'ฮุนเซน'ลั่นให้ชาวเขมรใช้เงินเรียล-ดอลลาร์สหรัฐฯ แทนเงินบาทไทย หากรักชาติ สั่งจัดการพ่อค้า-จนท.ลักลอบนำเข้าสินค้าไทย ป้องเพื่อนบ้านดูถูก อยู่ไม่ได้หากไม่มีสินค้าไทย

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2568 ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า "ข้าพเจ้าได้รับข้อมูลว่า ประชาชนของเรา โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนปอยเปต จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ได้เริ่มแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นเงินเรียล ภายในเวลา 2 ชั่วโมง หลังจากที่ข้าพเจ้าโพสต์ข้อความเชิญชวนเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา

นับเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนกัมพูชาหันมาใช้เรียลบนแผ่นดินของตนเอง ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางการเงิน และป้องกันไม่ให้เงินเรียลกลายเป็นจุดอ่อนของชาติ เมื่อสกุลเงินต่างประเทศถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

ข้าพเจ้าได้รับทราบด้วยว่า คนกัมพูชาบางส่วนที่ทำงานและหาเลี้ยงชีพในประเทศไทย ขณะนี้ไม่สามารถถอนเงินจากธนาคารได้ สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เงินบาทไทยกำลังสร้างความเสียหายต่อคนกัมพูชาที่ทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทย ในอนาคตหากคนกัมพูชายังคงใช้และเก็บออมเป็นเงินบาทไทย ภายในกัมพูชาก็จะได้รับผลร้ายจากเงินบาทเช่นกัน

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการวิงวอนมีดังนี้ ถึงพ่อค้าชาวกัมพูชาทุกท่านที่ทำการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน โปรดแลกในอัตราตลาด อย่าแสวงหากำไรมากเกินควรด้วยการบีบค่าเงินบาทให้ต่ำ และผลักให้เรียลพุ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการทำให้ผู้ที่ต้องการแลกเงินได้รับความเสียหาย

ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้พี่น้องชาวกัมพูชาเลิกการคิดค่าแรง ราคาสินค้า หรือค่าบริการเป็นเงินบาทไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โปรดเปลี่ยนมาคิดเป็นเรียล หรือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ใช้เงินเรียล เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสกุลเงินของชาติ

หากท่านรักชาติจริง จงเก็บธนบัตรที่มีภาพพระบรมวงศานุวงศ์ของเรา ทั้งภาพพระบิดา (King Father) พระมารดา (Queen Mother) และพระมหากษัตริย์ (His Majesty the King) ไว้ในกระเป๋าเงิน กระเป๋าเสื้อ หรือกระเป๋าถือ แทนการพกธนบัตรของกษัตริย์ต่างประเทศซึ่งมองว่าเป็นศัตรูและดูถูกเรา

ข้าพเจ้าขอวิงวอนรัฐบาลกัมพูชาและเจ้าหน้าที่ทุกระดับให้ดำเนินการกำจัดเจ้าหน้าที่และพ่อค้าที่ยังลักลอบนำเข้าสินค้าจากไทยเข้ามาในประเทศขณะที่ด่านยังปิดอย่างเป็นทางการ พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้เพื่อนบ้านดูถูกเรา คิดว่าเราอยู่ไม่ได้หากไม่มีสินค้าของเขา

หากข้าพเจ้ายังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเหมือนเมื่อก่อน ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องพูดด้วยถ้อยคำเช่นนี้ ข้าพเจ้าคงออกคำสั่งให้จับกุมหรือนำตัวให้ออกจากตำแหน่งไปเสีย แต่ขออย่าได้คิดว่า “แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง” (When the cat’s away, the mice will play) "