บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทปูนซิเมนต์ไทย หรือSCC เราคาดว่ากำไรสุทธิ 1Q64 จะอยู่ที่ 1.15 หมื่นล้านบาท (+65.4% YoY, +43.3% QoQ) กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะ i) spread ของเคมีภัณฑ์ (HDPE,PP และ PVC)ดีขึ้น และ ii) มีกำไรจากสต็อก 1.3 พันล้านบาท (จากที่ขาดทุนจากสต๊อก 1.1 พันล้านบาทใน 1Q63) ขณะเดียวกัน กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะเป็นเพราะ i) ปริมาณยอดขาย polyolefin เพิ่มขึ้น (เนื่องจากไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน) ii) ผลการดำเนินงานของ SCG Packaging (SCGP) ดีขึ้นเล็กน้อยจากการรวม SOVI และ Go-Pak เข้ามาในงบรวมของบริษัท เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q64F ของ SCC จะคิดเป็น 30.5% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา
ธุรกิจเคมีภัณฑ์ (คาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q64F จะอยู่ที่ 7.8 พันล้านบาท (+339.7% YoY, +33.9% QoQ)) spread ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดย spread ของ HDPE (+48.7% YoY, +13.4%QoQ), ของ PP (+33.6% YoY, +27.6% QoQ) และ ของ PVC (+19.9% YoY and +15.2% QoQ) เราคาดว่าปริมาณยอดขาย polyolefin จะอยู่ที่ 440kT (+14.5% QoQ) เนื่องจาก ไม่มีการปิด MOC เพื่อซ่อมบำรุง เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรจากสต๊อก 1.3 พันล้านบาทใน 1Q64F
ปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง (คาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q64F จะอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (-48.8% YoY, +832.9% QoQ)) เราคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจาก i) ไม่ต้องบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ (1.56 พันล้านบาทใน 4Q63) และ ii) อุปสงค์ปูนซีเมนต์ในประเทศ และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ดีขึ้นเล็กน้อย ขณะเดียวกันคาดว่ากำไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะ i) ต้นทุนถ่านหินเพิ่มขึ้น(+32% YoY) ii) ฐานรายได้ที่สูงใน 1Q20 (ได้รับผลกระทบเชิงลบจาก COVID-19 เพียงเล็กน้อย) ทั้งนี้ SCC ได้ล็อกราคาถ่านหินเอาไว้แล้ว 60% ของปริมาณถ่านหินที่จะต้องใช้ในปีนี้ และเพิ่มสัดส่วนของชีวมวล (ขยะภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม ฯลฯ )และจะเพิ่มกำลังการผลิต solar ขึ้นจาก 67MW ในปี 2563 เป็น 94MW ในปีนี้
ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (คาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q64F จะอยู่ที่ 700 ล้านบาท (-34.8% YoY, +8.6% QoQ)) กำไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะส่วนแบ่งกำไรลดลงหลังจากที่ SCGP ขายหุ้น IPO (SCC ถือหุ้น 70% ใน SCGP หลัง IPO) เราคิดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจาก i) มีการรวม SOVI และ Go-Pak เข้ามาในงบรวมของ SCC ii) SG&A ลดลงจากการซื้อ SOVI ใน 4Q63
เรายังคงคำแนะนำซื้อ และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565ที่ 484 บาท เรามองว่า SCC เป็นหนึ่งในหุ้นที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการที่ตลาดจะนำเกณฑ์การคำนวณมูลค่าตลาดของหุ้นโดยนำสัดส่วนของ free float มาร่วมพิจารณาด้วย เพราะ SCC มีสัดส่วน free float สูงถึง 66.1% ทำให้มีน้ำหนักในการคำนวณดัชนีมากขึ้น เราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q64 จะดีขึ้นเล็กน้อย QoQ เนื่องจาก spread เคมีภัณฑ์ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง
ปัจจัยเสี่ยงจากความล่าช้าของโครงการก่อสร้างภาครัฐ, ต้นทุนพลังงานอยู่ในขาขึ้น, spread เคมีภัณฑ์ผันผวน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี