บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็กวิเคราะห์หุ้นบริษัท สินมั่นคงประกันภัย หรือ SMK งวด 4Q63 มีกำไรสุทธิลดลง 8%YoY เนื่องจากรายได้จากการรับประกันภัยและรายได้จากการลงทุนลดลง 14%YoY อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับงวด 3Q63 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 16%QoQ แม้มีกำไรจากการประกันภัยทรงตัวเมื่อเทียบกับงวด 3Q63 แต่มีรายได้จากการลงทุนที่ดีขึ้นถึง 29%
ปี 2563 รายได้ลดลง 8%
: ปี 2563 บริษัทมีรายได้จากการรับประกันภัยและรายได้จากการลงทุน 10,377 ล้านบาท ลดลง 8%YoY เนื่องจาก 1.รายได้จากการรับประกันภัยลดลง 6%YoY โดยเฉพาะเบี้ยประกันภัยรถยนต์ลดลง 21% 2.รายได้จากลงทุนลดลง 64%YoY เนื่องจากขาดทุนจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในปี 2563 อยู่ที่ 0.3% ลดลงจากระดับ 4.1% ในปี 2562 ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงเห็นได้จากอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยลดเหลือ 32% จากระดับ 34% ในปี 2562 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิปรับดีขึ้นสู่ 8.3% และ 7.3% จากระดับ 2.3% และ 6% ตามลำดับในปี 2562 อัตราส่วนผลตอบแทนผู้ถือหุ้นปรับดีขึ้นสู่ระดับ 11.3% จาก 10.8% ในปี 2562
อินชัวร์เทคช่วยเติบโตในอนาคต
: การปรับเปลี่ยนเข้าสู่ “ดิจิทัลอินชัวรันส์” เต็มรูปแบบ หรือ “InsurTech” ในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น “SMK aLL” เพื่อให้บริการครบวงจรในการซื้อประกัน ชำระเบี้ย เคลมค่าเสียหาย ค้นหาอู่ซ่อมรถในเครือ และโรงพยาบาลพันธมิตร รวมถึงสะสมคะแนนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน อีกทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เร่งให้มีปริมาณการใช้งานมากขึ้นโดยเฉพาะประกันภัยโควิด-19 ที่มีลูกค้าสนใจและมียอดขายในอันดับต้นๆ เห็นได้จากเบี้ยประกันภัยสุขภาพ COVID-19 ในปี 2563 เพิ่มขึ้น 49% สนับสนุนการเติบโตของรายได้ในอนาคต
คงคาดกำไรปี 2564 เติบโต 20%
: ภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์มีแนวโน้มพลิกเติบโตหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย การทยอยฉีดวัคซีนและประชาชนเห็นความสำคัญในการโอนความเสี่ยงภัยจึงมีการซื้อประกันมากขึ้น จึงคาดจะเห็นอัตราการเข้าถึงการประกันภัยที่ทยอยเพิ่มขึ้น คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ราว 908 ล้านบาท เติบโต 20%
ราคาเหมาะสม 44 บาท
: ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวอีกทั้งสถานภาพธุรกิจที่ยังแข็งแกร่งสะท้อนได้จากที่มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมายเท่ากับ 456.62% สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ระบุว่าไม่ต่ำกว่า 120% การประเมินมูลค่าหุ้นปี 2564 ได้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 44 บาท สำหรับปี 2564 ยังมีอัพไซด์จากราคาปัจจุบันราว 17% พร้อมคาดการณ์เงินปันผลหุ้นละ 2.27 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ในระดับที่น่าสนใจราว 6.05% ต่อปี จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ที่มา : บล.โกลเบล็ก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี