“ขออนุญาตปรึกษาครับ ปัจจุบันรับราชการ แต่เงินเดือนติดลบ มีหนี้ 1 ล้านกว่าบาท อยากจะขอแนะนำคำปรึกษาว่าควรทำยังไงดีครับ”
“ตอนนี้เหนื่อยมาก หาเงินไม่พอใช้หนี้ ถูกติดตามทุกวันจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ ไม่รู้ควรทำยังไงต่อ แนะนำด้วยค่ะ”
“เงินเดือน 9,000 มีหนี้อยู่ 400,000 อยากหมดหนี้ไวๆ ต้องทำไงคะ”
ฯลฯ
(ทั้งสามตัวอย่างเป็นข้อความจากคำถามจริงที่ส่งมาขอคำปรึกษา)
หลายครั้งคำถามที่ส่งมาปรึกษาปัญหาทางการเงิน มักเป็นคำถามในลักษณะนี้ ผู้ถามนิยมเล่าหรือเขียนเป็นข้อความที่เผยความรู้สึกต่อปัญหา โดยไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นตัวเลขการเงินเลย ซึ่งต้องบอกว่าคำถามแบบนี้ไม่ง่ายที่จะช่วยแนะนำหรือให้แนวทางใดๆ ได้
ทั้งนี้เพราะการตอบคำถามทางการเงินนั้น จำเป็นที่จะต้องมีรายละเอียด 2 สิ่งสำคัญ นั่นคือ 1) เป้าหมายการเงิน และ 2) ตัวเลขการเงิน
สำหรับคนที่กำลังเป็นทุกข์จากหนี้สินนั้น เป้าหมายการเงินนั้นรู้กันดีอยู่แล้ว ก็คือ ต้องการปลดหนี้ให้หมด(และเร็วที่สุดด้วย) แต่สิ่งที่มักหายไป และไม่บอกมาด้วย ก็คือ งบการเงิน (ส่วนบุคคล) ซึ่งทำให้ผู้ที่จะให้คำปรึกษาไม่สามารถให้คำแนะนำได้
ลองคิดดูง่าย ๆ ว่า คนสองคนเงินเดือน 20,000 บาทเท่ากัน เป็นหนี้ 200,000 บาทเหมือนกัน อาจติดลบในแต่ละเดือนไม่เท่ากันก็ได้ เพราะรายละเอียดการใช้จ่ายก็ไม่เหมือนกันอีกทั้งโครงสร้างหนี้ที่มีกันคนละสองแสนเหมือนกัน ก็ยังไม่เหมือนกันอีก คนหนึ่งอาจเป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ในขณะที่อีกคนหนึ่งอาจเป็นหนี้สหกรณ์ ที่ดอกเบี้ยถูกกว่า และมีเงื่อนไขผ่อนชำระต่างกัน
แค่นี้วิธีการแก้หนี้ก็ต่างกันแล้ว …
ดังนั้นหากต้องการถามปัญหาเกี่ยวกับหนี้ หรือต้องการหาทางออกให้กับหนี้ด้วยตัวเอง สิ่งแรกที่คนเราควรทำ ก็คือ การจัดทำงบการเงินส่วนบุคคล ซึ่งประกอบด้วยกระดาษสองแผ่น นั่นคือ 1) รายรับรายจ่ายในแต่ละเดือน และ 2) รายการทรัพย์สินหนี้สิน
งบรายรับรายจ่าย คือ รายการแสดงว่าเงินที่ได้มาในแต่ละเดือน ถูกนำไปจ่ายกับอะไรบ้าง แต่ละเดือนมีเหลือออม หรือติดลบเดือนละเท่าไหร่ อย่างไร
ส่วนรายการทรัพย์สินหนี้สิน ก็คือ งบที่แสดงรายการทรัพย์สินทั้งหมดที่เราถือครอง และหนี้สินทั้งหมดที่เราติดค้างผู้อื่นอยู่ เขียนรายละเอียดแยกเป็นรายการชัดเจน โดยเฉพาะหนี้ต้องระบุเลยว่าเป็นหนี้อะไร เป็นหนี้ใคร ค้างอยู่เท่าไหร่ อัตราดอกเบี้ยที่สัญญากันไว้เป็นเท่าไหร่ และผ่อนชำระขั้นต่ำต่อเดือนยังไงบ้าง
ถ้าระบุสิ่งเหล่านี้ได้ชัด วิธีการแก้ไขปัญหาหรือแนวทางการให้คำปรึกษา ก็จะง่ายขึ้นครับ
เพราะเราจะเห็นข้อเท็จจริงเลยว่า รายจ่ายไหนลดลงได้บ้างรายจ่ายไหนเป็นรายจ่ายสูงสุดที่ทำให้เราขาดสภาพคล่องหนี้ทั้งหมดที่มีตัวไหนเป็นภาระต่อเดือนสูงสุด ดอกเบี้ยเท่าไหร่ และจะแก้ปัญหามันได้ยังไงบ้าง
ซึ่งสุดท้ายก็จะนำไปสู่ทางแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็น รีไฟแนนซ์กู้หนี้ใหม่ดอกเบี้ยต่ำมาโปะหนี้เก่าดอกเบี้ยสูง หรือช่วงไหนจะมีเงินก้อน มีโบนัสหรือคอมมิชชั่นพิเศษเข้ามา ช่วยให้เราโปะหนี้ได้ และหนี้ตัวไหนควรโปะเป็นรายการแรก
หรือหากใช้เทคนิคทางการเงินทั้งหมดแล้ว ยังช่วยไม่ได้ ก็ต้องหันมามองที่รายรับ หาช่องทางเพิ่มรายได้ เพื่อหาหนทางแก้ไขปัญหาต่อไป
ทั้งหมดเริ่มต้นจากการเขียนงบรายรับรายจ่ายและรายการทรัพย์สินหนี้สิน เพื่อสะท้อนข้อเท็จจริงเลยครับ อาจดูยุ่งยากไปสักหน่อย แต่เอาเข้าจริงใช้เวลาในการเขียนไม่นานเลยแถมตอนเขียนยังเรียก “สติ” ให้กลับมาอยู่กับตัว ทำให้ได้คิดได้ไตร่ตรองปัญหาโดยละเอียดอีกด้วย
สุดท้ายแล้วการแก้ไขปัญหาหนี้ ไม่ต่างกับการแก้ปัญหาอื่นๆ ที่ “ข้อเท็จจริง” ของปัญหา และ “รายละเอียด” ที่ครบถ้วนถูกต้อง คือ หัวใจที่สำคัญที่สุด และทั้งหมดเริ่มต้นได้จากกระดาษสองแผ่นนี้เลยครับ
ใครที่ตั้งใจอยากจะแก้ไขปัญหาการเงินของตัวเองลองเขียนกระดาษสองแผ่นนี้ดูนะครับ
#TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี