ในวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ มีคดีความระหว่างพระรามกับทศกัณฐ์ เมื่อฟังความจากทุกฝ่ายแล้ว ท้าวมาลีวราช ซึ่งทำหน้าที่ตุลาการ ก็ตัดสินความ ตำหนิทศกัณฐ์ ความว่า
ลุแก่โลภหลงเมามัว
ถือเอาที่ชั่วว่าเป็นดี
เมื่อมึงพอใจทรลักษณ์
ไม่รักสุริวงศ์ยักษี
ขอให้วิบัติอัปปรีย์
อย่ามีที่สุขสถาพร
ถ้าแม้นจะออกต่อยุทธ์
ให้ตายด้วยอาวุธแสงศร
ขององค์พระรามสี่กร
พ่ายแพ้ฤทธิรอนทุกวันไป
ท้าวมาลีวราช ตำหนิทศกัณฐ์ เช่นนั้น เมื่อฟังความตลอดแล้วก็เห็นว่า ทศกัณฐ์ ไม่รู้ดีรู้ชั่ว
คำตำหนิของท้าวมาลีวราชนั้น คล้ายๆ กับคำพูดด้วยความเอือมระอาของอาจารย์ ชัยอนันต์ สมุทวนิช ที่พูดกับนักจัดรายการโทรทัศน์ คนหนึ่งว่า “แยกชั่ว แยกดีไม่ออก”
ความยุ่งยาก วุ่นวายของสังคมบ้านเราที่เป็นอยู่ ทุกวันนี้ ว่ากันถึงที่สุดแล้วก็มาจาก ที่คนส่วนหนึ่ง แยกชั่ว แยกดี ไม่ออกนั่นเอง
คนที่ถูกศาลสถิตยุติธรรมตัดสินว่ามีความผิด ทุจริตประพฤติมิชอบ หลักฐานก็ปรากฏชัด ต้องหลบหนีคดี แต่ก็ยังลอยหน้าลอยตา ออกมาเสนอหน้าต่อสังคม ออกมาชี้แนะโน่นนี้ แม้กระทั่งเรื่องการศึกษาของชาติ ทั้งที่ช่วงที่ตัวเป็นใหญ่นั้น มีข่าวออกไปทั่วโลกว่าลูกชายพกโพยเข้าห้องสอบ
หรือนักการเมืองรุ่นใหม่ที่คิดจะเป็นนายกฯบอกกับศาลรัฐธรรมนูญว่า ที่ตัวออกมาเล่นการเมืองนั้นมีเจตนาดีต่อบ้านเมือง ไม่คิดประพฤติชั่วเหมือนนักการเมืองคนนั้น แต่พอพ้นศาลมาไอ้นักการเมืองคนนี้ก็พูดอีกอย่าง
จัดว่ามันแยกชั่วแยกดีไม่ออก และไม่อยู่กับร่องกับรอยอีกคน
ก่อนจะมีเลือกตั้งผู้แทนราษฎร มีกลุ่มคนที่เคลื่อนไหว อยากจะเลือกตั้ง ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับประชาธิปไตย ที่มีการเคลื่อนไหวอยากเลือกตั้ง อยากปกครองตนเอง มาวันนี้ ไอ้คนที่อยากเลือกตั้งได้เป็นผู้แทนราษฎร มันกลับเคลื่อนไหว ในฐานะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรจะเรียกตุลาการ จะเรียกประธานศาลฎีกา มาสอบถาม เรื่องที่มันสงสัยข้องใจ
การแสดงความโง่ออกมาเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่า ที่มันอยากจะเลือกตั้ง หรือที่มันพูดถึงประชาธิปไตยนั้น มันไม่ประสีประสาทางการเมืองเลย
เหตุที่บุคคล หรือใครคนใดคนหนึ่ง ตกอยู่ในสภาพ “ลุแก่โลภหลงเมามัว ถือเอาที่ชั่วว่าเป็นดี” นั่นอาจเพราะไม่ศึกษา ไม่ทำความเข้าใจกับปัญหาหนึ่ง จงใจที่จะโง่ จะไม่เข้าใจ เพราะเห็นแก่อามิส เห็นแก่ผลประโยชน์หนึ่ง เพราะมีคนบางจำพวกได้ประโยชน์จากการที่สังคมสับสน แยกดี แยกชั่วไม่ได้
อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้คนส่วนหนึ่งมองไม่เห็นความชั่ว ความเลวอันบัดซบของมัน จนถึงกับเรียกร้องให้มันกลับเข้ามาแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง ทั้งที่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะมันเป็นนักโทษหนีคดี กลับมาก็ต้องติดคุก พ้นคุกออกมาก็ต้องพิจารณาอีกว่า มันถูกตัดสิทธิทางการเมืองหรือไม่ พ้นจากการตัดสินหรือยัง
ถ้าทุกคนต่างแสวงหาความจริง ก็จะไม่ถูกอวิชาบดบัง แลก็จะไม่ตกอยู่ในสภาพ ลุแก่โลภหลงเมามัว ถือเอาที่ชั่วว่าเป็นดี
หรือแยกชั่ว แยกดีไม่ออก อย่าง พิธีกรรายการโทรทัศน์ ที่อาจารย์ ชัยอนันต์ เคยว่า
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี