วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ประกาศลั่น กล้าคิดใหญ่ กล้าทำใหญ่ โดยจะแจกเงินประชาชนคนไทยคนละ 10,000 บาท ทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจน อายุ 16 ปีขึ้นไป ให้ใช้ได้ในระยะรัศมีจากที่อยู่อาศัย 4 กิโลเมตร ในเวลา 6 เดือน ให้ใช้ซื้อสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิต
ไม่ได้ให้เป็นเงินสด แต่จ่ายผ่านเหรียญดิจิตอล อ้างว่าที่จะต้องทำเช่นนี้เพื่อตรวจสอบได้
ทันทีที่ประกาศนโยบายนี้ออกมาก็มีผู้คนออกมาคัดค้านกันอื้ออึง
คนที่ค้านไม่ธรรมดา เป็นอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหลายท่าน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนปัจจุบันก็ค้าน รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์ ระดับศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ คณบดี
นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรีไม่ฟัง นอกจากไม่ฟังแล้วยังเรียกร้องประชาชนคนยากคนจนให้ลุกขึ้นมาส่งเสียงสนับสนุนนโยบายตัวเอง
นายเศรษฐาพูดถึงคนยากคนจนด้วยความเห็นอกเห็นใจ ประหนึ่งเป็นนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ จนแทบจะไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาเคยเก็บเงิน 10 บาท 20 บาทจากรถยนต์ รถมอร์เตอร์ไซด์ ข้ามสะพานข้ามคลอง ที่เขาขออนุญาตจาก กทม. เพื่อให้อสังหาริมทรัพย์ของเขามีราคา ที่ดินมีทางออก
ยังไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้า กทม.ยังไม่สั่งห้าม บริษัทของเขาจะยังเก็บต่อไปหรือไม่ ?
เอาละ จะเป็นนักบุญก็ต้องปล่อยให้เป็นนักบุญ เพราะไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็คงไม่ฟัง เหมือนตอนที่เพื่อไทยเป็นรัฐบาลสมัย นางเอ๋อ นักวิชาการ นักการเมือง สื่อมวลชน เตือนยังไง มันก็ไม่ฟัง มันบอกว่า ผิดด้วยหรือ ที่รัฐบาลจะช่วยเหลือชาวไร่ชาวนา ช่วยคนยากคนจน
บอกมันไปว่าช่วยคนยากคนจนไม่ผิด หลายรัฐบาลที่ผ่านมาก็ช่วยคนยากคนจน แต่ถ้าอาศัยการช่วยนั้นมาทำมาหากิน เขาก็จับไปติดคุก เช่นแจกจอบแจกเสียม ใครกินจอบกินเสียมก็ต้องเข้าคุก แจกพันธุ์พืช แจกผ้าห่ม ทุจริตก็คุก
จำนำข้าวก็คุกทั้งรัฐมนตรี นางเอ๋อ ที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทุกวันนี้ก็กำลังหนีคุก
แจกเงินหมื่นล่ะ ?
ผมเคยบอกแล้ว อย่างนี้มันเท่ากับซื้อเสียงหัวละหมื่น มันอาจจะเลี่ยงกฎหมายได้โดยอ้างว่า ไม่ได้ให้คนอายุ 18 ปีที่มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ให้ตั้งแต่อายุ 16 ปี กกต.ก็คงพร้อมที่จะเชื่อมันจึงไม่เอาผิด
เชื่อเถอะว่า เลือกตั้งคราวต่อไปก็จะมีพรรคการเมืองออกมาประกาศแจกหัวละ 2 หมื่น 3 หมื่น อย่างที่พรรคเพื่อไทยประกาศคราวนี้
กกต. จะว่าอย่างไร?
เอาละ มันอยากแจก ก็ต้องปล่อยให้มันแจก เพราะมันเป็นรัฐบาล มันมีอำนาจ มันคิดว่ามันมีอำนาจ
แต่มันจะไปเอาเงินที่ไหนมาแจก ในเมื่อรัฐบาลไม่มีเงิน รัฐบาลยังมีหนี้สิน เป็นหนี้สินที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ช่วงที่ระบาดโรคติดต่อโควิด 19 ผู้คนส่วนหนึ่งทำมาหากินไม่ได้ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็ต้องกู้มาแจก อย่าว่าแต่หนี้จำนำข้าวที่รัฐบาลนางเอ๋อทิ้งเอาไว้ (ตอนนี้ก็ยังใช้หนี้ไม่หมด)
มันจะกู้จากไหน ?
ถามมันก็ไม่ตอบชัดเจน แรกทีเดียวบอกว่าไม่กู้ จะหั่นงบประมาณโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะตัดจากกระทรวงกลาโหม ทุกวันนี้คงจะไม่กล้าที่จะตัด หรือจะแตะก็ไม่กล้า
เงื่อนไขที่มันแจก มันบอกคนละหมื่นใช้ในรัศมี 4 กิโลเมตร ในเวลา 6 เดือน บางทีมันก็เพ้อว่า ครอบครัวไหนมี 5 /6 คนรวมกันแล้วก็จะได้ 5/6 หมื่น เอาไปลงทุน เอาไปสร้างตัวได้ มันจะเอาไปลงทุน สร้างตัวได้ยังไง มันบอกให้ซื้อข้าวของที่จำเป็นในการดำรงชีวิต จะเอาไปลงทุนยังไง เอาไปใช้หนี้ก็ยังไม่ได้
มันไม่ชัด ไม่กระจ่างสักเรื่อง
แต่คนที่เขาค้าน เขาบอกได้ชัดเลยว่าจะเป็นภาระหนี้สินให้ลูกหลานในวันข้างหน้า จะกี่สิบปีก็ไม่รู้
แล้วใครรับผิดชอบ นอกจากประชาชน ลูกหลานประชาชาชน ส่วนมันพ้นหน้าที่ไปแล้ว
นอกจากคำถามที่ว่า เงินจะกู้จากไหน มันตอบไม่ได้ ถามว่า ทำไมต้องแจกเป็นเป็นเหรียญดิจิตอล ค่าดำเนินการเท่าไหร่ บริษัทไหน ใครมีผลประโยชน์ มันก็ตอบไม่ได้
เราจะต้องปล่อยให้เป็นเวรกรรมของชาติบ้านเมืองหรืออย่างไร ?
สำเริง คำพะอุ

'นั่นไง รอยยิ้มของฉัน' ย้อนบทสัมภาษณ์ในหลวง ร.9 ตรัสถึงพระพันปีหลวง
ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน' ประจำวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568
ชมพระฉายาลักษณ์ชุดสุดท้าย'พระพันปีหลวง' ที่สำนักพระราชวังเผยแพร่
'กสทช.'ขอความร่วมมือทีวีทุกช่องปรับโทนรายการ แต่งกายขาวดำ ถวายความอาลัย
ทำเนียบรัฐบาล'ลดธงครึ่งเสา' ถวายความอาลัย'สมเด็จพระพันปีหลวง'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี