ศึกน้ำลายระหว่างพี่คิม เด็กแว้นซ์แห่งดินแดนโสมแดงและลุงทรัมป์ผมเป๋แห่งดินแดนนกอินทรีหัวล้าน ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้น แต่เป็นสงครามด่าพ่อล่อแม่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ประธานาธิบดีคนก่อนหน้ายาวมาถึงพี่ทรัมป์ ทั้งสองประเทศก็ยังจิกตาใส่กันอย่างไม่ลดราวาศอก บรรดาสื่อมะริกันเสนอข่าวเกาหลีเหนือทุกวันในเชิงลบจนดูเหมือนพี่คิมกลายเป็นตัวพิสดารเหมือนตัวโกงในนิยายจีนกำลังภายในไปแล้ว  กระนั้นอาตี๋คิมก็ยักไหล่ไม่แคร์ แต่ตั้งหน้าตั้งตาทดสอบจรวดขีปนาวุธต่อพลางตะโกนด่าลุงแซมไปด้วยเป็นระยะๆ

เหตุตึงเครียดที่ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติขณะนี้คือ ความตายของพ่อหนุ่มออตโต วอร์มเบีย นักศึกษาอเมริกันวัย 22 ปีที่ไปเที่ยวเกาหลีเหนือแล้วขโมยป้ายโฆษณาชวนเชื่อในโรงแรม แต่ถูกโยนเข้าคุกขี้ไก่ในแดนโสมแดงและถูกพิพากษาให้ทำงานหนักถึง 15 ปี เมื่อเดือนก่อนออตโตถูกปล่อยตัวออกมาด้วยอาการสมองตายและเสียชีวิตในเวลาต่อมา  พี่ทรัมป์เลยถือโอกาสด่าอาตี๋ติมรัวๆ แล้วกระทบชิ่งไปถึงพญามังกรจีน  เพราะต้องการให้อาฮียเดินไปตบกะโหลกอาตี๋คิมแทนลุงแซม แต่อาเฮียก็ยิ้มเย็นๆ แล้วก้มหน้าจิบน้ำชานิ่งเฉยอยู่

หลังจากลุงทรัมป์ด่าเกาหลีเหนืออย่างเมามัน คิดหรือว่าทางเกาหลีเหนือจะยิ้มอ่อนๆ แล้วก้มหัวรับคำด่าแต่โดยดี ฝันไปเถอะ.. เกาหลีเหนือประโคมข่าวใหญ่โตผ่านสื่อเรียกลุงทรัมป์ว่า “ไอ้โรคจิต” จากนั้นก็หัวเราะเยาะทรัมป์ด้วยท่าทางกวนตีนก่อนถ่มถุยใส่ทรัมป์ว่าเป็นฮิตเลอร์แห่งศตวรรษที่ 21 ในอาทิตย์ต่อมา

ลุงแซมหวังให้อาเฮียมังกรจีนไปบีบไข่อาตี๋คิม แต่ยุอย่างไรก็ยุไม่ขึ้น เลยแล่นเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี ยูเอสเอส สเตทเฮมไปวนเวียนๆ แถวเกาะไตรตันในทะเลจีนใต้ การทำแบบนี้ถือเป็นการกวนตีนพญามังกรกลายๆ เหมือนปาไข่ใส่บ้านแล้วรอเจ้าของบ้านมาเจอ จากนั้นก็ยักคิ้วแล้วเดินผิวปากจากไปเตรียมงานฉลองวันชาติ

พอถึงวันชาติลุงแซมคือวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ลุงแซมได้รับของขวัญชิ้นใหญ่อย่างคาดไม่ถึงจากอาตี๋คิม ที่บรรจงส่งให้พร้อมอวยพรลั่นโลก เล่นเอาชาวโลกร้อนๆ หนาวๆ ไปตามกัน   ในวาระที่ลุงแซมฉลองวันชาติ ชาวโลกร่วมแสดงความยินดีกันคับคั่ง อาตี๋คิมก็อวยพรด้วยเหมือนกัน ด้วยการกดปุ่มส่งจรวดขีปนาวุธข้ามทวีป ICBM  เสียงดังเปรี้ยงปร้างไปทั้งโลกอวยพรลุงแซมก่อนชาติไหนๆ

ไอ้จรวดที่ว่านี่พี่คิมคิ้วห้ามิติตั้งใจทดลองในวันชาติลุงแซมโดยเฉพาะ กดปุ่มปล่อยจรวดฮวาซอง-14 ด้วยตัวเองอย่างปรีเปรมโดยเล็งไปหาอาเบะที่ญี่ปุ่น  แบบกะให้ถากแก้มอาเบะไปอย่างเฉียดฉิว แล้วให้ปลิวไปตกน้ำตูมตามดังมาถึงวอชิงตัน จากนั้นพี่คิมเด็กแว้นซ์ก็ยักคิ้วสามทีซ้อน แล้วนอนตีพุงร้องเพลงอารีดังอย่างสบายใจเป็นการฉลองวันชาติอเมริกา

ยูเอ็นออกมาคว่ำบาตรจนไม่เหลือบาตรให้คว่ำทุกครั้งที่พี่คิมเด็กแว้นซ์ออกมายิงจรวดไปหล่นใส่สระน้ำหน้าบ้านคนนั้นคนนี้  แต่อาติ๋มคิมก็ไม่แคร์ แถมประกาศก้องโลกอย่างไม่อ้อมค้อมว่ากำลังมุ่งมั่นพัฒนาจรวดพิสัยไกลข้ามทวีป  (ICBM) ที่จะสามารถส่งหัวรบนิวเคลียร์ไปถึงแผ่นดินใหญ่ในบ้านลุงแซมให้ได้ เพราะพี่ทรัมป์ผมเป๋เคยดูถูกถากถางว่า “ไม่มีวันทำได้” แต่หนนี้พิเศษแบบใส่ไข่ เพราะผู้เชี่ยวชาญออกมาบอกพี่ทรัมป์ว่าอาจจะกระเด็นมาตกแถวอลาสก้าได้ เล่นเอาพี่ทรัมป์ผมกระดิกแล้วทวิตด่าพี่คิมรัวๆ ว่า

“ลื้อไม่มีอะไรจะทำแล้วในชีวิตหรือไงวะ”

ฟ็อกซ์นิวส์เสนอข่าวว่าฮวาซอง-14 จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกมส์ทางการทหารของเกาหลีเหนือทันที ที่จะเป็นอันตรายต่อวอชิงตันอย่างร้ายแรง และเป็นอีกก้าวที่จะนำไปสู่การพัฒนาอาวุธมิสไซล์ติดหัวรบนิวเคลียร์ที่จะสามารถหย่อนไปทำลายที่ใดก็ได้ในบ้านลุงแซม

หลังจากกดปุ่มปล่อยจรวดแล้ว อาตี๋ร่าเริงสุดๆ ให้สัมภาษณ์อย่างเบิกบานว่า ตั้งใจกดปุ่มปล่อยจรวดเพื่อเป็นของขวัญที่มอบแด่ไอ้วายร้ายมะริกันในวันชาติ พวกสารเลวนั่นคงไม่มีความสุขเท่าไหร่สำหรับของขวัญที่มอบให้ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะส่งของขวัญแก้เบื่อแบบนี้ไปให้อีกเรื่อยๆ   ชีวิตพวกอเมริกันจะได้มีสีสันเร้าใจ  แล้วสำทับว่าไม่ยอมเจรจาเพื่อเลิกล้มโครงการอาวุธเด็ดขาดจนกว่าวอชิงตันจะยุตินโยบายเป็นปฏิปักษ์ต่อเกาหลีเหนือ จากนั้นก็แหงนหน้าหัวเราะลั่นทุ่งอย่างสะใจ

บ๊ะ..อาตี๋คิมพูดแบบนี้เหมือนเอาตบหน้ากันเลยทีเดียว   เล่นเอาลุงแซมเต้นผาง หันขวับไปหาลูกหาบกิมจิขาวที่เกาหลีใต้ทันที เพื่อยิงจรวดโต้ตอบอาตี๋คิมแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน กองทัพเกาหลีใต้และอเมริกาแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ด้วยการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้จำนวนหนึ่งจากคาบสมุทรเกาหลีไปตกลงในทะเลญี่ปุ่นในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 5 กรกฎาคม มิใยที่ยูเอ็นจะประณามจนเสียงแหบเสียงแห้ง แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครฟังใครเสียแล้ว

จากนั้นลุงแซมก็ขู่ฟ่อๆ กลับไปว่า กูไม่กลัวมึง หากว่าการเจรจาทางการทูตไม่ได้ผล คงต้องประดาบกันล่ะวะ เพราะประสานเสียงกันระงมตั้งแต่หัวแถวไปยันหางแถว โดยเฉพาะทูตอเมริกันประจำยูเอ็นนั้นประกาศชัดเจนว่าวอชิงตันพร้อมใช้ศักยภาพทั้งหมดที่มีรวมถึงกำลังทหาร เพื่อป้องกันตัวเองและพันธมิตรเพื่อจัดการการคุกคามจากเปียงยาง

ฟังดูก็น่าวิตกแทนเกาหลีเหนือที่อาจจะมีประชาธิปไตยในเร็ววันนี้  เช่นเดียวกับชาติอื่นที่ล่มสลายไปทันตาเห็น หลังจากลุงแซมเข้าไปสอนบทเรียนประชาธิปไตยแบบอเมริกันให้ถึงบ้าน แต่จะว่าไปเกมนี้ลุงแซมต้องคิดหนักหน่อยเพราะถล่มเกาหลีเหนือไปก็ไม่มีอะไรติดไม้ติดมือกลับมา ไม่เหมือนไปปล้นแขกอาหรับที่สูบน้ำมันได้เพียบ

ลุงแซมนั้นหงุดหงิดงุ่นง่านที่จัดการอาตี๋คิมตัวแสบไม่ได้ เพราะจะยืมมือยูเอ็นตบเกรียน ทั้งพญามังกรและหมีขาวก็ส่ายหน้าอย่างเดียว จะบีบอาเฮียอย่างไร อาเฮียก็เจี๊ยะเต้เฉยอยู่ สุดท้ายลุงแซมเลยงัดของดี 74 จังหวัดของตัวเองออกมา นั่นคืองัด THHAD หรือระบบป้องกันขีปนาวุธภาคพื้นดินที่ถูกออกแบบมาเพื่อยิงทำลายจรวดพิสัยใกล้ กลาง และกลางกึ่งสูงออกมาสู้จรวดพี่คิม โดยจะเริ่มต้นทดสอบการยิงจากอลาสก้าภายใต้รหัส   Flight Test THAAD (FTT)-18

เท่านั้นยังไม่พอ ดันส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเร็วเหนือเสียง 2 ลำบินโฉบใกล้เขตปลอดทหารบริเวณพรมแดนเกาหลีเหนือ-ใต้ เพื่อท้าทายพี่คิมเสียด้วย  นับว่าลุงแซมปอดแหกเอาการถึงขั้นส่งเสียงขู่ออกมาทุกรูปแบบ

คิดหรือว่าพี่คิมจะหวาดกลัวตัวสั่น นอกจากไม่กลัวแล้วยังกวนตีนกลับว่า สงสัยลุงแซมนี่แหละที่จะเป็นตัวก่อสงคราม ไม่ใช่เกาหลีเหนือ เพราะลุงแซมยั่วยุอยู่ตลอดเวลา เห็นส่งเครื่องบินมาเลียบๆ เคียงๆ เห็นแล้วสะดุ้งตกใจกลัวจังเลย  พี่คิมอาจตกใจกดปุ่มเปิดศึกสงครามนิวเคลียร์ก็ได้ เพราะตกใจเครื่องบินมะริกัน จากนั้นก็หัวเราะกวนๆแบบเด็กแว้นซ์

นาทีนี้ขอให้ไทยมุงทั้งหลายม้วนเสื่อยกจานส้มตำกลับมามุงกันต่อที่คาบสมุทรเกาหลีที่น้ำทะเลรอบๆ เริ่มเดือดปุดๆ  ขึ้นทุกขณะ  อนาคตจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้  แต่คงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับหมู่เฮาชาวเอเซียแน่นอน