ใครที่เคยอ่านหนังสือ “พ่อรวยสอนลูก” หรือ Rich Dad Poor Dad จำได้มั้ยครับ ว่าบทเรียนที่ 5 ใน 6 บทเรียนของพ่อรวย คืออะไร (ใครที่ยังไม่เคยอ่าน ลองหามาอ่านดูนะครับ รับรองว่าอ่านสนุก เป็นหนังสือการเงินที่ไม่น่าเบื่อเลย)
เอ้าใบ้ให้หน่อยก็ได้
บทเรียนที่ 1: คนรวยไม่ทำงานเพื่อเงิน (เอ๊ะ! แล้วเค้าทำงานเพื่ออะไรกัน)
บทเรียนที่ 2: ทำไมต้องเรียนรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ (แยกนิยามของทรัพย์สิน-หนี้สิน)
บทเรียนที่ 3: สร้างธุรกิจของตัวเอง (แนะให้สร้างทรัพย์สินของตัวเอง)
บทเรียนที่ 4: เรียนรู้เรื่องภาษี (เล่าเรื่องภาษีบุคคลธรรมดากับภาษีธุรกิจ)
บทเรียนที่ 5: ...
บทเรียนที่ 6: คนรวยทำงานเพื่อเรียนรู้ (เล่าเรื่องสิ่งที่ต้องเรียนรู้หากอยากประสบความสำเร็จทางการเงิน)
บางคนอาจจะแซวกลับว่า ไม่ได้เป็นคนแปลโว้ย จำไม่ได้หรอก 555
บทเรียนที่ 5 ชื่อบทว่า The Richs Invent Money: คนรวยประดิษฐ์เงินได้เอง หรือจะใช้คำว่า “พิมพ์เงินได้เอง” ก็ได้ครับ แต่ก็ไม่ได้หมายถึง ให้พิมพ์ธนบัตรออกมาใช้เองจริงๆ หรอกนะครับ
คำว่า “ประดิษฐ์” หรือ “พิมพ์” เงินใช้เอง ในที่นี้ เป็นเหมือนคำเปรียบเปรยมากกว่าครับ ว่าถ้าหากเรามี “ทรัพย์สิน” ที่สร้างกระแสเงินสดได้ ทรัพย์สินสร้างกระแสเงินสดให้เราเป็นประจำทุกสัปดาห์ ทุกเดือน หรือทุกปี แบบนี้ทรัพย์สินก็จะกลายเป็นเหมือน “แท่นพิมพ์เงิน” ให้เราใช้ไปได้ตลอด
สิ่งที่โรเบิร์ต คิโยซากิ เขียนไว้ใน บทที่ 5 ของหนังสือพ่อรวยสอนลูก ก็คือ คนเราควรเรียนรู้และหาวิธีสร้างทรัพย์สินที่ให้ Passive Income ไม่ใช่มองหาแต่รายได้จากการทำงาน หรือ Active Income เพียงอย่างเดียว
แล้วอะไรบ้างหละที่เป็น “ทรัพย์สิน” ที่สร้าง “รายได้” หรือ Cash Generating Assets แบบที่โรเบิร์ตพูดถึงในหนังสือ
พันธบัตร หุ้นกู้ (สำหรับบ้านเรา “สลากออมทรัพย์” ก็นับได้อยู่)
หุ้น (สำหรับบ้านเรานับรวม “หุ้นสหกรณ์” ด้วย)
กองทุนรวม (ที่มีปันผล)
ทรัพย์สินให้เช่า เช่น บ้านเช่า คอนโดฯให้เช่า รถให้เช่า เครื่องจักรอุปกรณ์ให้เช่า ฯลฯ
ลิขสิทธิ์ จากงานเขียน งานเพลง หรือวีดีโอ (เช่น ค่าโฆษณาจาก YouTube ก็นับอยู่ในกลุ่มนี้)
สิทธิบัตร
ธุรกิจที่มีกำไรและเราไม่ต้องทำงานเองตลอดเวลา
และอื่นๆ
ดูแล้วก็ไม่น่าจะยากใช่มั้ยครับ ในการที่เราจะสร้างและสะสมทรัพย์สินที่สร้างกระแสเงินสด เพราะบางรายการอย่าง พันธบัตร หุ้นกู้หุ้น กองทุนรวม ทรัพย์สินพวกนี้เราสามารถนำเงินออมไปซื้อและถือครองไว้ได้เลย
แต่ที่ดูจะยุ่งยากขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะเป็นการลงทุนในทรัพย์สินให้เช่าหรือการสร้างธุรกิจ ที่อาจต้องอาศัยความรู้เรื่องการลงทุนและการบริหารจัดการอยู่สักหน่อย
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันน้องๆ รุ่นใหม่สามารถสร้างทรัพย์สิน และมีรายได้จากทรัพย์สินได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้จากทรัพย์สินที่มาในรูปของ “ค่าลิขสิทธิ์”
ต้องบอกเลยว่าการเติบโตของโลกออนไลน์ ทำให้ค่าลิขสิทธิ์ที่เดิมเคยจำกัดวงอยู่ในประเภท งานเขียนหนังสือ งานเพลง ได้เปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิมมากมาย เรียกได้ว่าใคร “มีของ” “มีความสามารถ” แล้วแปลงเป็นคอนเทนต์ ก็สามารถสร้างรายได้จากคอนเทนต์ได้เลย (น่าอิจฉามากกกก)
ลองเปรียบเทียบบ้านเช่า กับเฟซบุ๊คแฟนเพจที่มีคนติดตามเยอะๆ ก็ได้ครับ
บ้านเช่าสร้าง Passive Income ในรูปแบบค่าเช่า แฟนเพจก็ทำได้ในลักษณะเดียวกัน เพียงแต่ไม่ได้ให้เช่าอยู่อาศัย แต่เป็นเช่าลงโฆษณา (เก็บค่าโฆษณา) แถมจะว่าไปแฟนเพจไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของรายได้ด้วย เมื่อเทียบกับบ้านเช่า ที่เมื่อมีคนเช่าเต็มแล้ว ก็ให้คนเช่าเพิ่มไม่ได้
ในขณะที่อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อ ความเติบโต และอุปทาน (Supply) ของพื้นที่ แฟนเพจก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น (หรืออาจลดลง) ได้ตามความนิยมของแฟนเพจนั้น
หรืออย่างวีดีโอใน YouTube และภาพถ่ายใน Stock Photo ก็คล้ายกัน
เราค่อยๆ สร้างคอนเทนต์ในรูปแบบวีดีโอ ทำต่อเนื่อง สะสมวีดีโอคลิปดีๆ ให้เป็นทรัพย์สินที่มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ได้ส่วนแบ่งค่าโฆษณาจาก YouTube เวลามีคนเข้ามาชมคลิปของเราที่มีโฆษณาแทรกอยู่
หรือกับภาพถ่าย เราอาจถ่ายภาพในรูปแบบต่างๆ สะสมไว้เป็นทรัพย์สิน แล้วก็รับรายได้จากการที่คนซื้อดาวน์โหลดภาพไปใช้งาน ทำงานทิ้งไว้ แล้วก็เก็บกินดอกผลไปเรื่อย แบบนี้ก็ Passive Income เหมือนกัน
โลกที่เปลี่ยนไป คำว่า “ทรัพย์สิน” ก็เปลี่ยนหน้าตาตามไปด้วย
แต่บอกไว้ก่อนว่า โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ นะครับ การจะได้มาซึ่ง Passive Income ในระดับที่น่าชื่นใจ ก็ต้องอาศัยความพยายามต่อเนื่อง ค่อยๆ เรียนรู้ และอดทนทำงานโดยที่ยังไม่ได้เงินในช่วงเริ่มต้นด้วยกันทั้งนั้น (ถ้าง่าย ก็มีอิสรภาพการเงินกันหมดแล้วสิ)
ก่อนจากกันในวันนี้ ลองทบทวนกันหน่อยดีกว่าว่า ปัจจุบันเรามีรายได้จากทรัพย์สินในช่องทางใดบ้าง ด้วยการตอบคำถามต่อไปนี้ดูครับ
ปัจจุบันคุณมีรายได้ประเภท “ดอกเบี้ย” จากช่องทางใดบ้าง
มีรายได้ประเภท “เงินปันผล” จากช่องทางใดบ้าง
มีรายได้ประเภท “ค่าเช่า” จากช่องทางใดบ้าง
และมีรายได้ประเภท “ค่าลิขสิทธิ์” หรือ “ค่าโฆษณา” จากช่องทางใดบ้าง
ถ้าคุณเริ่มมีรายได้จากทรัพย์สินจากช่องทางข้างต้นบ้างแล้ว ก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ แนะนำให้สะสมเพิ่มจนมีระดับรายได้ที่น่าพอใจ และตอบโจทย์ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ในเร็ววันครับ แต่ถ้ายังไม่มีเลย ก็ค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ สะสมกันไปครับ ทุกอย่างเป็นไปได้ ขอเพียงแค่เราเริ่มและลงมือทำต่อเนื่องครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี