บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เมย์แบงก์(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทซาบีน่า (SABINA) ด้วยการปรับประมาณการกำไรปี 2564-2565 เพิ่มขึ้น 9-10% สะท้อนอัตรากำไรฟื้นตัวดีกว่าคาดแนวโน้มกำไร 4Q64 ดีกว่าที่เราเคยประเมินและสูงสุดในรอบ 8 ไตรมาส ภาพรวมปีนี้คาดว่ายอดขายกลับมาเติบโตดีทั้งการขายทางสาขาและ NSR อีกทั้งบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้อัตรากำไรสูงขึ้น การเน้น ESG จะสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืนของบริษัทและมีโอกาสได้ premium valuation ในระยะยาว เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (DCF) ปรับขึ้นจาก 23.50 บาท เป็น 27 บาท
แนวโน้มกำไร 4Q64 ดี
เราประเมินว่ากำไรสุทธิ 4Q64 เพิ่มขึ้น 66% QoQ และ 30% YoY เป็น 92 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 8 ไตรมาส เป็นผลมาจากอัตรากำไรฟื้นตัวขึ้นจากการที่ยอดขายทางสาขาฟื้นตัวหลังการเปิดเมือง ขณะที่ยอดขายทาง NSR ดีต่อเนื่องโดยยังคงมียอดขายในแคมเปญ 11.11 และ 12.12 เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มแฟชั่นของ Lazada และ Shopee อีกทั้งยอดขาย OEM มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน เราคาดว่า SABINA จะจ่ายเงินปันผล 0.42 บาท/หุ้น (จ่าย 100% ของกำไร) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนครึ่งปีที่ 2%
ฟื้นตัวจากยอดขาย
คาดว่ายอดขายปี 2565 เพิ่มขึ้น 20% จากการฟื้นตัวของยอดขายทางสาขาซึ่งได้รับผลกระทบจากล็อกดาวน์ในปีก่อนส่วนยอดขายทาง NSR มีทิศทางการเติบโตแข็งแกร่งทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งบริษัทเชื่อว่ามีศักยภาพเติบโตสูงในระยะยาว แม้ต้นทุนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แต่เราคาดว่า SABINA จะมีอัตรากำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทปรับโครงสร้างราคาสินค้าไปตั้งแต่ปีที่แล้วซึ่งครอบคลุมต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งการสั่งซื้อวัตถุดิบในปริมาณมากทำให้สามารถเจรจาต่อรองได้ บริษัทมีความยืดหยุ่นในการผลิตเองและจ้างโรงงานอื่นทั้งในและต่างประเทศผลิตให้ นอกจากนั้นการเพิ่มสัดส่วนการขายทาง NSR จะผลักดันอัตรากำไรให้สูงขึ้น
เติบโตยั่งยืนภายใต้ ESG
SABINA ให้ความสำคัญกับ ESG มาอย่างต่อเนื่อง ปีนี้จะออกสินค้า Sustainable product ซึ่งใช้นวัตกรรมการผลิตและวัตถุดิบที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งจะร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำในการผลิตสินค้ากลุ่ม Sustainable product โดย SABINA ตั้งเป้าหมายเป็น 5% ของสินค้าทั้งหมด แม้สัดส่วนยังน้อยแต่เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว และมีโอกาสที่จะทำให้บริษัทได้ premium ในการประเมินมูลค่ากิจการในนาคต
ความเสี่ยง : การล็อกดาวน์ ต้นทุนผลิตสูงขึ้น การนำเข้าสินค้าประสบปัญหา
ที่มา : บล.เมย์แบงก์(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี