ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
nn ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการจับกุมบุหรี่เถื่อนครั้งใหญ่ที่หาดใหญ่โดยชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครองลงพื้นที่จับกุมร้านค้าบุหรี่เถื่อนกลางเมืองหาดใหญ่พร้อมยึดของกลางจากโกดังเครือข่ายเดียวกัน โดยเป็นร้านในตำนานประจำเมืองที่เพิ่งถูกจับกุมโดยฝ่ายปกครองไปเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็กลับมาเปิดสาขาใหม่ใกล้จุดตั้งร้านเดิมเพียงไม่กี่เมตร....!!
กรมสรรพสามิตจะประกาศขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามมิให้ขายบุหรี่หรือเหล้าเป็นเวลา 5 ปี โดยยืนยันผู้กระทำผิดไม่สามารถเปิดร้านขายบุหรี่หรือเหล้าได้ไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ใดก็ตาม…แต่ที่น่าแปลกใจคือ..ในช่วงเช้าวันเดียวกันก่อนการเข้าจุบกุมของกรมการปกครอง เจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้ลงพื้นที่หาดใหญ่ แต่กลับพบว่าร้านค้ากลุ่มนี้ปิดร้านทุกร้าน ร้านที่เปิดก็ไม่พบว่ามีการขายบุหรี่หนีภาษีแต่อย่างใด แต่พอผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงกรมการปกครองกลับบุกตรวจค้นจับกุมร้านค้ากลุ่มนี้ได้ โดยภายหลังการจับกุมรายงานข่าวยังได้ระบุว่าการจู่โจมครั้งนี้ได้บัญชีส่วยยาวเป็นห่างว่าวมีชื่อคนพร้อมหน่วยงานให้สาวต่อได้ไปอีก...
ปัญหาบุหรี่เถื่อนไม่เพียงกระทบรายได้ภาษีสรรพสามิตและภาษีอื่นๆ เช่น ภาษีเพื่อมหาดไทย ภาษี อบจ. กองทุน สสส. ที่จะนำมาใช้ในการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่แต่ยังส่งผลกระทบต่อการควบคุมยาสูบเพราะราคาที่ถูกมากเพียง 20-25 บาท ทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ง่าย แถมซองบุหรี่ก็ไม่ต้องทำตามกฎหมายสาธารณสุขของไทยเช่น บุหรี่ซองเรียบหรือการแจ้งส่วนประกอบของบุหรี่ แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ดูจะเพิกเฉยปล่อยให้เป็นเรื่องของกรมสรรพสามิตและหน่วยงานอื่นๆ ไป...!! คงถึงเวลาแล้วที่ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต....
ต้องเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามบุหรี่เถื่อนให้หนักกว่านี้ เหมือนกันที่เคยให้เป็นนโยบายสำคัญโดยเฉพาะจังหวัดภาคใต้ เพราะหากยังปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำต่อกันไปแบบนี้คงสิ้นหวังที่จะปราบปรามได้หมด ที่สำคัญอยากให้ กรมสรรพสามิตย้อนกลับมาดูสาเหตุที่บุหรี่เถื่อนระบาดเพิ่มขึ้น ซึ่งคงหนีไม่พ้นนโยบายการปรับขึ้นอัตราภาษียาสูบในช่วงที่ผ่านมาที่ส่งผลให้ราคาบุหรี่ในตลาดปรับขึ้นจากเดิมที่เคยขายบุหรี่กันซองละ 40 บาท พุ่งพรวดเป็นซองละกว่า 65-70 บาท ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปี เมื่อเทียบกับบุหรี่เถื่อนที่ขายซองละ 20-30 บาท กับกำลังซื้อของนักสูบที่ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว จึงไม่แปลกใจว่าทำไมปัญหาบุหรี่เถื่อนถึงได้แพร่กระจายรวดเร็วขนาดนี้...
แวดวงการเงิน...เห็นด้วยที่กรมสรรพสามิตจะเสนอให้มีการปรับภาษียาสูบให้เป็นอัตราเดียวหลังจากที่ได้มีการศึกษาเบื้องต้นมาระยะหนึ่งแล้วเพราะโครงสร้างภาษีแบบ 2 อัตรา ใช้มา 6 ปีแล้ว มีแต่สร้างแต่ปัญหาแต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือเรื่องอัตราภาษีบุหรี่ที่ควรพิจารณากำหนดให้เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาเอาแต่ขึ้นแบบไม่ลืมหูลืมตาจนเป็นที่มาของปัญหาบุหรี่เถื่อนในปัจจุบัน ที่แน่ๆ คือไม่ควรปรับขึ้นภาษีในช่วงนี้ เพราะหากราคาบุหรี่ถูกกฎหมายยังต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นกันอีก คงมิวายกระทบการยาสูบแห่งประเทศไทย ชาวไร่ และร้านค้าปลีก แบบกู่ไม่กลับ ทั้งๆ ที่ คนสูบก็แค่เปลี่ยนไปสูบของเถื่อนที่ไม่เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น nn
อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี