ผมเคยเขียนเรื่อง “อันตรายของพวกสุดโต่ง” ไว้ที่คอลัมน์นี้เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ในท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ที่ฝ่ายชุมนุมประท้วงหลากหลายชื่อ โดยมี“แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” เป็นหัวหอก เรียกร้อง 3 ข้อ คือ ให้พลเอกประยุทธ์ลาออกให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้ปฏิรูปสถาบัน
ผมไม่ได้เป็นห่วงในประเด็นเรื่องข้อเรียกร้อง แต่เป็นห่วงในประเด็นพวกสุดโต่งที่อยู่ในทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหวหรือ ฝ่ายต่อต้าน, ฝ่ายท้าทายสถาบัน หรือ ฝ่ายปกป้องสถาบันเพราะพวกนี้จะทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้ว เลวร้ายลงไปอีก
วันนี้ ญาติวีรชนพฤษภาทมิฬ และ 30 องค์กรประชาธิปไตย จะจัดเสวนา“สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” ให้ภาคประชาชนร่วมหาทางออกให้ชาติบ้านเมือง ณ ห้องประชุมชั้น 3 สมาคมนักข่าว ถนนสามเสน โดยมีวิทยากร อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช., นายสมชาย หอมลออ ที่ปรึกษาสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน, นายธีรชัยภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการสตง., นายปรีดา เตียสุวรรณ์ เครือข่ายนักธุรกิจเพื่อสังคม และนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน เป็นต้น
ดูจากรายชื่อวิทยากรแล้วน่าจะมีแง่คิดมุมมองที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองบ้างไม่มากก็น้อย
แต่ดูจากมุมของผู้มีอำนาจแก้ไขปัญหา ก็ยากจะคาดหวังว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขแม้นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ที่เป็นหนึ่งในแกนนำการจัดงานครั้งนี้ประกาศจะเคลื่อนไหวกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ลงจากอำนาจเพื่อตัดตอนความรุนแรงที่จะนำประเทศไปสู่หายนะ
เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ คงยังไม่คิดจะลงจากอำนาจและจะลงจากอำนาจก็ต่อเมื่อมีอำนาจหรือกำลังที่เหนือกว่ามาจี้ให้ลงเท่านั้น
ที่สำคัญ การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมในวันนี้ ก้าวข้ามข้อเรียกร้อง 3 ข้อไปที่ข้อเรียกร้องสุดท้าย คือ การปฏิรูปสถาบัน ไปแล้ว
การปฏิรูปสถาบัน ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องชัดเจนเมื่อไม่นานมานี้เป็นพัฒนาการที่น่าจะสืบเนื่องมาจากข้อเรียกร้องของคณะนิติราษฎร์ ที่ให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2554 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ว่าที่จริงแล้ว การแก้ไขมาตรา 112 ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว หรือต้องต่อต้านถ้าประเด็นที่แก้ไขไม่นำไปสู่ผลเสียหายต่อประเทศชาติและไม่ทำลายสถาบัน เป็นต้นว่าให้สำนักราชเลขาธิการ หรือ องค์กรหนึ่งใดก็ได้ ที่จะจัดตั้งขึ้นเป็นผู้มีอำนาจกล่าวโทษตามมาตรา112 มิใช่ปล่อยให้ใครก็ได้ แอบอ้างความจงรักภักดี อาศัยมาตรา 112 มากล่าวโทษผู้อื่นซึ่งทำให้สถาบันต้องพลอยมัวหมองไปด้วยเพราะการแอบอ้างนั้น
ในทางกลับกัน การเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบัน ที่กระทำเกินเลยถึงขั้นลบหลู่พระเกียรติยศไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของบุรพกษัตริย์ ที่ทรงต่อสู้ปกปักรักษาผืนแผ่นดินนี้เอาไว้ให้พวกเรา ก็ดูจะเป็นการกระทำที่สุดโต่งและไร้เหตุผลจนเกินไป
การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุนไม่ว่าจะในนาม แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม,คณะราษฎร 2563 หรือในนาม REDEM แม้แกนนำจะออกตัวว่าเป็นการชุมนุมอย่างสันติแต่แทบทุกครั้งผู้เข้าร่วมการชุมนุมจำนวนหนึ่ง ที่มีความคิดแบบสุดโต่งก็มิได้ชุมนุมอย่างสันติสักเท่าไร ที่สำคัญการออกมาชุมนุมเรื่อย ๆ โดยที่ฝ่ายตรงข้ามไม่สะทกสะเทือนอะไรแต่ผลกระทบกลับไปตกแก่ภาพลักษณ์ของประเทศชาติไปตกแก่ประชาชนที่ใช้ชีวิตและทำมาหากินในบริเวณที่มีการชุมนุมต้องได้รับความเดือดร้อนและมีชีวิตที่ไม่เป็นปกติสุข โดยไม่รู้ว่าเมื่อไรเหตุการณ์แบบนี้จะจบจะสิ้นนั้นฝ่ายผู้ชุมนุมกลับไม่นำไปคิดก่อนตัดสินใจจัดการชุมนุมแบบเกือบจะเป็นรายวันอยู่ทุกวันนี้
ในทางตรงกันข้าม พวกสุดโต่งที่อยู่ฟากฝั่งต่อต้านการชุมนุม ก็ขยายความขัดแย้งลามปามไปถึงขั้นด่าทอและเสนอให้ยุบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ผลิตนักศึกษาที่มีคุณูปการมากมายต่อบ้านเมืองและประชาคมธรรมศาสตร์ ส่วนใหญ่ที่สุดก็เป็นคนดีและมิได้เห็นด้วยกับการนำชื่อมหาวิทยาลัยไปใช้ในการชุมนุม หนักขึ้นกล่าวหาว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นคอมมิวนิสต์ หรือมีคอมมิวนิสต์อยู่เบื้องหลัง ทั้งที่อุดมการณ์และวิธีการของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น แตกต่างจากของชาวพรรคคอมมิวนิสต์มากมายนัก
ความขัดแย้งทางการเมืองวันนี้ ต้องอาศัยการถกแถลงแสดงเหตุผลและหักล้างกันด้วยปัญญา มิใช่อารมณ์ ที่สำคัญอย่าปล่อยให้พวกสุดโต่งครอบงำสถานการณ์ หาไม่แล้ว สิ่งที่จะได้มาคือการนองเลือดและความพ่ายแพ้ของประเทศชาติ
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
26 มีนาคม 2564
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี