เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2576 คือหลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองจะครบปี ก็มีคณะนายทหารยึดอำนาจจากรัฐบาล พระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรี
คณะนายทหารที่ยึดอำนาจครั้งนั้นเรียกชื่อคณะว่า “ผู้ยึดอำนาจปกครองประเทศ” มี พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นหัวหน้าคณะ พันโท หลวงพิบูลสงคราม เป็นเลขานุการฝ่ายทหารบก นาวาโท หลวงศุภชลาศัย เป็นเลขานุการฝ่ายทหารเรือ
การยึดอำนาจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดย หัวหน้าคณะผู้ยึดอำนาจการปกครองประเทศ มีหนังสือถึง พระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรี ให้ลาออก
หนังสือนั้นมีสาระว่า
จำเดิมที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดินสยาม จวนเจียนจะครบรอบปีอยู่แล้ว คณะรัฐมนตรีได้บริหารราชการแผ่นดินไปมากหลาย กิจการบางอย่างไม่เป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองสมความมุ่งหมายของผู้สละชีวิตเลือดเนื้อ
มีกิจการมากหลายคณะรัฐมนตรีดำเนินไปให้เกิดความไม่พึงประสงค์ของบุคคลทั่วไป
ทหารบก ทหารเรือ และพลเรือนได้พิจารณาถ่องแท้แล้ว การบริหารราชการแผ่นดินเท่าที่คณะรัฐมนตรีปฏิบัตินั้น มีแต่จะทำให้ประเทศชาติดำเนินไปสู่ความหายนะ
เพื่อเห็นแก่อิสรภาพและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง คณะทหารบก ทหารเรือ และพลเรือนจึงขอให้ใต้เท้า และคณะรัฐมนตรีลาออก
ขอให้ใต้เท้านำความขึ้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงเปิดประชุมสภาผู้แทน และเลือกตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต่อไป
พระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรี มีหนังสือตอบกลับมาว่า
ผมได้รับหนังสือของเจ้าคุณ ขอให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ได้ทราบแล้ว ผมและคณะรัฐมนตรีขอลาออกจากตำแหน่ง และได้โทรเลขกราบบังคมทูลวันนี้
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ประทับอยู่ ณ พระราชวังไกลกังวล หัวหิน
คณะ ผู้ยึดอำนาจการปกครอง ก็ได้มีหนังสือกราบบังคมทูล ความว่า
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้าขอกราบบังคมทูลพระกรุณาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ ที่จำต้องให้คณะรัฐมนตรีชุดเก่าลาออก และจะรีบเปิดสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อยเวลานี้ ข้าพระพุทธเจ้าได้จัดการและรับรองว่า จะไม่มีอะไรที่ทรงหนักพระราชหฤทัย คณะทหารบก ทหารเรือ และพลเรือนที่ยึดอำนาจคราวนี้ ยังซื่อสัตย์จงรักภักดีอยู่ และขอพระราชทานให้ทรงดำรงตำแหน่งเป็นประมุขของชาติอยู่ตามเดิม
การยึดอำนาจครั้งนั้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
อะไรที่ทำให้มีการยึดอำนาจ ?
เกือบ 1 ปีของการเริ่มปกครองในระบอบประชาธิปไตยมีปัญหาค่อนข้างมาก รัฐบาลที่มีพระยามโนปกรณ์นิติธาดา เป็นนายกรัฐมนตรี แรกทีเดียว นายกรัฐมนตรี เป็น ประธานคณะกรรมการราษฎร ส่วนคณะรัฐมนตรีเรียก คณะกรรมการราษฎร เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับ 10 ธันวาคม 2475 จึงเรียก นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีของรัฐบาล พระยามโนปกรณ์ มีความเห็นที่ไม่เป็นเอกภาพ อย่างที่ไม่อาจจะประนีประนอมกันได้ ตั้งแต่ที่เริ่มร่างรัฐธรรมนูญ และเมื่อร่างเสร็จประกาศใช้ 10 ธันวาคม2475
รัฐบาล มีพระราชกฤษฎีกาสั่งปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (เป็นสภาที่มาจากการแต่งตั้ง) ห้ามไม่ให้เรียกประชุม จนกว่าจะได้มีสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เมื่อมีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ
ให้ยุบคณะรัฐมนตรีปัจจุบันเสีย ให้มีคณะรัฐมนตรีใหม่ กอร์ปด้วยนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีไม่เกิน 20 นาย ให้นายกรัฐมนตรีคณะที่ถูกยุบ (พระยามโนปกรณ์นิติธาดา) เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป กับให้คณะรัฐมนตรีซึ่งว่าการกระทรวงต่างๆ เป็นคณะรัฐมนตรีโดยตำแหน่ง ส่วนรัฐมนตรีอื่นๆจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯตั้งขึ้นโดยคำแนะนำของนายกรัฐมนตรีต่อไป
ตราบใดที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง และยังไม่มีการเรียกประชุมสภาผู้แทน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะได้ทรงใช้อำนาจนิติบัญญัติตามคำแนะนำและยินยอมของคณะรัฐมนตรี
ตราบใดที่ยังไม่ได้มีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร ยังไม่ได้มีการเรียกประชุมสภาผูแทนราษฎรใหม่นั้นและยังไม่ได้ตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ตามความในรัฐธรรมนูญแล้ว ให้รอการใช้บทบัญญัติต่างๆในรัฐธรรมนูญ ซึ่งขัดกับพระราชกฤษฎีกานี้เสีย ส่วนบทบัญญัติอื่นๆในรัฐธรรมนูญนั้นให้เป็นอันคงใช้ต่อไป
พระราชกฤษฎีกานั้นออกเมื่อ 1 เมษายน2476 และต่อมาอีก 11 วัน ก็ให้ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม (ปรีดี พนมยงค์) ผู้ร่างเค้าโครงเศรษฐกิจ ออกนอกประเทศ ไปฝรั่งเศส
และวันที่ 20 มิถุนายน 2476 พันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา ก็ยึดอำนาจจากรัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติธาดา
เป็นการยึดอำนาจครั้งแรกในระบอบประชาธิปไตย !
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี