ท่านผู้อ่านที่เลี้ยงสุนัขเพศผู้ แล้วดูแลกันเป็นอย่างดีจนสุนัขมีอายุมากๆ อาจเคยประสบปัญหาเหล่านี้ เช่น ปัสสาวะขัด ปัสสาวะกะปริดกะปรอย อาจมีเลือดปนกับปัสสาวะ รวมถึงอาจมีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย หลายตัวมีอาการเบ่งอุจจาระนาน อุจจาระยาก ซึ่งอาการเหล่านี้บ่งถึงอาการของโรคต่อมลูกหมากโตในสุนัขเพศผู้ วันนี้ผมมีเรื่องราวเกี่ยวกับโรคนี้จากผศ.น.สพ.ดร.ศุภวิวัธน์ พงษ์เลาหพันธุ์ ภาควิชาสูติศาสตร์ฯ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาฝากครับ
โรคต่อมลูกหมากโตคืออะไร
โรคต่อมลูกหมากโต หรือ benign prostatic hyperplasia (BPH) เป็นโรคที่มีความสำคัญทางระบบสืบพันธุ์สุนัขเพศผู้มาก อาจเรียกได้ว่าเป็นโรคของสุนัขแก่เลยก็ได้ พบได้บ่อยในสุนัขเพศผู้อายุมากที่ยังไม่ได้ทำหมัน
โรคนี้มีโอกาสเกิดได้บ่อยแค่ไหน
อุบัติการณ์ของโรคต่อมลูกหมากโตในสุนัขที่ยังไม่ได้ทำหมันนั้น จะเพิ่มขึ้นตามอายุเช่นเดียวกับในคน โดยที่ผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 60-70 ปี จะมีภาวะต่อมลูกหมากโตได้ถึงร้อยละ 55 ส่วนในสุนัขนั้น พบว่าสุนัขอายุมากกว่า 5 ปี สามารถพบได้มากกว่าร้อยละ 80 ส่วนสุนัขอายุ 9 ปีขึ้นไปจะพบปัญหาต่อมลูกหมากโตได้มากกว่าร้อยละ 95 เลยทีเดียว
และนอกจากนี้ยังมีรายงานการเกิดโรคในลิงชิมแพนซีอีกด้วย แต่ไม่พบโรคนี้ในแมว (ผู้เลี้ยงแมวก็คงอุ่นใจได้นะครับ)
ลักษณะทางกายวิภาคของต่อมลูกหมากเป็นอย่างไร
ต่อมลูกหมากในสุนัขจะอยู่ล้อมรอบบริเวณคอของกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะส่วนต้น ทำหน้าที่ในการสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผสมพันธุ์
โรคต่อมลูกหมากโตมีสาเหตุมาจากอะไร
สาเหตุที่แน่ชัดของโรคต่อมลูกหมากโตนั้น ยังไม่ทราบอย่างแน่ชัด แต่เชื่อว่าสาเหตุของโรคเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศ (แอนโดรเจนและเอสโตรเจน) ซึ่งสุนัขที่ทำหมันแล้ว ต่อมลูกหมากจะฝ่อเล็กลง และไม่พบว่ามีปัญหาต่อมลูกหมากโตชนิด benign prostatic hyperplasia อีก (เนื่องจากตัดอวัยวะหลักที่สร้างฮอร์โมนเพศออกไปแล้ว) โดยมากสุนัขที่มีปัญหาต่อมลูกหมากโตเล็กน้อยนั้น มักไม่แสดงอาการทางคลินิก จนกว่าต่อมลูกหมากจะโตขึ้นกว่าปกติ 3-5 เท่าขึ้นไป
อาการของโรคต่อมลูกหมากโตเป็นอย่างไร
อาการผิดปกติที่พบ ได้แก่ ปัสสาวะขัด ปัสสาวะกะปริดกะปรอย ปัสสาวะบ่อยแต่ปริมาณไม่มาก มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ และอาจมีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย หลายรายมักมีของเหลวปนเลือดหยดออกจากปลายอวัยวะเพศ มีอาการท้องผูก เบ่งถ่ายอุจจาระนานด้วยความทรมาน เนื่องจากต่อมลูกหมากที่โตขึ้นนั้นกดท่อทางเดินปัสสาวะและนูนขึ้นจนไปกดส่วนของลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย นอกจากนั้น สุนัขอาจมีอาการก้าวเดินลำบากเนื่องจากมีความเจ็บปวดของต่อมลูกหมากอีกด้วย หากไม่ได้รับการรักษาอาการของโรคจะรุนแรงขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขนาดขึ้นของต่อมลูกหมากจนเกิดปัญหาอื่นตามมา
ในบางรายอาการของโรคต่อมลูกหมากโตอาจไม่ชัดเจน แต่ต่อมลูกหมากที่มีการเจริญผิดปกตินี้จะโน้มนำให้เกิดปัญหาของต่อมลูกหมากอื่นๆ ตามมาได้ เช่น ถุงน้ำในต่อมลูกหมาก (prostatic cyst) ฝีหนองในต่อมลูกหมาก (prostatic abscess) ซึ่งจะทำการรักษาได้ยากและใช้เวลานาน
มีวิธีการตรวจวินิจฉัยอย่างไร
การวินิจฉัยโรคนี้นั้น สัตวแพทย์จะทำการซักประวัติ ประเมินจากอาการ อายุ และการล้วงตรวจผ่านทางทวารหนักเพื่อตรวจขนาดของต่อมลูกหมาก รวมถึงการใช้ภาพ x-ray และอัลตราซาวด์ ซึ่งนอกจากจะใช้วินิจฉัยโรคต่อมลูกหมากโตแล้ว ยังแยกแยะโรคนี้ออกจากความผิดปกติอื่นของต่อมลูกหมากออกได้ด้วย เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก หรือ ฝีหนองในต่อมลูกหมาก เป็นต้น
มีวิธีการรักษาอย่างไร
การรักษาทำได้โดยการผ่าตัดทำหมัน เนื่องจากมีผลดีคือทำให้ต่อมลูกหมากลดขนาดลงอย่างรวดเร็วและถาวร การทำหมัน (โดยการตัดอัณฑะออก) จะทำให้ฮอร์โมนเพศผู้ลดลง ขนาดต่อมลูกหมากจะเริ่มลดลงภายใน 7 วันหลังการผ่าตัดทำหมัน และลดขนาดลงถึงร้อยละ 50 ภายใน 3 สัปดาห์ ทั้งนี้จะลดลงถึงร้อยละ 70 ภายใน 9 สัปดาห์ตามลำดับ
แม้ว่าการผ่าตัดทำหมันจะให้ผลดีในการรักษาอย่างรวดเร็ว แต่อาจมีข้อจำกัดในบางกรณีเช่น สุนัขอาจมีปัญหาสุขภาพอื่นร่วมด้วยเนื่องจากโรคต่อมลูกหมากโตมักพบในสุนัขอายุมาก จึงสามารถพบควบคู่ไปกับโรคในสุนัขแก่หลายโรคเช่น โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต หรือสัตว์อาจมีอาการอื่นร่วม เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึม เบื่ออาหาร ทำให้การวางยาสลบเพื่อผ่าตัดอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น อีกทั้งการผ่าตัดทำหมันในสุนัขที่เป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือข้อสะโพกเสื่อมนั้น อาจโน้มนำให้เกิดภาวะอ้วนเพิ่มขึ้นและทำให้การควบคุมโรคเดิมยากขึ้นด้วย
ในบางกรณีเจ้าของไม่อยากผ่าตัดทำหมันสุนัขเพราะต้องการเก็บสุนัขไว้ใช้เป็นพ่อพันธุ์ต่อไป การรักษาทางยาจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการรักษา โดยสัตวแพทย์จะแนะนำให้กินยาเพื่อลดขนาดต่อมลูกหมากติดต่อกันทุกวัน
อย่างไรก็ตามการรักษาทางยาจะมีผลทำให้ต่อมลูกหมากลดขนาดลงชั่วคราว สัตว์จำเป็นที่จะต้องได้รับยาอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม หากหยุดกินยา ต่อมลูกหมากจะกลับมาขยายขนาดใหญ่อีกได้
เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว ท่านใดที่มีสุนัขเพศผู้อายุมากที่ไม่ได้ทำหมัน ก็ควรพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย จะได้ทราบว่าสุนัข (อาวุโส) ของเรา เริ่มมีปัญหาเรื่องโรคต่อมลูกหมากโตหรือเปล่า เราจะได้ให้การรักษาแต่เนิ่นๆ นะครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ และฝ่ายประชาสัมพันธ์
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี