การชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มเยาวชนที่มีทั้งกลุ่มเยาวชนปลดแอกไปจนถึงกลุ่มประชาชนปลดแอก กลุ่มธรรมศาสตร์จะไม่ทนไปจนถึงสถาบันโน้นสถาบันนี้ที่ไม่ยอมทนเหมือนกัน บานปลายลงไปจนถึงโรงเรียนต่างๆ ที่เด็กนักเรียนนัดกันผูกโบว์สีขาวชูสามนิ้วหน้าเสาธงเวลาเคารพธงชาติ ทั้งหมดนี้เป็นผลิตผลของยุคสมัย เป็นผลิตผลของการเมืองระดับประเทศที่ระบอบประชาธิปไตยของประเทศยังมีปัญหา และเป็นผลิตผลของการเล่นการเมืองของกลุ่มการเมืองที่ต้องการล้มล้างรัฐบาล
ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมมี 3 ข้อ สรุปย่อๆ คือ หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ ยุบสภา การชุมนุมครั้งต่อมามีการอ่านประกาศในนามกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อีก 10 ข้อ
การเคลื่อนไหวทางการเมืองของเยาวชนเป็นสิทธิและเสรีภาพ ปิดกั้นไม่ได้ ทั้งไม่ควรปิดกั้น
การแสดงออกอย่างก้าวร้าวและเกินเลยของพวกเขาในวันนี้ เป็นสิ่งที่พวกเขาจะมองเห็นและยอมรับกับมันในวันหน้า
แต่สิ่งที่พวกเขาควรยอมรับในวันนี้คือ ไม่ควรนำชื่อสถาบันการศึกษามาตั้งชื่อกลุ่มการเคลื่อนไหวทางการเมืองของตน ถ้ามีจิตสำนึกของความเป็นประชาธิปไตยจริง ถามประชาคมในสถาบันแล้วหรือยังก่อนที่จะนำชื่อสถาบันมาใช้กับการเคลื่อนไหวของกลุ่มตน ธรรมศาสตร์นั้นมีนักศึกษา อดีตนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นแสนเป็นล้านคน ขอฉันทามติจากพวกเขาแล้วหรือ ?
ปฏิกิริยาต่อการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองดังกล่าว แบ่งออกเป็นกระแสใหญ่ๆ 3 กระแส
กระแสแรกสนับสนุนอย่างเต็มที่ มีอาจารย์และนักวิชาการเรือนร้อยจำนวนหนึ่ง กับอดีตพรรคอนาคตใหม่ อันประกอบด้วย คณะก้าวไกล และพรรคก้าวหน้า
กระแสที่ 2 คัดค้านอย่างเต็มที่ มีผู้บัญชาการเหล่าทัพจำนวนหนึ่ง อาจารย์และนักวิชาการเรือนร้อยอีกจำนวนหนึ่ง กับกลุ่มอนุรักษ์นิยมและขวาตกขอบทั้งในรูปแบบขององค์กรจัดตั้งและในรูปแบบปัจเจกชนอีกจำนวนหนึ่ง
กระแสที่ 3 มีทั้งที่เห็นด้วยเป็นบางส่วนและที่ไม่เห็นด้วยเป็นบางส่วน กลุ่มนี้พยายามเข้าใจเยาวชน แต่ออกมาเตือนสติและให้ข้อคิดทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้าน กลุ่มนี้ถูกพวกสุดโต่งที่อยู่ในสองกระแสแรกโจมตีเย้ยหยัน ถูกกล่าวหาจากกลุ่มแรกว่าเป็นพวกไดโนเสาร์ เป็นพวกเผด็จการ ในทางกลับกันก็ถูกกล่าวหาจากกลุ่มหลังว่าให้ท้ายนักศึกษา หนักเข้าก็ถูกจัดเป็นหนึ่งในพวกชังชาติไป
ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่ควรระวังที่สุดคือ อย่าให้แนวความคิดสุดโต่งที่มีอยู่ในทั้งสองฝ่ายนี้ขึ้นมามีบทบาทกุมอำนาจการตัดสินใจ หาไม่แล้วสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงจนควบคุมอะไรไม่ได้ เมื่อถึงตอนนั้น ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ประชาชนไทยจะเดือดร้อนแค่ไหน คงคาดการณ์ได้ไม่ยาก
เบื้องหน้าสถานการณ์ที่แหลมคมและอ่อนไหวนี้ ทุกฝ่ายจำเป็นต้องตั้งสติ ถอยออกมามองให้รอบคอบ การเอาแต่ใจตน ประเภทตั้งข้อเรียกร้องแล้วขีดเส้นตายให้อีกฝ่ายต้องปฏิบัติ หรือประเภทเรียกร้องให้จัดการกับผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมายในเวลานี้ ล้วนไม่ใช่ทางออกในการแก้ปัญหา
ถ้ารักประเทศชาติจริง อยากแก้ปัญหาของชาติจริง มาจับเข่าคุยกัน หาคนดีที่สังคมยอมรับด้วยกันทุกฝ่ายมาช่วยเป็นคนกลางหรือสักขีพยานก็ได้ (ถ้าบอกว่าหาไม่ได้ก็จบกันแล้วประเทศเรา) แล้วหยิบปัญหาสำคัญเร่งด่วนของประเทศชาติมาแก้ไขร่วมกัน
เรื่องหยุดคุกคามประชาชนนั้นแก้ง่าย และแก้ได้เลยถ้าจริงใจ เรื่องรัฐธรรมนูญก็แก้ไขได้ แต่ต้องแก้ตามกติกา มิเช่นนั้นก็เท่ากับผู้ชุมนุมเป็นฝ่ายฉีกรัฐธรรมนูญเสียเอง ซึ่งไม่ต่างอะไรกับทหารที่ก่อรัฐประหารแล้วฉีกรัฐธรรมนูญ
เรื่องไหนที่ยังตกลงกันไม่ได้วันนี้ ก็ขีดเส้นใต้พักไว้ก่อน เพราะเรื่องสำคัญกว่านี้ยังมีอีกมาก เป็นต้นว่า เรื่องเศรษฐกิจของประเทศ เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของคนยากคนจน คนชั้นกลาง – ล่างของสังคม เรื่องกระบวนการยุติธรรมที่ฉ้อฉลและไม่เป็นที่พึ่งของสังคม เรื่องการคอร์รัปชันโกงกินที่มีอยู่ทุกหย่อมหญ้า
เอาเรื่องเหล่านี้มาคุยกันก่อนดีไหม มาช่วยกันแก้ดีกว่ามาเผชิญหน้ากันให้พวกสุดโต่งทั้งหลายใช้เป็นข้ออ้างนำพาประเทศชาติไปสู่หนทางหายนะ
เพราะถ้าสถานการณ์เผชิญหน้าจนเกิดการปะทะกันครั้งนี้ การนองเลือดจะยิ่งกว่า “6 ตุลา” และจะไม่อยู่แค่ในกรุงเทพฯ ถึงตอนนั้นบ้านเมืองจะไร้ขื่อไร้แป การจลาจลปล้นชิงจะเกิดขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งจะเข้าทางของพวกที่อยากให้ไทยกลายเป็นประเทศที่ล้มเหลว กลายเป็นประเทศที่ต้องมีกองกำลังสหประชาชาติเข้ามาปกครองภายใต้ข้ออ้างรักษาความสงบ ตัวอย่างของประเทศที่ประชาชนแตกแยกทะเลาะเบาะแว้งกันเอง แทนที่จะสามัคคีกันสร้างชาติมีให้เห็นมากมาย
หรืออยากให้ประเทศไทยเป็นแบบนี้?
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
20 สิงหาคม 2563
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี