ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ประกาศลั่น กล้าคิดใหญ่ กล้าทำใหญ่ โดยจะแจกเงินประชาชนคนไทยคนละ 10,000 บาท ทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจน อายุ 16 ปีขึ้นไป ให้ใช้ได้ในระยะรัศมีจากที่อยู่อาศัย 4 กิโลเมตร ในเวลา 6 เดือน ให้ใช้ซื้อสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิต
ไม่ได้ให้เป็นเงินสด แต่จ่ายผ่านเหรียญดิจิตอล อ้างว่าที่จะต้องทำเช่นนี้เพื่อตรวจสอบได้
ทันทีที่ประกาศนโยบายนี้ออกมาก็มีผู้คนออกมาคัดค้านกันอื้ออึง
คนที่ค้านไม่ธรรมดา เป็นอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหลายท่าน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนปัจจุบันก็ค้าน รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์ ระดับศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ คณบดี
นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรีไม่ฟัง นอกจากไม่ฟังแล้วยังเรียกร้องประชาชนคนยากคนจนให้ลุกขึ้นมาส่งเสียงสนับสนุนนโยบายตัวเอง
นายเศรษฐาพูดถึงคนยากคนจนด้วยความเห็นอกเห็นใจ ประหนึ่งเป็นนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ จนแทบจะไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาเคยเก็บเงิน 10 บาท 20 บาทจากรถยนต์ รถมอร์เตอร์ไซด์ ข้ามสะพานข้ามคลอง ที่เขาขออนุญาตจาก กทม. เพื่อให้อสังหาริมทรัพย์ของเขามีราคา ที่ดินมีทางออก
ยังไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้า กทม.ยังไม่สั่งห้าม บริษัทของเขาจะยังเก็บต่อไปหรือไม่ ?
เอาละ จะเป็นนักบุญก็ต้องปล่อยให้เป็นนักบุญ เพราะไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็คงไม่ฟัง เหมือนตอนที่เพื่อไทยเป็นรัฐบาลสมัย นางเอ๋อ นักวิชาการ นักการเมือง สื่อมวลชน เตือนยังไง มันก็ไม่ฟัง มันบอกว่า ผิดด้วยหรือ ที่รัฐบาลจะช่วยเหลือชาวไร่ชาวนา ช่วยคนยากคนจน
บอกมันไปว่าช่วยคนยากคนจนไม่ผิด หลายรัฐบาลที่ผ่านมาก็ช่วยคนยากคนจน แต่ถ้าอาศัยการช่วยนั้นมาทำมาหากิน เขาก็จับไปติดคุก เช่นแจกจอบแจกเสียม ใครกินจอบกินเสียมก็ต้องเข้าคุก แจกพันธุ์พืช แจกผ้าห่ม ทุจริตก็คุก
จำนำข้าวก็คุกทั้งรัฐมนตรี นางเอ๋อ ที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทุกวันนี้ก็กำลังหนีคุก
แจกเงินหมื่นล่ะ ?
ผมเคยบอกแล้ว อย่างนี้มันเท่ากับซื้อเสียงหัวละหมื่น มันอาจจะเลี่ยงกฎหมายได้โดยอ้างว่า ไม่ได้ให้คนอายุ 18 ปีที่มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ให้ตั้งแต่อายุ 16 ปี กกต.ก็คงพร้อมที่จะเชื่อมันจึงไม่เอาผิด
เชื่อเถอะว่า เลือกตั้งคราวต่อไปก็จะมีพรรคการเมืองออกมาประกาศแจกหัวละ 2 หมื่น 3 หมื่น อย่างที่พรรคเพื่อไทยประกาศคราวนี้
กกต. จะว่าอย่างไร?
เอาละ มันอยากแจก ก็ต้องปล่อยให้มันแจก เพราะมันเป็นรัฐบาล มันมีอำนาจ มันคิดว่ามันมีอำนาจ
แต่มันจะไปเอาเงินที่ไหนมาแจก ในเมื่อรัฐบาลไม่มีเงิน รัฐบาลยังมีหนี้สิน เป็นหนี้สินที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ช่วงที่ระบาดโรคติดต่อโควิด 19 ผู้คนส่วนหนึ่งทำมาหากินไม่ได้ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็ต้องกู้มาแจก อย่าว่าแต่หนี้จำนำข้าวที่รัฐบาลนางเอ๋อทิ้งเอาไว้ (ตอนนี้ก็ยังใช้หนี้ไม่หมด)
มันจะกู้จากไหน ?
ถามมันก็ไม่ตอบชัดเจน แรกทีเดียวบอกว่าไม่กู้ จะหั่นงบประมาณโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะตัดจากกระทรวงกลาโหม ทุกวันนี้คงจะไม่กล้าที่จะตัด หรือจะแตะก็ไม่กล้า
เงื่อนไขที่มันแจก มันบอกคนละหมื่นใช้ในรัศมี 4 กิโลเมตร ในเวลา 6 เดือน บางทีมันก็เพ้อว่า ครอบครัวไหนมี 5 /6 คนรวมกันแล้วก็จะได้ 5/6 หมื่น เอาไปลงทุน เอาไปสร้างตัวได้ มันจะเอาไปลงทุน สร้างตัวได้ยังไง มันบอกให้ซื้อข้าวของที่จำเป็นในการดำรงชีวิต จะเอาไปลงทุนยังไง เอาไปใช้หนี้ก็ยังไม่ได้
มันไม่ชัด ไม่กระจ่างสักเรื่อง
แต่คนที่เขาค้าน เขาบอกได้ชัดเลยว่าจะเป็นภาระหนี้สินให้ลูกหลานในวันข้างหน้า จะกี่สิบปีก็ไม่รู้
แล้วใครรับผิดชอบ นอกจากประชาชน ลูกหลานประชาชาชน ส่วนมันพ้นหน้าที่ไปแล้ว
นอกจากคำถามที่ว่า เงินจะกู้จากไหน มันตอบไม่ได้ ถามว่า ทำไมต้องแจกเป็นเป็นเหรียญดิจิตอล ค่าดำเนินการเท่าไหร่ บริษัทไหน ใครมีผลประโยชน์ มันก็ตอบไม่ได้
เราจะต้องปล่อยให้เป็นเวรกรรมของชาติบ้านเมืองหรืออย่างไร ?
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี