nn จะบอกว่า “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต”...เป็นแค่ “มอตโต้” ในการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองไม่ได้แล้วนะ...เพราะการที่ดัชนีหุ้นไทยตกต่ำมากที่สุดในรอบ 4 ปี...คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี (อดีตนักธุรกิจใหญ่)...และคนระดับ Big อย่างรองนายกรัฐมนตรีบางคน...ก็ยังบอกว่าเป็นเพราะ “การเมืองไทยช่วงนี้ที่มีความวุ่นวาย”...ส่วน คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง...โยนไปให้เป็นเรื่องของปัจจัยภายนอกประเทศ ที่ทำให้หุ้นไทยตกหนัก...ส่วนคุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง...มองว่าเหตุที่หุ้นไทยตกหนักเพราะเศรษฐกิจไม่ดี...!! แวดวงการเงิน....ก็เห็นเหมือนกันกับความเห็นของทุกท่านครับ...เพราะเมื่อการเมืองไม่มีเสถียรภาพ การเมืองเล่นกันนอกกติกา นอกระบบรัฐสภา และมีอำนาจแฝงที่บงการนักการเมืองไทยได้...นักลงทุนย่อมไม่มีความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจไทย....ส่วนประเด็นปัจจัยภายนอกที่ปั่นขณะนี้ไม่ว่าจะเรื่องตลาดเงินในสหรัฐ ในยุโรป หรือแม้แต่ที่จีน ล้วนส่งผลต่อตลาดทุนไทย...เพราะเราปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดทุนไทยนั้นพึ่งพาเม็ดเงินจากต่างชาติพอสมควร...ตั้งแต่ต้นปีมาถึงตอนนี้เม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยไปแล้วเกือบแสนล้านบาท และก็ยังจะคงไหลออกอย่างต่อเนื่อง...เพื่อไปหาผลตอบแทนที่สูงกว่า เช่น ตลาดหุ้น ตลาดทุน ของสหรัฐอเมริกา...และบวกกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อไทยลดต่ำลงก็ยิ่งตัดสินใจไม่ยากที่จะย้ายเงินออกไป...การจะฟื้นตลาดหุ้นไทยมาตรการที่จะใส่เข้าไปในตลาดหุ้นคงช่วยอะไรไม่ได้มากนักเพราะมันเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ...ถ้าหุ้นจะฟื้นก็ต้องทำให้เศรษฐกิจมันดีกว่านี้...แล้วก็ไม่ใช่ทำด้วยมาตรการระยะสั้น...แบบเอาแต่ใส่เงินเข้าไปในระบบ...แต่มันต้องแก้ที่ต้นเหตุ...นั่นคือแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจไทย...!! ถ้าถามว่าปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยคืออะไร...???...เชื่อว่าหลายคนรู้อยู่แล้ว...ถ้าแยกเป็นเซ็กเตอร์...ใหญ่สุดคือภาคส่งออก...ปัญหาคือเราผลิตสินค้าที่ตกยุค...ไม่ได้เข้าไปอยู่ในห่วงโซ่อุปทานของสินค้ายุคใหม่ที่เป็นที่ต้องการของตลาดโลกตัวอย่างชัดที่สุดคือสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์...ส่วนสินค้าที่ยังพอขายได้อย่างเช่นสินค้าเกษตรก็แข่งขันด้านราคากับคู่แข่งไม่ได้ เพราะต้นทุนเราสูงกว่าขณะที่ผลผลิตต่อหน่วยต่ำกว่า ตัวอย่างชัดเจนคือ “ข้าว”...ขณะที่ภาคการผลิต...ก็ยังเป็นการผลิตสินค้าที่ต้องใช้แรงงานเยอะ...ซึ่งแน่นอนเจอต้นทุนเรื่องค่าแรงที่เพิ่มขึ้น และถูกซ้ำเติมด้วยต้นทุนด้านพลังงานเข้าไปอีก...ผลที่ตามมาคือการทยอยปิดโรงงาน...ย้ายฐานหนี...สุดท้ายแรงงานไทยตกงานหลายหมื่นคนในช่วงไม่กี่ปีมานี้....คนไม่มีงานทำจะเอาเงินจากไหนไปจับจ่าย...เมื่อเป็นเช่นนี้การบริโภคในประเทศก็ซบเซา...การใช้จ่ายภาครัฐ...ส่วนใหญ่เป็นงบรายจ่ายประจำและตอนนี้เพิ่มเติมคือจ่ายหนี้มากขึ้น เงินลงทุนเพื่อสร้างเศรษฐกิจสร้างการจ้างงานเหลือนิดเดียว...สุดท้ายภาคการท่องเที่ยว...ก็กระจุกตัวแต่อยู่ใน 4-5 เมืองหลัก...และขายได้เฉพาะช่วงไฮซีซั่น (ไม่กี่เดือน)...ซ้ำนโยบายของภาครัฐก็เน้นแต่ปริมาณของนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้เน้นเรื่องคุณภาพของนักท่องเที่ยว...เม็ดเงินที่ได้จึงไม่คุ้มกับความสูญเสียของภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย...!! ทั้งหลายทั้งปวงนี้คือปัญหาเชิงโครงสร้างที่รัฐบาลไม่เคยพูดถึงและคิดจะแก้ไขเลยแม้แต่น้อย...nn
อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี