วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สหประชาชาติ/ปักกิ่ง (รอยเตอร์ส/ซีซีทีวี/บีบีซี นิวส์)-สหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยอินเดียจะแซงหน้าจีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกในปีนี้ แม้ว่าอัตราการเติบโตของประชากรอินเดียชะลอตัวลง ขณะที่ข้อมูลชี้ ประชากรจีนหดต่ำลงเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี ด้วยอัตราเกิดลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เหลือ 6.77 คน ต่อประชากร 1,000 คน
โดยการลดลงของประชากรจีนเมื่อปีที่แล้วซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ที่คาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการลดลงของจำนวนพลเมืองในระยะเวลานาน โดยมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเศรษฐกิจของจีนและของโลก โดยปัจจุบัน อินเดียมีประชากรอยู่ที่ 1,380 ล้านคน เมื่อเทียบกับ 1,400 ล้านคนในจีน โดยอัตราการเติบโตของประชากรรายปีของอินเดีย เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.2 ตั้งแต่ปี 2554 ลดลงจากร้อยละ 1.7ในช่วง 10 ปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ การใช้วิธีการวางแผนครอบครัวในอินเดีย เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 66.67 ในปี 2562-2564 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 53.5 ในปี 2558-2559 ส่วนอัตราการเกิดทั้งหมดในอินเดีย จำนวนเด็กต่อผู้หญิง ลดลงเหลือ 2 ในปี 2562-2564 จาก 3.4 ในปี 2535-2536โดยร้อยละ 27.3 ของประชากรอายุระหว่าง 15-29 ปี จึงทำให้อินเดียเป็นประเทศหนึ่งที่มีประชากรอายุน้อยที่สุดในโลก
ในอีกด้านหนึ่ง ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนที่เปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 18 ม.ค. พบว่า ประชากรจีนหดต่ำลงเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี ด้วยอัตราเกิดลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เหลือ 6.77 คน ต่อประชากร 1,000 คน อัตราการเกิดในปี 2022 ลดลงจาก 7.52 คนต่อประชากร 1,000 คนในปี 2021 ทำให้ในปี 2022 ประชากรจีนหดต่ำเหลือ 1,411 ล้านคนลดลง 850,000 คน จากปี 2021 นอกจากนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตในจีน ยังแซงหน้าจำนวนคนเกิดเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นปีที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดนับแต่ปี 1976 โดยอัตราอยู่ที่ผู้เสียชีวิต 7.37 คนต่อประชากร 1,000 คน เพิ่มจากปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 7.18 คน
ก่อนหน้านี้ ข้อมูลของรัฐบาลชี้ว่า จีนกำลังเผชิญกับวิกฤตทางประชากรศาสตร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้จำนวนแรงงานจีนหดตัวลง และเพิ่มภาระให้ระบบสาธารณสุข รวมถึงรัฐต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านประกันสังคมอื่นๆ เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการเกิดของจีนลดต่ำลงมาต่อเนื่องหลายปีแล้ว ส่งผลให้รัฐบาลจีนพยายามออกนโยบายส่งเสริมการมีบุตร เพื่อชะลอไม่ให้อัตราการเกิดลดต่ำลงไปมากกว่านี้ แต่นโยบายส่งเสริมการมีบุตรเหล่านี้กลับไม่สามารถเพิ่มอัตราการเกิดได้ เนื่องจากนโยบายที่ส่งเสริมการมีบุตรนั้น ไม่ได้มาพร้อมกับมาตรการลดภาระการดูแลบุตรที่ดีเท่าที่ควร อาทิ ความช่วยเหลือมารดาที่ต้องทำงานพร้อมเลี้ยงบุตร รวมถึงการเข้าถึงการศึกษาที่ดีขึ้นสำหรับเด็ก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี