วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ผมเองเป็นคนหนึ่งที่มักแวะเวียนไปที่เว็บไซต์กลุ่มสังคมออนไลน์อยู่บ่อยๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันกำลังให้ความสนใจกับเรื่องอะไร และมีข้อมูลหรือข้อคิดเห็นอะไรใหม่ที่น่าสนใจบ้าง
วันก่อนผมเข้าไปในเว็บไซต์กลุ่มนี้อีกครั้ง พลันสะดุดตากับกระทู้หนึ่ง ซึ่งโพสต์ขึ้นหัวข้อไว้ว่า
“อึ้ง ... เมื่อพบความจริง!! รายได้ปีละเกิน 1 ล้านบาททำงานมาร่วม 5 ปี แต่ไม่มีเงินเก็บเลย”
แค่เปิดหัวขึ้นมาก็น่าสนใจแล้วใช่มั้ยครับ ต้องยอมรับว่าคนเขียนโพสต์แนวนี้เค้าเก่งนะครับ ดึงคนไปอ่านได้เยอะทีเดียว แล้วก็ไม่ได้อ่านแต่โพสต์ด้วย ยังสนุกสนานกับคอมเมนต์อีกนับร้อย
เรื่องมีอยู่ว่า คุณพี่เจ้าของกระทู้ทำงานอยู่ที่ต่างประเทศรายได้เดือนละ 2 แสนกว่าบาท ส่งกลับบ้านเดือนนึงร่วมแสน ถ้าใช้ไม่พอก็ส่งไปให้เรื่อยๆ เรียกว่าน่ารักมาก ลักษณะไม่ต่างอะไรกับเอทีเอ็มเลยทีเดียว
เจ้าของเรื่องสารภาพโดยดีว่า ไม่เคยคิดเรื่องบริหารเงินเลย ส่งเงินมาให้ภรรยาเป็นคนจัดการทั้งหมด แถมทำบัตรเครดิตให้ภรรยาไว้คอยใช้จ่ายด้วย
การบริหารเงินของบ้านนี้จึงเป็นไปในลักษณะที่ว่าคนหาก็หาไป คนใช้ก็ใช้ไป ขาดเหลือเท่าไรก็ขอเพิ่ม
นานวันเข้าหนี้บัตรเครดิตก็เริ่มพอกพูนจนเต็มวงเงิน ภรรยาเริ่มผ่อนชำระขั้นต่ำ เมื่อสามีถามว่าเงินหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ สืบทราบไม่ได้ สุดท้ายคุณพี่ท่านนี้จึงต้องควักเงินเก็บตัวเองไปโปะปิดหนี้บัตรเครดิตอีก 500,000 บาท
โดยสรุปทำงานมา 4 ปีกว่า หาเงินได้ร่วม 10 ล้าน ส่งกลับบ้านมากกว่า 4 ล้าน สุดท้ายไม่เหลืออะไรเลย
คอมเมนต์ต่างๆ ในกระทู้ต่างพากันต่อว่าทั้งภรรยาเจ้าของเรื่อง รวมถึงตัวเจ้าของเรื่องเอง ที่ปล่อยปละละเลยการบริหารเงิน บ้างก็หนักถึงขั้นแนะให้เลิกกับภรรยาไปเลย
โดยส่วนตัวแล้ว ผมคงไม่มีสิทธิ์ไปกล่าวโทษใคร แต่ต้องบอกว่าปัญหาในลักษณะนี้เป็นหนึ่งในปัญหาที่ผมพบบ่อยมากที่สุด นั่นก็คือ ปัญหาในเรื่องของวิธีคิด หรือ mindset ทางการเงิน
คนทั่วไปมักคิดว่า “ใช้จ่ายเท่าไหร่ไม่เป็นไร ขอให้หาเงินได้มากๆ เอาไว้ก่อน” หรือไม่ก็คิดว่า “ถ้าหาเงินได้มาก แล้วจะรวยขึ้น”
ในความจริงแล้วไม่ใช่เลย คนเรายิ่งหาเงินได้มากยิ่งจะพยายามเขยิบรายจ่ายเข้าไปเทียบเท่ารายได้อยู่เสมอ เคยหาเงินได้เดือนละหมื่น ก็แทบจะกินหมดไม่มีเหลือพอหางานใหม่ได้เดือนละ 15,000 แล้วคิดว่าชีวิตจะดีขึ้น คล่องขึ้น ก็ไม่ใช่ กินหมดไม่มีเหลือเหมือนเดิม มิหนำซ้ำยังกินเกินและสร้างหนี้สินให้กับตัวเองอีกต่างหาก
กฎแห่งความมั่งคั่งข้อที่ 1 กล่าวไว้ว่า “ความมั่งคั่งเริ่มต้นที่การใช้จ่าย ไม่ใช่เงินที่หาได้”
มันไม่สำคัญเลยว่า คุณจะหาเงินได้มากเท่าไหร่มันสำคัญที่ว่า คุณใช้จ่ายเป็นหรือไม่ต่างหาก เพราะถ้าคุณใช้จ่ายไม่เป็น หาได้เท่าไหร่ก็หมด ไม่เหลือสะสมเป็นความมั่งคั่งให้ตัวเองอยู่ดี
สำหรับใครก็ตามที่หาเงินได้เยอะ แต่ยังไม่รวยกับเขาสักที ผมแนะนำวิธีการบริหารค่าใช้จ่ายเพื่อความมั่งคั่งดังนี้ครับ
1. จ่ายให้ตัวเองก่อนเสมอ
คำว่า “จ่ายให้ตัวเองก่อน” ก็คือ การหักเงินออมก่อนใช้จ่ายนั่นเอง ได้เงินมาเท่าไหร่ หักให้ตัวเองทันที ทำให้เป็นอัตโนมัติ ทำโดยไม่ต้องคิด โดยอัตราส่วนเงินออมที่จ่ายให้ตัวเองนั้นอย่างน้อยควรสัก 10 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ถ้ามากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ได้ ยิ่งรวยเร็วครับ
2. อย่าสร้างหนี้เกินตัว
คำว่า “หนี้เกินตัว” หมายถึง การมีค่าใช้จ่ายจากหนี้เกิน40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้
คิดง่ายๆ ถ้าคุณมีรายได้ 20,000 บาท มีบ้านต้องส่งเดือนละ 8,000 บาท มีหนี้บัตรเครดิตจากการผ่อนซื้อของเดือนละ 2,000 บาท แบบนี้คุณจะมีค่าใช้จ่ายจากหนี้คิดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ (เอา 8,000 + 2,000 หารด้วย 20,000)
แบบนี้ถือว่ามีหนี้มากเกินไป และมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาเงินไม่พอใช้ในอนาคต ดังนั้นต้องหยุดสร้างหนี้เพิ่มและทยอยใช้หนี้คืนให้หมดโดยไว
วันนี้เอาแค่ 2 ไอเดียง่ายๆ ก่อน ยังไงทำให้ได้กันทุกคนนะครับ ชีวิตการเงินจะได้ค่อยๆ ดีขึ้น อยากรวย อยากมั่งคั่ง ยังไม่ต้องรีบหาเพิ่ม เริ่มง่ายๆ ที่เงินในมือก่อนเลยครับ

‘กรมการแพทย์’ชู 3 เทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟู‘กะโหลกเทียม แขนขาเทียมและตาปลอม’
ช็อกกันทั้งซอย กล้องหน้ารถจับภาพ ชายป่วยซึมเศร้าโดดตึก3ชั้นสาหัส
วางขายแล้ว! จาก‘ข้าวดอ’สู่‘ข้าวเม่า’ ขนมโบราณ ฝีมือชาวนาอำนาจเจริญ
ประเทศแรกในเอเชีย! ‘ฟีฟ่า’เลือก‘ไทย’ เจ้าภาพฟุตบอลหญิง รายการ FIFA Series 2026tm
‘สืบยโสธร’รวบเครือข่ายโจรกรรมรถ จยย.ข้ามชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี