โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ทุกคนรักความเป็นอิสระ ไม่ชอบถูกบังคับ ไม่ชอบให้ใครมากำหนดกฎเกณฑ์ว่าต้องทำอย่างนี้ อย่างโน้น อย่างนั้น
หลายคนที่ไม่เข้าใจธรรมชาติข้อนี้ เวลาตั้งใจหรือมุ่งความสำเร็จอะไรสักอย่าง จึงตั้งกฎเกณฑ์กับตัวเองที่เข้มข้นเกินพอดี
ลูกศิษย์ผมคนหนึ่งตั้งเป้ากับตัวเองว่า จะออมเงินเดือนละ 50% ของรายได้ ด้วยเหตุผลว่า เขาช้าไปมากแล้ว ทำงานมา 10 ปี แทบไม่มีเงินเก็บ เลยอยากตั้งเป้าหมายแบบแข็งกร้าวสุดๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ตอนแรกที่ฟังก็รู้สึกดี เพราะดูมุ่งมั่นและมีเป้าหมายแต่มานึกดูอีกทีก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า … แล้วมันจะมีความสุขรึเปล่านั่น และมันจะไม่บีบคั้นตัวเองไปหน่อยหรือ
ก็ได้แต่ท้วงติงตามสมควร แต่เมื่อเจ้าตัวยืนยันที่จะทำ ก็ต้องปล่อย เพราะยังไงก็ชีวิตเขา และจะว่าไปก็ยังถือเป็นการพยายามทำในสิ่งที่ดี แม้จะดูเข้มงวดกับตัวเองไปสักหน่อยก็ตาม
ผ่านไปได้ 2 เดือน เขาทักเข้ามาคุยกับผมผ่านทางเฟซบุ๊ก ด้วยรู้สึกท้อแท้และรู้สึกผิดหวังกับตัวเอง
หลังจากหักดิบกับชีวิตได้ร่วม 3 สัปดาห์ เขาก็รู้สึกว่าอยากให้รางวัลกับตัวเองบ้าง เลยพาตัวเองไปฉลองกับเพื่อน สุดท้ายเงินที่กะเกณฑ์ไว้ใช้จ่ายก็หมดก่อนสิ้นเดือน และทำให้ต้องเอาเงินที่หักออมไว้ออกมาใช้จ่าย
แต่แทนที่เมื่อนำเงินออกมาแล้ว จะใช้จ่ายประหยัดเหมือนที่เคยตั้งใจไว้ เขากลับใช้จ่ายมือเติบ แบบคนโหยหาความสุขจากการใช้จ่าย และนั่นทำให้สองเดือนที่ผ่านมา เขาก็ยังเก็บเงินไม่ได้เหมือนเดิม
สภาวะดังกล่าว ผมเรียกว่าเป็นสภาวะ “เขื่อนแตก”
อารมณ์ประมาณอยากทำในเรื่องที่ดี สิ่งที่ดี แต่ตึงเกินไป ไม่พอดี และเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาวะไร้ความสุขอยู่นาน พอหลุดจากเป้าหมายเข้าสักครั้ง ทีนี้หลุดยาวเลย
เหมือนเขื่อนที่สะสมพลังงานศักย์ของน้ำไว้นานๆ พอเขื่อนแตก น้ำทั้งหมดก็ทะลักถาโถมออกจากเขื่อนจนหมด
เหมือนบางคนที่อยากประสบความสำเร็จตั้งเป้าหมายทำงานหลังเลิกงานวันละ 4 ชั่วโมง เสาร์อาทิตย์ไม่ไปเที่ยวไหน ทำแต่งาน ขยันทำได้แค่สัปดาห์สองสัปดาห์ก็เขื่อนแตก ทีนี้พักยาว ไม่หยิบไม่จับอะไรอีกเลย
จริงอยู่ที่ความสำเร็จต้องการ “วินัย” แต่การมีวินัยบนกฎเกณฑ์ที่บีบบังคับตัวเองมากเกินไป หรือตึงเกินพอดี ก็อาจทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมายได้เหมือนกัน
หรือไม่ ประสบความสำเร็จได้ แต่ก็ไม่มีความสุข
“ความสำเร็จ อาศัย การสะสม ไม่ใช่การโหม”
ทางสายกลางในวิถีพุทธยังไงก็สวยงามเสมอ อยากมีเงินเก็บ ก็ค่อยๆ ออมตามกำลังจนคุ้นชิน แล้วค่อยปรับเพิ่ม อยากสำเร็จในการงาน ก็ค่อยๆ ปรับเพิ่มหรือจัดเวลาทำงานให้เหมาะและสอดคล้องกับการดำเนินชีวิต
ค่อยๆ เดินไปข้างหน้า แบบค่อยเป็นค่อยไปมีความสุขตลอดการเดินทาง ไม่ตึง ไม่หย่อนจนเกินไปน่าจะดีกว่านะโยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี