งตอนนี้ประเทศจีนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ขาดแคลนเนื้อสุกร ส่งผลให้ราคาเนื้อสุกรแพงมาก ทำให้ประชาชนชาวจีนหันมาบริโภคเนื้อไก่ทดแทน จนทำให้ระดับราคาเนื้อไก่ในประเทศจีนพุ่งสูงขึ้นถึงเท่าตัว ....
อย่างไรก็ตาม ในวิกฤติย่อมมีโอกาส...ในภาวะนี้ก็ต้องยอมรับว่าความต้องการบริโภคเนื้อไก่ของชาวจีน จึงนับเป็นโอกาสมหาศาลของอุตสาหกรรมไก่ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มโรงงาน 7 แห่ง ที่ผ่านการรับรองไปแล้วก่อนหน้านี้….ทั้งนี้ เมื่อปี 2561 สำนักงานการขึ้นทะเบียน หรือรับรองแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือ CNCA ประกาศขึ้นทะเบียนบริษัทผู้ผลิตและแปรรูปเนื้อไก่ของไทยจำนวน 7 แห่ง เท่านั้น ที่สามารถส่งเนื้อไก่และผลพลอยได้แช่แข็งไปจีนได้ ประกอบด้วย CPF จำนวน 2 โรงงาน GFPT สหฟาร์ม โกลเด้นท์ไลน์ ไทยฟู้ด และ F&F Food จึงทำให้ทั้ง 7 โรงงานนี้ ได้รับอานิสงส์ราคาดังกล่าวทันทีในขณะนี้
ต้องบอกอย่างนี้ว่าราคาไก่ระดับนี้ไม่เคยปรากฏที่ไหนในโลก เช่น ตีนไก่จากตันละ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มเป็น 4,200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ปีกกลางไก่ จากตันละ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มเป็น 5,200 ดอลลาร์สหรัฐ จึงถือเป็นโอกาสอันดีมากของผู้ผลิตเนื้อไก่ทั้ง 7 โรงงาน
อย่างที่รู้ว่ากำลังการบริโภคของจีนนั้นใหญ่ระดับต้นของโลก เพียงแค่ 7 โรงงานของไทยและอีกไม่กี่ประเทศที่จีนยอมนำเข้าเพราะเชื่อมั่นในคุณภาพ...ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดจีนแน่นอน...ล่าสุด ประเทศจีน....ได้ส่งเจ้าหน้าที่กรมความปลอดภัยด้านอาหารนำเข้าส่งออก สำนักงานการศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) ต้องออกตรวจประเมินความปลอดภัยของเนื้อไก่จากหลายประเทศผู้ผลิตไก่ โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมาย ซึ่งคณะจากจีนเพิ่งเข้ามาสุ่มตรวจ 10 โรงงานไก่-เป็ดของไทย จากทั้งหมด 22 โรง คาดว่าจะแจ้งผลประเมินออกมาได้ในเร็วๆ นี้ หากจีนประกาศรับรองโรงงานไทยมากขึ้นก็จะสามารถส่งออกเนื้อไก่ไปจีนได้เพิ่มขึ้นตามจำนวนโรงงานที่ได้รับการรับรอง
ภาพรวมการส่งออกเนื้อไก่ของไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 เป็นปริมาณ 5.4 แสนตัน เพิ่มขึ้น 9.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ประเทศจีนนำเข้าเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ไก่จากไทยใน 7 เดือนแรก ของปีนี้รวม 33,500 ตัน เพิ่มขึ้นประมาณ 712% ส่งผลให้จีนกลายเป็นตลาดส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ไก่จากไทยเป็นปริมาณสูงเป็นอันดับ 3 รองจากยุโรปและญี่ปุ่น ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณการส่งออกเนื้อไก่ของไทยตลอดทั้งปี 2562 น่าจะเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 9 แสนตัน รวมถึงมูลค่าการส่งออกที่น่าจะสูงเกินกว่าเป้าเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นอกจากปัจจัยบวกที่มากจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีอีกปัจจัยบวกที่สำคัญ คือประเทศจีนไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไก่ เพียง 2 ประเทศ คือ ไทยและชิลี....ขณะที่ไทยได้เปรียบในแง่ระยะทางที่อยู่ใกล้จีนมากกว่าชิลี...ดังนั้นทำให้อุตสาหกรรมไก่ของไทยมีความสดใสมากนับตั้งแต่นี้ไปจนกว่าจีนจะสามารถคลี่คลายปัญหาขาดแคลนเนื้อหมูของตนได้....
สรุปอุตสาหกรรมไก่ของไทยมีความได้เปรียบกับประเทศคู่แข่งหลายด้านทั้งในแง่มาตรฐานการผลิตที่อยู่ในระดับสากล มีความปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการผลิต ที่สำคัญด้วยระยะทางที่ใกล้กัน จึงส่งผลดีต่อการส่งออก ซึ่งจะทำให้ยอดการส่งออกเนื้อไก่ไปจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดและต่อเนื่อง ทั้งยังส่งผลให้ระดับราคาเนื้อไก่ในประเทศแข็งตัวด้วย
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี