หลังธุรกิจแรกในชีวิตไม่ประสบความสำเร็จดังที่คาดไว้ (ล้มเหลวอย่างแรงเสียด้วย) ผมเริ่มกลับมาตั้งคำถามว่า ทำอย่างไรหนอ ธุรกิจของผมถึงจะสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยได้เหมือนกับธุรกิจของคนอื่นเขาเสียที
คิดๆ ค้นๆ หาวิธีการอยู่นาน จนวันหนึ่งได้รู้จักและเข้าใจสมการแห่งความมั่งคั่ง ของโรเจอร์ แฮมิลตัน ผู้แต่งหนังสือ Wink and Grow Rich และ Your Life Your Legacy อะไรๆ ในชีวิตก็เริ่มง่ายขึ้น
ที่แท้โลกเรานั้นมันเป็นอย่างนี้นี่เอง …
ความมั่งคั่ง (Wealth) = คุณค่า (Value) x พลังทวี (Leverage)
การจะสร้างธุรกิจใดๆ ขึ้นมาก็ตาม มันต้องเริ่มต้นโฟกัสกันที่การสร้าง “คุณค่า” ต่อผู้อื่นเป็นอันดับแรก
ทั้งนี้สินค้าและบริการของธุรกิจใดจะเรียกว่ามี “คุณค่า” ได้นั้น ก็ต้องวัดกันว่าสินค้าและบริการนั้นๆ แก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของผู้คนได้ดีเพียงใด และได้มากแค่ไหน
ของอะไรที่คนต้องการมาก แก้ไขปัญหาผู้คนได้มาก ว่ากันว่าเป็นของที่มีคุณค่ามาก อาจไม่ต้องดีที่สุด แต่ดีในระดับที่ลูกค้าพอใจก็พอ
อาหารรสชาติแสนอร่อย สมาร์ทโฟนสุดล้ำ เพลงเพราะๆ หรือหนังสือดีๆ สักเล่ม ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นสินค้าและบริการที่มีคุณค่าในแบบที่คนจำนวนมากต้องการ
เมื่อชัดเจนแล้วว่าคุณค่าของเราคืออะไร ขั้นต่อไปก็แค่คิดหาวิธีการทำให้ “คุณค่า” ที่ว่านี้ให้เป็นที่รับรู้ของคนหมู่มาก หรือเข้าถึงคนที่ต้องการมันให้ได้มากท่ี่สุด
เพียงเท่านี้ “ความมั่งคั่ง” ก็เกิดขึ้นได้แล้ว …
ขั้นตอนของการทำให้คนรับรู้คุณค่าสินค้าและบริการนั้น เราเรียกว่า การใช้ “พลังทวี” ซึ่งเปรียบได้กับการติดตั้งเครื่องขยายเสียง เพื่อสื่อสารให้ว่าที่ลูกค้ามองเห็นคุณค่าของสินค้าและบริการของเรา
ลองนึกภาพคนทำอาหารเก่ง ทำอาหารอร่อย(มีคุณค่า) แต่ไม่บอกใคร เก็บไว้เงียบๆ ในครัวอยู่คนเดียว แบบนี้ก็เท่ากับมีคุณค่า แต่ไม่ได้กระจาย “คุณค่า” ออกไปให้คนอื่นรับรู้ ความมั่งคั่งก็ไม่มีทางเกิด
แต่เมื่อไหร่ที่แม่ครัวคนนี้เปิดร้าน ขยายความรับรู้ของความอร่อยและความยอดเยี่ยมในฝีมือออกไป ... เงินทองก็จะเริ่มไหลมาเทมา
หนึ่งร้านหนึ่งสาขา ก็ว่ารวยแล้ว ถ้าเพิ่มสาขา พัฒนาเป็นแฟรนไชส์ หรือเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายได้หลายๆ ทาง ยิ่งรวยไปกันใหญ่
หรืออย่างมนุษย์ IT หลายคนที่แสนเก่งกาจ แต่กลับเก็บความสามารถ (คุณค่า) ของตัวเองไว้กับโต๊ะทำงานไม่ได้ขยายความสามารถออกไป ฝีมือที่มีก็ไร้ประโยชน์
แต่หากมนุษย์ IT คนเดียวกันนี้ สร้าง App ที่น่าใช้ขึ้นมา (พัฒนาคุณค่า) แล้วนำออกขาย ให้คนโหลดไปใช้งานผ่านอินเตอร์เนต (พลังทวี)
แบบนี้ ... แป๊บเดียวก็รวยได้แล้วครับ
อย่างไรก็ดี การใช้พลังทวีเพื่อทำให้สินค้าและบริการเป็นท่ี่รู้จัก ก็เป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ และให้ความระมัดระวัง
เพราะการใช้พลังทวีกับสินค้าและบริการที่ไม่มีคุณค่าที่แท้จริง หรือไม่ดีจริง สุดท้ายพลังทวีนั้นก็จะกลับมาทำร้ายเราได้เหมือนกัน อย่างเช่น คนที่ใช้วิธีโฆษณาประชาสัมพันธ์ (พลังทวี) จนสินค้าห่วยๆ ดังและเป็นที่รู้จัก ล่อลวงให้ลูกค้าทดลองใช้ สุดท้ายความห่วย ความไร้คุณค่าก็จะทำลายธุรกิจนั้นไปเอง
คุณค่า (+) x พลังทวี (+) = ความมั่งคั่ง (+)
คุณค่า (-) x พลังทวี (+) = ความมั่งคั่ง (-)
โดยสรุป การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ สิ่งที่ต้องคิดถึงเป็นลำดับแรกๆ ก็คือ
1. “คุณค่า” ของสินค้าและบริการของเราคืออะไร เราแก้ปัญหาอะไรหรือเติมเต็มชีวิตด้านใด ให้กับชาวบ้านชาวเมืองเขาได้บ้าง และช่วยคนได้มากแค่ไหน
2. เราจะทำอย่างไร ใช้เครื่องมืออะไร ที่จะทำให้คนจำนวนมากเข้ามาพบ มาซื้อ มาใช้ สินค้าและบริการเพื่อแก้ปัญหาชีวิตพวกเขา (พลังทวี)
วันนี้ฟังดูอาจจะนามธรรม หรือ Abstract ไปสักนิด แต่ถ้าอ่านแล้วคิดออก คุณมีโอกาสมั่งคั่งได้แน่นอนครับ
#TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี