เมื่อวานนี้ วันที่ 17 ตุลาคม 2566 ระหว่างเป็นประธานในพิธีสวนสนามและกล่าวคำปฏิญาณตน เนื่องในวันตำรวจ ณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ทำพิธีมอบ “แหวนอัศวิน” ให้กับ ร.ต.อ.ธัญอมร หนูนารถ รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ปฏิบัติหน้าที่ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ ในเหตุยิงที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566
มูลเหตุของการมอบแหวนครั้งนี้ ตามข่าวกล่าวว่า บิ๊กต่อท่านมีแนวคิดที่จะรื้อฟื้นประเพณีการมอบ “แหวนอัศวิน” เพื่อยกย่องข้าราชการตำรวจที่มีผลการปฏิบัติงานโดดเด่น และสร้างคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สังคม และประเทศชาติ จนเป็นที่ประจักษ์ ตามแนวทางของ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ให้กลับคืนมาอีกครั้ง เพราะท่านเห็นว่า “การเชิดชูคุณความดีตอนมีชีวิต ดีที่สุด”
บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 ขณะที่ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ก็เป็นอดีตอธิบดีกรมตำรวจ คนที่ 14 เช่นกัน การรื้อฟื้นประเพณีการมอบ “แหวนอัศวิน” ครั้งนี้ จึงมีความหมายยิ่ง
“แหวนอัศวิน” นี้ พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ เมื่อครั้งเป็นอธิบดีกรมตำรวจ ได้เริ่มมอบเป็นครั้งแรกแก่นายตำรวจคนสนิท 4 นาย คือ พ.ต.อ.พันศักดิ์ วิเศษภักดี, พ.ต.อ.อรรณพ พุกประยูร. พ.ต.อ.พุฒ บูรณสมภพ และ พ.ต.อ.วิชิต รัตนภานุ ต่อมาก็ได้มอบให้แก่นายตำรวจที่ทำชื่อเสียงในทางปราบปรามและในทางการงานอื่น อันเป็นประโยชน์ต่อทางราชการตำรวจไม่ว่าจะเป็นฝ่ายภูธร หรือฝ่ายนครบาล อีกหลายนาย
และเมื่อนายตำรวจที่ได้รับ “แหวนอัศวิน” มีเพิ่มมากขึ้นเป็นหลายสิบคน อธิบดีเผ่า จึงเกิดความคิดที่จะแบ่งแยกระดับของ “แหวนอัศวิน” ด้วยการเอาเพชรมาติดที่หัวแหวน เป็นการยกระดับให้กับพวกที่ทำงานชนิดเสี่ยงชีวิต สมบุกสมบันในหน้าที่จริง ๆ คำว่า “อัศวินแหวนเพชร” จึงเกิดขึ้นตามมา และผู้ที่ได้รับแหวนอัศวินฝังเพชรเป็นรางวัลรุ่นแรกก็คือ นายตำรวจคนสนิททั้งสี่ของอธิบดีเผ่านั่นเอง
แต่ “อัศวินแหวนเพชร” ที่ทำงานเสี่ยงชีวิตปฏิบัติหน้าที่ที่เสี่ยงอันตรายจริง ๆ ถึงขั้นบาดเจ็บเกือบเสียชีวิตในการสู้รบและในการปราบปรามโจรผู้ร้ายนั้น อธิบดีเผ่า ท่านได้จำกัดให้มีเพียง 13 นาย เพื่อให้ตรงกับเลขมงคลของตำรวจ คือ 13 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันตำรวจของทุกปี
13 นายตำรวจที่ได้รับ “อัศวินแหวนเพชร” นอกจากนายตำรวจคนสนิททั้งสี่แล้ว ยังมีนายตำรวจที่เราคุ้นชื่ออีกบางนาย เช่น พ.ต.ท.เยื้อน ประภาวัต, พ.ต.ต.ประชา พูนวิวัฒน์ และ พล.ต.อ.มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น (ขณะได้รับ “อัศวินแหวนเพชร” มียศระดับนายพันตำรวจ) เป็นต้น
นอกจาก “แหวนอัศวิน” แล้ว สิ่งที่ พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ สร้างไว้ในขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ ระหว่าง พ.ศ. 2494 – 2500 คือ คำขวัญ "ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ในทางที่ไม่ขัดต่อศีลธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามและกฎหมายบ้านเมือง"
และภายใต้คำขวัญนี้ อาณาจักรสีกากีก็สยายปีกออกไปจนคับบ้านคับเมืองประหนึ่งจะเป็นรัฐตำรวจอีกรัฐหนึ่ง มีการวิสามัญผู้ต้องหา มีการฆ่าฝ่ายตรงข้าม มีการเลี้ยง "นักเลงเก้ายอด" ที่สามารถเข้าออกกองปราบสามยอดได้อย่างสะดวกโยธิน เป็นที่หวาดกลัวไม่เพียงแต่ในหมู่ประชาชน หากยังเป็นที่หวั่นเกรงในหมู่ทหาร จนในที่สุดด้วยปัจจัยประกอบทางการเมืองในขณะนั้น จึงนำไปสู่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 ที่นำโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อาณาจักรสีกากีของอธิบดีเผ่าจึงพังทลายลง
กระนั้นทุกวันนี้ ในอาณาจักรสีกากี ก็ยังมีตำรวจน้ำดีที่สังคมมองเห็น ตำรวจน้ำดีที่รักเกียรติยศศักดิ์ศรี ทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตให้กับงานในหน้าที่อย่างไม่เสียดายชีวิต ไม่คิดถึงยศฐาบรรดาศักดิ์ที่ต้องแลกมาด้วยการทุจริตและการประจบสอพลอ
แม้รอบ ๆ ตัวพวกเขา จะเต็มไปด้วยตำรวจเลวอีกจำนวนมาก ที่แผ่อิทธิพลเข้าไปในหมู่ประชาชน คนหาเช้ากินค่ำที่ไม่มีปากมีเสียง ตบทรัพย์รับส่วยเข้ากระเป๋าและส่งมอบเจ้านาย ภายใต้คำขวัญ "ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้”
ถอดเสื้อเหลือแต่กางเกงสีกากีนั่งกินข้าวกับกำนันก็ทำมาแล้ว !
ไหน ๆ วันนี้ บิ๊กต่อก็ตั้งใจจะรื้อฟื้น “แหวนอัศวิน” เพื่อยกย่องข้าราชการตำรวจที่มีผลการปฏิบัติงานโดดเด่น และสร้างคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สังคม และประเทศชาติ จนเป็นที่ประจักษ์แล้ว กรุณารื้อฟื้นคำขวัญฉบับเต็มที่ว่า "ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ในทางที่ไม่ขัดต่อศีลธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามและกฎหมายบ้านเมือง" ขึ้นมาด้วย
อย่าให้เป็นคำขวัญที่ขาดหาย ที่เหลือแค่ "ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้"
เพราะไม่เช่นนั้นวันหนึ่ง อาจเห็นนายตำรวจนั่งแก้ผ้ากินเหล้ากับนักเลงปากซอยที่เป็นเจ้าพ่อวินมอร์เตอร์ไซค์ก็เป็นได้ !
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๖
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี