บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) อัปเดตแนวโน้มกลุ่มโรงแรม (Hotel Sector) จากการลดลงของความเชื่อมั่นต่อการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในไทยและการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนอาจต่ำกว่าประมาณการเดิมของเราจึงปรับลดสมมุติฐานของนักท่องเที่ยวจีนลงเป็น 3.4 ล้านคนในปี 2566F และ4.0 ล้านคนในปี 2567F ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดลดลง4% เหลือ 27.5 ล้านคนในปี 2566F และลง 9% เป็น 32.0 ล้านคนในปี 2567F เราคาดหวังว่ารัฐบาลจะขยายมาตรการยกเว้นวีซ่าถึงสิ้นปีหน้า
เราคาดกำไรสุทธิกลุ่มโรงแรม 2.9 พันล้านบาท (+4% YoYและ +17% QoQ) ใน 4Q66F โดยที่ Siam Wellness Group (SPA)น่าจะแข็งแกร่งที่สุดอยู่ที่ 512% YoY เพราะการฟื้นตัวของรายได้จากการให้บริการสปา ส่วน Central Plaza Hotel (CENTEL) มีอัตราการเติบโต QoQ สูงที่สุดอยู่ที่ 506% เพราะเป็นช่วง high season ของธุรกิจโรงแรมในไทย มัลดีฟส์และญี่ปุ่น ขณะที่การบริโภคในประเทศช่วงปลายปีช่วยหนุนธุรกิจอาหาร แต่หากไม่รวมรายการพิเศษคาดกำไรปกติของกลุ่มลดลง 9% YoY เพราะหลายบริษัทมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นโดยเฉพาะรายจ่ายดอกเบี้ย มีเพียง SPA ที่คาดมีการเติบโตของกำไรปกติทั้ง YoY และ QoQ ใน 4Q66F
ทั้งนี้ยังคาดกำไรสุทธิกลุ่มโรงแรมยังโต 18% YoY ในปี 2567F จากการเพิ่มขึ้นของรายได้เฉลี่ยต่อวัน(ADR) และการขยายธุรกิจ เราประเมินว่า CENTEL จะมีอัตราการเติบโตADR สูงที่สุด 14% YoY ในปีหน้าเนื่องจากอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยสูงขึ้นจากการเปิดโรงแรมแห่งใหม่ในญี่ปุ่น ส่วน Minor International (MINT) น่าจะมีอัตราการเติบโตของ ADR ต่ำสุดแค่ 4% YoY จากการท่องเที่ยวในยุโรปกลับสู่ภาวะปกติ ด้านอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของกลุ่มน่าจะเพิ่มเพียง 2ppts อยู่ที่ 74% คาดบริษัทในกลุ่มที่เราศึกษาอยู่จะมีอัตราการเข้าพักเพิ่ม 0-3% บริษัทส่วนใหญ่มีแผนขยายธุรกิจพอร์ตการลงทุนโรงแรมราว 6-8% ในปี 2567F ยกเว้นS Hotel and Resorts (SHR) ซึ่งใช้กลยุทธ์เพิ่มมูลค่าสินทรัพย์จากการมีโรงแรมจำนวนหนึ่งที่อยู่ระหว่างปรับปรุงเพื่อกระตุ้น ADR ให้สูงขึ้นต่อไป
ยังคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มโรงแรมเท่ากับตลาดฯ (Neutral) เพราะเชื่อว่าผลงานจะกลับสู่ภาวะปกติ เรายังเชื่อว่ารัฐบาลจะยังออกมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว แต่ยังมีประเด็นที่น่ากังวล เช่น การแข่งขันที่รุนแรง เศรษฐกิจโลกชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยสูง เราชื่นชอบ SPA กว่าบริษัทอื่นๆ เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่งอีก มีโครงสร้างกลุ่มลูกค้าที่สมดุลมากขึ้น มีโมเดลการขยายธุรกิจที่ใช้ทุนน้อยลงภาระหนี้สินน้อยกว่าบริษัทรายอื่นๆ ในกลุ่ม
ปัจจัยเสี่ยงจากโรคระบาด ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยและเกิดความวุ่นวายทางการเมือง
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี