1. มีหนี้จำนวนมาก

พนักงานหลายคนมีหนี้สินเกินตัวโดยเฉพาะหนี้บริโภค อาทิ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบุคคล ฯลฯ ส่งผลให้เกิดความเครียดทางการเงิน และเป็นอุปสรรคต่อการออมและลงทุนเพื่ออนาคต

2. มีเงินสำรอง (เผื่อฉุกเฉิน) ในระดับต่ำ

ส่งผลให้พนักงานไม่พร้อมรับมือกับรายจ่ายไม่คาดฝันหรือการขาดหายไปของรายได้ได้ และเมื่อเกิดฉุกเฉินก็ต้องพึ่งพาการใช้สินเชื่อ และพาตัวเองเข้าสู่ภาวะการเป็นหนี้สิน

3. ใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน

พนักงานจำนวนไม่น้อยใช้เงินในแต่ละเดือนหมดไม่มีเหลือ (หรือเหลือน้อยมาก) ใช้ชีวิตรอวันเงินเดือนออก เป็นวงจรหมุนไปเรื่อยๆ ซึ่งอันตรายต่อการบรรลุเป้าหมายการเงินในระยะยาว

4. มีเงินเก็บไม่พอใช้ยามเกษียณ

พนักงานจำนวนมากล้มเหลวเรื่องการเก็บออม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสะสมเงินสำหรับการเกษียณ ซึ่งส่งผลให้ขาดความมั่นคงทางการเงิน (ไม่มีเงินใช้ในวันที่หยุด
ทำงาน) และมีแนวโน้มที่จะต้องยืดเวลาทำงานออกไปนานกว่าที่คิดไว้ เพื่อให้มีเงินเลี้ยงชีพ

5. ขาดความรู้และทักษะการเงิน

พนักงานขาดความรู้พื้นฐานทางการเงินที่จำเป็น อาทิ การทำงบการเงิน การลงทุน และความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การเงินผลของการขาดความรู้ส่งผลให้หลายคนตัดสินใจทางการเงินผิดพลาด และเป็นอุปสรรคต่อการมีสุขภาพการเงินที่ดี

6. ความคุ้มครองไม่ครอบคลุม

สวัสดิการและประกันที่มีไม่ครอบคลุม อาทิ ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และความทุพพลภาพ ซึ่งทำให้พนักงานบางส่วนมีความเสี่ยงทางการเงิน จากเหตุไม่คาดฝัน รวมถึงความเจ็บป่วยฉุกเฉิน

7. ไม่มีแผนการเงินสำหรับเกษียณอายุ

พนักงานจำนวนไม่น้อย ไม่ได้คิดวางแผนการเงินเพิ่มเติม คิดเพียงว่าสิ่งที่บริษัทมอบให้เป็นสิทธิประโยชน์ก็น่าจะเพียงพอ (หรือบางทีอาจไม่ได้นึกถึงเลย) โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนเกษียณอายุ โดยขาดการประเมินว่าเพียงพอต่อแผนการเงินส่วนบุคคลของตนเองหรือไม่

ยังไงใครทำงานประจำ ดูแลการเงินกันให้ดีนะครับ มีคำถามก็ปรึกษามาได้ทางtalk@moneycoach.co.th ครับ