ประเทศไทยเป็นหนึ่งในปลายทางสำคัญสำหรับแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน และ แรงงานกัมพูชา ถือเป็นกลุ่มแรงงานขนาดใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในหลายภาคส่วน บทความนี้จะเจาะลึกสถานการณ์แรงงานกัมพูชาในประเทศไทย เพื่อทำความเข้าใจถึงจำนวน อาชีพ ถิ่นที่อยู่ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากแรงงานกลุ่มนี้เดินทางกลับประเทศ
จำนวนและสถานะของแรงงานกัมพูชาในประเทศไทย
ในปัจจุบัน (ข้อมูลปี 2567-2568) มีแรงงานกัมพูชาที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทยประมาณ 1 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ยังไม่รวมแรงงานที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจมีจำนวนใกล้เคียงกัน ทำให้คาดการณ์ได้ว่า มีแรงงานกัมพูชาในประเทศไทยรวมกันไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน แรงงานเหล่านี้เข้ามาในไทยหลายรูปแบบ ทั้งแบบใบอนุญาตทำงานตามมาตรา 64 หรือผู้ติดตามครอบครัว
อาชีพและแหล่งที่อยู่อาศัยหลัก
แรงงานกัมพูชาส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานที่คนไทยไม่นิยมทำ อาชีพหลักที่พบได้แก่:
ภาคก่อสร้าง: เป็นภาคที่พึ่งพาแรงงานกัมพูชาอย่างมาก ตั้งแต่การก่อสร้างอาคารสูง ที่พักอาศัย ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ
ภาคเกษตรกรรม: โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคกลาง เช่น การปลูกผัก ผลไม้ และการทำประมง
ภาคบริการ: เช่น งานบ้าน ผู้ช่วยร้านอาหาร หรือพนักงานในธุรกิจขนาดเล็ก
ภาคอุตสาหกรรม: เช่น โรงงานแปรรูปอาหาร โรงงานผลิตเสื้อผ้า และโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
แรงงานเหล่านี้มักอาศัยอยู่ในแหล่งชุมชนใกล้สถานประกอบการ หรือตามแคมป์คนงานที่นายจ้างจัดหาให้ จังหวัดที่มีแรงงานกัมพูชาหนาแน่น ได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
ผลกระทบต่อไทยหากแรงงานกัมพูชากลับประเทศ
เมื่อไม่นานมานี้ มีกระแสข่าวเรื่องการเรียกร้องให้แรงงานกัมพูชากลับประเทศโดยผู้นำกัมพูชา หากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลกระทบเช่น
ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน: โดยเฉพาะในภาคก่อสร้างและเกษตรกรรม ซึ่งจะส่งผลให้โครงการต่างๆ ชะลอตัวหรือหยุดชะงัก ผลผลิตทางการเกษตรลดลง และต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น
การชะลอตัวของเศรษฐกิจ: ภาคการผลิตและบริการที่ต้องพึ่งพาแรงงานกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง
ผลกระทบต่อวิถีชีวิตและสังคม: หลายครอบครัวในไทยที่พึ่งพาแรงงานกัมพูชาในครัวเรือน หรือในธุรกิจขนาดเล็กจะต้องปรับตัว
หากแรงงานกัมพูชากลับประเทศ ส่วนใหญ่จะกลับไปประกอบอาชีพเดิมในประเทศ เช่น การเกษตรกรรม หรือทำงานในภาคอุตสาหกรรมและบริการที่กำลังเติบโตในกัมพูชา
แนวทางการรับมือและทดแทน
แม้ว่าการพึ่งพาแรงงานข้ามชาติ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน แต่การเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลและผู้ประกอบการควรพิจารณาแนวทางดังนี้:
ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรทดแทนแรงงาน: โดยเฉพาะในงานที่ใช้แรงงานเข้มข้น เพื่อลดการพึ่งพาแรงงานคนในระยะยาว
พัฒนาทักษะแรงงานไทย: ส่งเสริมให้แรงงานไทยเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่ตลาดต้องการ เพื่อให้สามารถเข้ามาทดแทนตำแหน่งงานที่แรงงานข้ามชาติเคยทำได้
ปรับปรุงสภาพการจ้างงานและสวัสดิการ: เพื่อดึงดูดและรักษาแรงงานไทยให้เข้ามาทำงานในภาคส่วนที่ยังขาดแคลน
ทบทวนนโยบายการนำเข้าแรงงาน: วางแผนการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติให้รัดกุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยอาจหาแรงงานจาก ลาว พม่า หรือบังคลาเทศมาทดแทนแรงงานกัมพูชา
การทำความเข้าใจสถานการณ์แรงงานกัมพูชาอย่างรอบด้าน จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถวางแผนและรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต
โดย สุริยพงศ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี