วันที่ 13 พฤศจิกายน คศ. 1974
โรนัลด์ เดฟิโอ จูเนียร์ ชายหนุ่มวัย 23 ตื่นขึ้นมาตอนตีสามสิบห้านาทีด้วยความรู้สึกประหลาด ไม่ใช่เสียงสายลมไกวกิ่งเมเปิลข้างบ้านมากระทบหน้าต่างห้องนอนของตนหรอกที่ปลุก แต่โรนัลด์ได้ยินเสียงลึกลับก้องอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมาและเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนต้องลืมตาในยามวิกาลเช่นนี้
โรนัลด์ลุกขึ้นยืนกรอกตาไปมาในความมืด เดินไปยังห้องที่พ่อของตนใช้เก็บปืนไรเฟิล คว้าปืนไปกระชากประตูห้องนอนพ่อและแม่ของตัวเองเปิดกว้าง..เสียงปืนไรเฟิลแผดก้องติดต่อกัน 6 นัดกลางดึกของคืนวันนั้นส่งผลให้บ้านหมายเลขที่ 112 “อะมิตีวิลล์” กลายเป็นบ้านที่โด่งดังมาจนทุกวันนี้
สถานีตำรวจซัฟโฟล์คเคาน์ตีได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 112 โอเชี่ยนอเวนิว ในอะมิตีวิลล์ จึงรีบไปยังจุดเกิดเหตุทันที
บ้านหลังนั้นเป็นบ้านทรงดัตช์โบราณหรูหรา ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ แม้ว่าตัวบ้านจะสะสวยน่าชม แต่ภาพที่เห็นทำให้ตำรวจทุกนายผงะอย่างสยดสยองใจ ครอบครัวเดฟิโอถูกสังหารหมู่ในขณะหลับสนิท เลือดสาดกระจายเปรอะทุกห้องในบ้าน ส่งกลิ่นคาวคลุ้งทั่วบริเวณ
การลงมือฆ่าน่าจะเกิดในเวลา 3.16 นาฬิกา เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เหยื่อทั้งหมดถูกวางยาในอาหารมื้อค่ำเมื่อคืนวาน ฆาตกรใช้วิธีนี้โดยไม่มีใครรู้ คนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้จะต้องเป็นคนในครอบครัวเท่านั้น ผู้ก่อเหตุสยองคือ โรนัลด์ เดฟิโอ ลูกชายคนโตวัย 23 ปี ใช้ปืนสังหารโหดสมาชิกในครอบครัวอย่างเลือดเย็น ขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 6 ศพ หลังจากก่อเหตุสะเทือนขวัญ ก็โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจพร้อมทั้งรับสารภาพ
เดือนกันยายน ค.ศ.1975 โรนัลด์ เดฟิโอ ถูกนำตัวมาพิจารณาคดีที่ศาล และต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของเมืองเล็กๆ แห่งนี้เลยทีเดียวว่านี่คือการพิจารณาคดีที่ยาวที่สุดเท่าที่เมืองอะมิตีวิลล์เคยมีมา โรนัลด์ เดฟิโอ จูเนียร์ รับสารภาพว่ายิงพ่อแม่และพี่น้องตนเองตายด้วยปืนไรเฟิลขณะนอนหลับ และอ้างว่า "เสียง" ในบ้าน ทำให้ตนก่อเหตุฆาตกรรมสยองดังกล่าว
ตอนที่สร้างบ้านหลังนี้เสร็จใหม่ ชาวอินเดียนแดงเผ่าชินเนคอล์ก ซึ่งเป็นอินเดียนแดงพื้นเมืองของนิวยอร์กบันทึกว่าที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้าย จนในปี คศ. 1965 ครอบครัวเดฟีโอซื้อบ้านหลังนี้ไว้และย้ายมาอยู่ที่นี่
คืนวันที่ 13 พฤศจิกายน โรนัลด์อ้างว่าได้ยินเสียงกระซิบและเสียงฝีเท้าในบ้าน แล้วให้การว่าชายที่มีมือสีดำยื่นปืนให้เขา จากนั้นก็ได้ยินเสียงบอกว่า
“ฆ่าทุกคนในบ้าน”
หลังคดีโรนัลด์ เดฟิโอ บ้านหลังนี้ก็ถูกประกาศขาย แต่ขายไม่ออก เพราะเรื่องราวสยองขวัญยังคงแพร่กระจายจากปากสู่ปาก เป็นเหตุให้บ้านหลังนี้ไม่เป็นที่ต้องการของใครเลย แม้ว่าจะเป็นบ้านที่สวยงามหลังหนึ่งก็ตาม
บ้านหรูหลังนี้จึงถูกปล่อยทิ้งร้างนานถึง 1 ปี จนกระทั่งคู่สามีภรรยา จอร์จและแคธี ลัทซ์ ซื้อบ้านหลังนี้พร้อมเฟอร์นิเจอร์ในราคาที่ถูกมากประมาณ 80,000 ดอลล่าร์ ซึ่งถือว่าถูกมากสำหรับบ้านริมทะเลสาบในทำเลทองย่านนั้น แต่สุดท้ายก็ต้องเผ่นหนีออกจากบ้านหลังนี้อย่างเสียขวัญ ทั้งๆที่เข้าไปอยู่ได้ไม่ถึงเดือนโดยไม่ทันได้เอาอะไรติดตัวไป นอกจากรูปถ่ายครอบครัวเพียงอย่างเดียว และไม่เคยหวนกลับมายังบ้านหลังนี้อีกเลย
หนึ่งปีต่อมา คนทรงชื่ออีเธล จอห์นสัน ไมเยอร์มาที่บ้านหลังนี้ เพื่อทำพิธีติดต่อกับวิญญาณโดยอ้างว่าไขปริศนาของบ้านได้กระจ่างแล้ว นั่นก็คือตัวบ้านสร้างขึ้นบนสุสานโบราณของอินเดียนแดง
บ้านหลังนี้เองที่นักล่าวิญญาณสองสามีภรรยาอย่างเอ็ดเวิร์ด และลอร์เรน วอร์เรน เดินทางมาพิสูจน์เรื่องราวลี้ลับ สองสามีภรรยาตั้งสมาคมพิสูจน์สิ่งลี้ลับและวิญญาณแห่งนิวอิงแลนด์ขึ้นในปี คศ.1952 และเข้าไปพิสูจน์หลายสถานที่ที่เชื่อว่ามีวิญญาณสิงสู่มากว่า 4000 คดี
สองสามีภรรยาวอร์เรนกล่าวว่าบ้านหลังนี้เป็นหนึ่งในบ้านที่ทั้งคู่จะไม่ย่างกรายเข้าไปอีก นั่นหมายถึงมีความน่าสะพรึงกลัวอย่างสุดขั้วฝังตัวอยู่ในนั้นนั่นเอง ทีมสำรวจบันทึกภาพประหลาดได้ภาพหนึ่ง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นภาพวิญญาณของของเด็กที่ถูกพี่ชายตัวเองฆ่าตายในบ้านหลังนั้น..!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี