วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี จนประชาชนทั่วไปรู้สึกและสัมผัสได้ว่า การประกอบอาชีพและการหาเงิน มีสภาพค่อนข้างฝืดเคืองไม่คล่องตัวเหมือนเมื่อก่อน แม้ว่านักวิชาการบางคนจะให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยอ้างตัวเลขทางวิชาการเพื่อยืนยันก็ตาม
เมื่อประชาชนหาเงินลำบาก จึงเป็นโอกาสที่ผู้ไม่ประสงค์ดี จะชักชวนคนทั่วไปให้มาลงทุน โดยมีผลตอบแทนสูงเป็นสิ่งล่อใจ ผู้ที่ถูกชักชวนจะมีความรู้สึกว่า โครงการที่ผู้ไม่ประสงค์ดีมาชักชวนนั้น มีความน่าเชื่อถือ และมีความเป็นไปได้ อีกทั้งไม่ยุ่งยากต่อการลงทุน เพียงแค่นำเงินไปลงทุน และรอรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร
ในหลายๆ กรณี ผู้ที่ชักชวนให้มาลงทุน จะเป็นคนใกล้ตัว ที่มีความสนิทสนม ทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจและบางครั้งแม้จะไม่มีความสนิทสนม แต่คนที่ชักชวนนั้นเป็นผู้มีชื่อเสียง หรืออาจจะอยู่ในวงการบันเทิง ก็ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ และเข้าร่วมลงทุนเช่นกัน
ระยะหลังจะเห็นว่า มีผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิงหลายๆ คน ถูกดำเนินคดีอาญา ที่มาจากการกระทำความผิดโดยเริ่มจากการชักชวนให้มาร่วมลงทุนและให้ผลตอบแทนสูง
เส้นแบ่งระหว่างการลงทุน ที่แท้จริงกับการหลอกลวง จะอยู่ตรงไหน?
การลงทุนที่แท้จริง ผู้ลงทุนต้องยอมรับความจริงว่า การลงทุนมีความเสี่ยง เสี่ยงที่จะได้กำไร หรือขาดทุน และการลงทุนที่แท้จริง จะต้องมีการประกอบธุรกิจที่เป็นจริง และทำธุรกิจกันจริง
ส่วนการหลอกลวงให้ลงทุน จะเป็นการสร้างภาพที่ไม่มีอยู่จริง และให้ข้อมูลเท็จ เป็นเหตุให้ผู้ลงทุนหลงเชื่อตามข้อมูลที่ผู้ไม่ประสงค์ดีให้ เพื่อชักชวนให้มาลงทุนที่ไม่มีอยู่จริง การหลอกลวงให้ลงทุนในทุกกรณี จะตามมาด้วยการโฆษณาชวนเชื่อว่า ให้ผลตอบแทนสูงมากจนผิดวิสัย จนไม่น่าเป็นไปได้ แต่ส่วนหนึ่งที่ผู้ลงทุนหลงเชื่อ มักจะมาจากความโลภที่จะได้รับผลตอบแทนสูง รวมถึงการไว้เนื้อเชื่อใจด้วย
การหลอกลวงชักชวนให้มาลงทุนดังกล่าวเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีหรือผู้ที่หลอกลวง ได้หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความเป็นเท็จ หรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงเช่นว่านั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม มีความผิดจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หากการหลอกลวงชักชวนให้มาลงทุน ที่แสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ถือเป็นความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน ที่มีผู้เสียหายตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การหลอกลวงชักชวนให้มาลงทุน ได้เปลี่ยนรูปแบบและพัฒนาขึ้น มีผู้ที่ถูกหลอกลวงเป็นจำนวนมาก ผู้ที่ไม่ประสงค์ดีหรือผู้หลอกลวง ใช้วิธีการชักชวนให้ผู้มาลงทุนเป็นจำนวนมาก และมีวิธีการแยบยล ด้วยการนำเงินลงทุนของผู้ที่ถูกหลอกลวงรายใหม่ มาจ่ายเป็นค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์ให้แก่ผู้ที่ถูกหลอกลวงรายก่อนๆ วนกันไปเป็นลูกโซ่ จำนวนผู้ถูกหลอกลวงมีจำนวนมากๆ ขึ้นทุกที จนมีลักษณะเป็นพีระมิด การหลอกลวงมาลงทุน ในลักษณะนี้ จะเรียกว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ ซึ่งไม่มีการลงทุนธุรกิจที่เป็นจริง
แชร์ลูกโซ่ในระยะแรก ไม่มีกฎหมายที่จะดำเนินการเอาผิดได้ชัดเจน จึงเป็นที่มาของการบัญญัติกฎหมายมาใช้บังคับเป็นกรณีพิเศษเกี่ยวกับการกระทำความผิดประเภทนี้เรียกว่า พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2527 มีโทษจำคุก 5-10 ปี และปรับ 500,000-1,000,000 บาท หากฝ่าฝืนต่อเนื่องปรับอีกวันละ 10,000 บาท
กฎหมายพิเศษนี้ บัญญัติขึ้นเพื่อใช้ในสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสังเกตเห็นได้ว่า มีความเร่งด่วนในสมัยนั้นมาก เพราะคณะรัฐมนตรีได้ประกาศเป็นพระราชกำหนด ให้เป็นกฎหมายมีผลใช้บังคับในทันที เพราะถือว่าเป็นภัยต่อเศรษฐกิจของประเทศในขณะนั้น แล้วจึงนำพระราชกำหนดเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา
เพื่อให้ความเห็นชอบย้อนหลัง
ล่าสุด เรื่องการชักชวนให้มาลงทุน ได้เกี่ยวพันกับผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิง จนเป็นข่าวดังระดับประเทศ เพราะผู้ที่ชักชวนให้ลงทุน และผู้ถูกชักชวนให้ลงทุนล้วนเป็นดาราดังที่มีชื่อเสียง และมีดาราเป็นผู้ถูกดำเนินคดีอาญา
จึงต้องย้อนกลับไปดูว่า กรณีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในวงการบันเทิงล่าสุด เส้นแบ่งระหว่างการลงทุนที่แท้จริง กับการชักชวนหลอกให้มาลงทุนอยู่ตรงไหน? เช่น การชักชวนให้มาลงทุน เพื่อปล่อยเงินกู้โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยจากผู้กู้ สูงถึง 4%-7% ต่อเดือน หรือ 48%-84% ต่อปี ที่ไม่มีอยู่จริง, การอ้างชื่อบุคคลผู้มีชื่อเสียงว่า ได้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นด้วย ที่ไม่มีอยู่จริง เพื่อให้บุคคลอื่นเกิดความเชื่อถือและร่วมลงทุนด้วย, การชักชวนเพื่อให้มาลงทุนโดยอ้างว่าลงทุนในธุรกิจบาสเกตบอล และลงทุนธุรกิจร้านอาหารในต่างประเทศ ที่ไม่มีอยู่จริง
สิ่งที่ผู้ลงทุน และนักลงทุนควรตระหนัก คือ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียด และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนนั้นให้ดี ก่อนตัดสินใจร่วมลงทุน
ดร.รุจิระ บุนนาค
กรรมการผู้จัดการ
Marut Bunnag International Law Office
rujira_bunnag@yahoo.com
Twitter : @RujiraBunnag

พร้อมเต็มสูบ! ทัพเทนนิสไทยตั้งเป้าโกย4ทอง
ถล่มอิเหนา8-0!บอลหญิงเฉียบประเดิมซีเกมส์
'วราวุธ'เปิดนิทรรศการอสญฺญกาย-ศิลป์แห่งพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ในมิติร่วมสมัย ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
นศ.อาชีวะช่างไฟฟ้า ให้บริการตรวจสอบ-ซ่อมแซมระบบไฟฟ้าบ้านน้ำท่วม แล้วกว่า 300 ครัวเรือน
เคลื่อนไหวรัวๆ เดย์ ไทเทเนี่ยมโพสต์คำคมปริศนา ท่ามกลางดราม่านานา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี