สื่อสังคมในกัมพูชาและสื่อกระแสหลักในประเทศไทย อ้างหน่วยงานด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุฟ้าผ่าขณะมีการประกอบพิธีบวงสรวงบนปราสาทนครวัด เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ และบาดเจ็บอีกนับสิบราย
นักวิทยาศาสตร์ ระบุ ฟ้าผ่า เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนที่ของประจุอิเล็กตรอนภายในก้อนเมฆ หรือ ระหว่างก้อนเมฆกับก้อนเมฆ หรือเกิดขึ้นระหว่างก้อนเมฆกับพื้นดิน การเคลื่อนที่ขึ้นลงของกระแสอากาศ (updraft/downdraft) ภายในเมฆคิวมูโลนิมบัส ทำให้เกิดความต่างศักย์ภาพไฟฟ้าในแต่ละบริเวณของก้อนเมฆและพื้นดินด้านล่างเรียกว่า ฟ้าผ่า
ส่วนคนโบราณเชื่อว่า ฟ้าผ่าเกิดจากสวรรค์เบื้องบน ลงทัณฑ์กาลีบ้านกาลีเมือง ลงโทษคนสบถสาบานไว้ไม่ทำตามคำสาบาน หรือ แสดงเป็นเจ้ากี้เจ้าการจุ้นจ้านศาสนสถาน ไม่เคารพศรัทธาศาสนสถานที่เป็นสมบัติมนุษยชาติมาแต่โบราณ
คงเป็นเพราะความกลัวเรื่องอาเพศอาถรรพ์ รัฐบาลพนมเปญถึงได้ออกคำสั่งให้นักเลงคีย์บอร์ดทั่วประเทศลบเรื่องฟ้าผ่าที่ปราสาทนครวัดออกจากสื่อสังคม ลบเฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรม ที่โพสต์เรื่อง ฟ้าผ่าปราสาทนครวัดออกให้หมดก่อนถูกดำเนินคดี
แสดงว่ารัฐบาลกัมพูชาเชื่อเรื่องอาเพศ เหมือนกัน และกลัวชาวบ้านนำเรื่องรัฐบาลกาลีบ้านกาลีเมืองไปขยายความตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เชื่อว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยคิดใจว่า อยากให้ฟ้าผ่ารัฐบาลที่พยามยามยกปราสาทตาเมือนธมให้กัมพูชา ฐานไม่เคารพดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของไทย ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีกลาโหมสั่งให้ทหารไทยถอนออกจากปราสาทตาเมือนธมตามคำขอของรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา
ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของไทยตั้งแต่ พ.ศ.2478 แต่รัฐมนตรีกลาโหมกลับสั่งให้ทหารไทย ที่ประจำการจุดนั้นถอยออกมา อ้างว่าเพื่อลดความตึงเครียดจากการเผชิญหน้ากับทหารกัมพูชา
เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ผู้คนที่อยู่ใกล้ปราสาทตาเมือนธม เล่าให้ฟังว่า เขมรต่ำที่อยู่ตามแนวตีนเขาพนมดงรัก ฝั่งกัมพูชาปลุกระดมชาวบ้านว่า ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทอื่นๆ
อีก 24 แห่งที่อยู่ในเขตประเทศไทยเป็นของกัมพูชา ที่เขมรต้องเอาคืนให้หมดในรัฐบาล ฮุน มาเนตเพื่อให้คนเขมรเห็นว่ารัฐบาลฮุน มาเนต มีผลงานยึดโบราณสถานคืนมาได้
อดีตผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้มีนิวาสถานอยู่แถวนั้น บอกแนวหน้าว่า สถานการณ์ชายแดนเริ่มตึงเครียดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เมื่อทหารทั้งสองฝ่ายเสริมกำลังเข้ามาในพื้นที่ ทหารเขมรก่อกวนยั่วประสาททหารไทยทุกวัน ในเวลาเดียวกัน ทางเขมรมีรถถังรถหุ้มเกราะปืนใหญ่เพิ่มเติมเข้ามา
“แม่ทัพภาคสองของไทยคนนี้เก่งมากสั่งเสริมกำลังซ้อมรบทุกวัน ถึงจุดหนึ่งเครื่องบินกองทัพอากาศซ้อมรบทำโซนิกบอมบ์ สี่ครั้งเสียงโซนิกบอมบ์ ทำให้เขมรต่ำอกสั่นขวัญแขวน ตั้งแต่นั้นมาพวกเขมรต่ำที่ขึ้นมาก่อกวนบนปราสาทก็หายไป”แหล่งข่าวกล่าว
แต่เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม กองทัพธรรมของชาวอโศกประมาณ 50 คน พร้อมรถบรรทุกหกล้อสองคันนำน้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้งและเครื่องอุปโภค-บริโภค ไปมอบให้ทหารที่ยังประจำการ อยู่บนปราสาทตาเมือนธม ขณะที่นายทหารคนหนึ่งพูดโทรโข่งเป็นมัคคุเทศก์นำคณะชาวอโศกชมปราสาทตาเมือนธม ทหารเขมรกลุ่มหนึ่งโผล่ออกมาจากแนวป่า
เมื่อเผชิญหน้ากับนายทหารไทยโทรโข่ง ทหารเขมรสั่งให้หยุดพูดโทรโข่ง ทหารไทยตอบว่า “ผมพูดจนเสียงแห้งแล้วคนมาก ต้องใช้โทรโข่ง” ทหารเขมรพูดว่า “รัฐมนตรี
สั่งห้ามแล้ว (ไม่ได้พูดว่าห้ามทำอะไร) ทหารไทยเลยสวนกลับไปว่า “#ห้ามคุณได้ ห้ามผมไม่ได้”
ในวีดีโอไม่มีรายละเอียดว่าทหารเขมรพูดว่า รัฐมนตรีภูมิธรรมห้ามไม่ให้ทหารไทยอยู่ที่ปราสาทตาเมือนธมหรือไม่ แต่กิริยาท่าทางของเขาบ่งชี้ว่าเป็นเช่นนั้น แสดงให้เห็นว่าทหารเขมรทำตามคำสั่งรัฐบาลฮุน มาเนตทุกอย่าง แม้กระทั่งคำสั่งโดยมิชอบ ซึ่งแตกต่างกับทหารไทยที่ผ่านการฝึกฝนให้เป็นทหารอาชีพ มีระเบียบวินัย ได้รับการอบรมบ่มเพาะให้สละชีพเพื่อชาติ ทหารไทยจึงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโดยมิชอบ
ทหารไทยซึ่งมีอุดมการณ์รักชาติต่างกับอดีตทหารป่าที่มีเป้าหมายทำลายชาติ ดังนั้นเมื่ออดีตทหารป่าสั่งให้ทหารไทยถอนตัวหรือถอยออกจากเขตแดนประเทศไทย ทหารผู้มีวินัยจึงไม่ทำตามความต้องการของอดีตทหารป่า
กรณีตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา คนไทยถึงได้เห็นกองทัพบกและกองทัพอากาศพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างแข็งขัน โดยการซ้อมรบปรามศัตรู ฟังคำสั่งแม่ทัพภาคที่สองผู้บังคับบัญชาโดยตรงเท่านั้น ยืนหยัดประจำการบนดินแดนไทยไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามความต้องการของอดีตทหารป่า
กองทัพเรือไทยก็มีอุดมการณ์ มีแนวปฏิบัติ เหมือนกองทัพบกและกองทัพอากาศ ที่ยึดถือความมั่นคงของชาติเหนือนโยบายพรรคการเมือง วันที่ 12 พฤษภาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีกลาโหมไทยเดินทางไปเยอรมนีเพื่อเจรจาเรื่องเครื่องยนต์ติดตั้งในเรือดำน้ำ ที่กองทัพเรือไทยทำสัญญาซื้อจากบริษัทต่อเรือจีน ที่ตามสัญญาต้องติดตั้งเครื่องยนต์ผลิตในประเทศเยอรมนี
รัฐมนตรีกลาโหมไทยรู้ล่วงหน้าแล้วว่า เยอรมนีไม่ยอมขายเครื่องยนต์ให้จีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อใช้ในเรือดำน้ำที่ขายให้กองทัพเรือไทย ตามกฎระเบียบต่างๆ ที่ฝรั่งอ้างตามอำเภอใจ
เพื่อกดดันให้ประเทศไทยซื้อเรือดำน้ำจากประเทศตะวันตกแทนจีน
ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าจะได้รับการปฏิเสธจากเยอรมนี แต่รัฐบาลเพื่อไทยยังอยากได้ยินคำว่า “ไม่ขายเครื่องยนต์ให้จีน” จากเยอรมนีโดยตรง เพื่อความชอบธรรมยกเลิกซื้อเรือดำน้ำจากจีน โดยยอมเสียเงินมัดล่วงหน้าที่จ่ายไปแล้วกว่าเจ็ดพันล้านบาท
ในขณะเดียวกันมีกระแสข่าวหนาหูว่าหากไทยตัดสินใจเป็นทางการ ไม่ซื้อเรือดำน้ำที่สั่งต่อไว้ จีนก็จะยกเรือดำน้ำนั้นให้กัมพูชา หากกระแสข่าวนี้เป็นเรื่องจริงเชื่อว่า รัฐบาลเพื่อไทยคงไม่ติดใจเพราะเจ้าของพรรคเพื่อไทยกับเจ้าของพรรคประชาชนกัมพูชา เป็นเพื่อนร่วมน้ำสาบานแบ่งปันสมบัติชาติกันได้
สุภาษิตจีนกล่าวว่า “คนคำนวณ ไม่เท่าชะตาฟ้าลิขิต” จากอดีตถึงปัจจุบัน ผู้บัญชาการทหารเรือสามท่านยืนยันตรงกันว่า เครื่องยนต์ CHD620 ผลิตในประเทศจีน มีประสิทธิภาพสูง ใช้แทนเครื่องยนต์ MUT 396 ของเยอรมนีได้ โดยผ่านการทดสอบมาแล้วหลายครั้ง และปัจจุบันเทคโนโลยีจีนล้ำหน้าตะวันตกทุกด้าน กองทัพเรือยืนยันว่าเครื่องยนต์ CHD620 ของจีนใช้ในเรือดำน้ำได้
และบังเอิ๊ญ บังเอิญ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปเยือนกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน (สปจ.) อย่างเป็นทางการ ซึ่งตรงกับวันที่นายภูมิธรรมไปเยอรมนี
เมื่อเดินทางไปถึงกองบัญชาการกองทัพเรือ สปจ. พลเรือเอก หู จงหมิง (Hu Zhongming) ให้การต้อนรับด้วยการขึ้นแท่นรับการเคารพ ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ รวมทั้งรับการสวนสนามจากกองทหารเกียรติยศอย่างสมเกียรติ
จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้หารือเรื่องการเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ได้แก่ การแลกเปลี่ยนการเยือนของนายทหารทุกระดับ การขยายขีดความสามารถด้านการฝึก การ
เดินทางเยือนเมืองท่าของเรือรบ การลงนามใน TOR ว่าด้วยความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายซึ่งผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ไทยแล้ว การแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีทางทหาร และการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านการฝึกศึกษา/อบรมและกองทัพเรือ สปจ. ยังได้จัดงานเลี้ยงรับรองให้อย่างอบอุ่นอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากองทัพเรือไทยยังต้องการเรือดำน้ำติดเครื่องยนต์จีนอยู่หรือไม่ ผบ.ทร. ตอบว่า “กองทัพเรือไทยยังต้องการเรือดำน้ำที่ติดเครื่องยนต์ CHD620 ของจีน เพราะได้ทดสอบหลายครั้งแล้วพบว่ามีประสิทธิภาพสูง เวลานี้กำลังรอรัฐบาลอนุมัติ..”
รัฐบาลเพื่อไทยโดยรัฐมนตรีกลาโหมภูมิธรรม เวชยชัย จะอนุมัติกองทัพเรือซื้อเรือดำน้ำเครื่องยนต์จีน หรือ ทิ้งเงินมัดจำกว่า 7,000 ล้านบาท เพื่อให้เรือดำน้ำตกเป็นของกัมพูชา
ถึงตอนนั้นฟ้าผ่าลงกลางที่ประชุม ครม. เพื่อไทยหรือไม่ คอยดูกันต่อไป
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี