วันอังคาร ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568
“สาเหตุที่เราตัดสินใจเลือก อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับต้นของโลกเป็นบุคคลแห่งปี เพราะเขาเป็นตัวอย่างของคนรวย ที่นำเสนอทางออกสำหรับวิกฤตการดำรงอยู่ของมนุษย์ และการขับเคลื่อนสังคมไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญยิ่งท่ามกลางวิกฤตความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้น ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีลอน มัสก์ยิ่งแสดงให้เห็นว่า เป็นบุคคลที่มีความโดดเด่นในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คน”
“เอ็ดเวิร์ด เฟลเซนธาล” หัวหน้าบรรณาธิการของนิตยสารไทม์ บอกถึงเหตุผลที่ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ได้รับคัดเลือกให้เป็น “บุคคลแห่งปี 2021” หรือ TIME’s 2021 Person of the Year ในฐานะบุคคลผู้ทรงอิทธิพล และเป็นสัญลักษณ์ของปี 2021
แน่นอนว่า หลายคนคงทราบดีอีลอน มัสก์ เป็นผู้ก่อตั้ง “สเปซเอ็กซ์”(Space X) บริษัทผลิตยานอวกาศ และให้บริการทัวร์อวกาศสำหรับบุคคลทั่วไป รวมไปถึงการเป็นผู้บริหารสูงสุดของ “เทสลา” (Tesla) บริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) อนาคตไกล แต่ก่อนที่เขาจะมาจับธุรกิจแห่งอนาคตตามที่กล่าวมานั้น อีลอน มัสก์ คือ บุคคลที่บุกเบิกธุรกิจ “ธนาคารออนไลน์” ด้วยระบบธุรกรรมทันสมัยที่ทีมของเขาสร้างขึ้นมา ก่อนที่จะถูกบริษัทใหญ่ควบรวมจนกลายมาเป็น “เพย์แพล” (PayPal)ระบบธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ที่สมบูรณ์แบบ และได้รับความนิยมมากที่สุด และเป็นต้นทางของแนวคิด “ไฮเปอร์ลูป” (Hyper Loop) ระบบการเดินทางด้วยความเร็วสูงผ่านท่อสุญญากาศ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาเพื่อการเป็นระบบขนส่งหลักแห่งอนาคตอันใกล้นี้
ปัจจุบันอีลอน มัสก์ มีทรัพย์สินมูลค่า 253,800 ล้านดอลลาร์ ถูกจัดอันดับเป็นมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลกในเวลานี้ และในปีนี้ (2021) เขาเคยได้รับการเรียกร้องจาก“ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก”องค์การสหประชาชาติ (United NationsWorld Food Programme) ให้บริจาคเงินเพื่อแก้ปัญหาสำหรับคนที่หิวโหยบนโลกใบนี้กว่า 42 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
“วิกฤตการณ์ต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และการระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายประเทศต้องเผชิญกับปัญหา ภาวะความอดอยาก ยกตัวอย่างพื้นที่ Dry Corridor ในสหรัฐอเมริกา และภูมิภาคในอเมริกากลาง เช่น กัวเตมาลา ฮอนดูรัส เอลซัลวาดอร์ และนิการากัว เรากำลังมอบอาหารให้ผู้คนจำนวนมากที่นั่น แต่สภาพอากาศก็กำลังเปลี่ยนแปลง ด้วยพายุเฮอร์ริเคน และน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งมันทำลายล้างสิ่งต่างๆผมไม่รู้ว่าพวกเขาจะไปเอาอาหารมาจากไหน น้ำมันเราหมด เงินสดที่จะจ่ายให้พนักงานก็หมด เงินสำหรับใช้จ่ายอื่นก็หมด ทั้งยังไม่สามารถนำรถบรรทุกเข้าไปได้ แต่ทรัพย์สินเพียงเศษเสี้ยวของมหาเศรษฐีกลุ่มเล็กๆ ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาความอดอยากของโลกได้เงิน 6 พันล้านเหรียญ ช่วยผู้คนกว่า42 ล้านคน ที่อาจจะตายได้ หากเราเข้าไปไม่ถึงพวกเขา เรื่องนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย”
หลังประโยคดังกล่าวนี้ของ “เดวิด บีสลีย์” ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลก (WFP) เขาได้ระบุชื่อมหาเศรษฐีออกมา 2 คน คือ “เจฟ เบซอส” ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์แอมะซอน (amazon.com) และอีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นเบอร์ 2 และ 1 ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดบนโลกใบนี้
ไม่นานนั้นเอง อีลอน มัสก์ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์รับกับประเด็นดังกล่าวนี้ ด้วยการประกาศความพร้อมในการขายหุ้นของบริษัทเทสลา เพื่อนำเงิน 6,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 198,000 ล้านบาท) มอบให้โครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ เพื่อช่วยเหลือผู้คนกว่า 42 ล้านคนให้รอดพ้นจากความหิวโหย โดยมีข้อแม้ว่า เดวิด บีสลีย์ ผอ.WFP ต้องอธิบายรายละเอียดให้ชัดเจนว่า เงินจำนวนกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ จะนำไปช่วยเหลือบุคคลที่หิวโหยกว่า 42 ล้านคนได้อย่างไร และมีความโปร่งใสทางบัญชีมากน้อยแค่ไหน
“ผมสามารถทำให้คุณมั่นใจว่า เรามีระบบอยู่แล้วสำหรับความโปร่งใสและมีบัญชีแบบโอเพ่นซอร์ส ทีมงานของคุณสามารถตรวจสอบ และทำงานร่วมกับเรา เพื่อให้มั่นใจได้อย่างเต็มที่ และผมไม่เคยบอกว่าเงิน 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะแก้ปัญหาความหิวโหยได้ทั้งหมด นี่เป็นเพียงการบริจาคเพียงครั้งเดียว เพื่อช่วยเหลือคน 42 ล้านคนที่กำลังใช้ชีวิตท่ามกลางวิกฤตแห่งความอดอยาก อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”เดวิด บีสลีย์ ผอ.WFP ทวีตข้อความนี้ตอบกลับไปยังคำถามของอีลอน มัสก์ ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีทีท่าว่าการบริจาคดังกล่าวจะเกิดขึ้นหรือไม่ส่วนแผนงานที่ทางหน่วยงานของยูเอ็นจะใช้ในการบรรเทาความหิวโหยภายใต้เงินกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ ก็มีการแจกแจงออกมาแล้วว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์จะหมดไปกับค่าอาหาร และการขนส่ง ขณะที่อีก 2 พันล้านจะใช้เป็นเงินสด กับคูปองแลกอาหาร และอื่นๆ ประกอบกัน
ล่าสุด (10 ธ.ค.) มีรายงานข่าวว่า อีลอน มัสก์ ได้ตัดสินใจทยอยขายหุ้นของตัวเองในบริษัทเทสลาประมาณ 10% เป็นจำนวนเงินเกือบ 12,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำเงินมาจ่ายภาษี และทำการลงทุนเพิ่มเติม แต่ยังไม่มีวี่แววสำหรับการบริจาคให้กับ WFP เพื่อไปช่วยเหลือบุคคลที่หิวโหยบนโลกใบนี้ตามที่เคยให้คำมั่นสัญญาเอาไว้
อันที่จริง อีลอน มัสก์ ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมากมาย ตั้งแต่เรื่องความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นของโควิด-19 กับมาตรการทางเศรษฐกิจ และสาธารณสุขของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงที่เป็นข่าวคราวกันมาพักใหญ่สำหรับปีนี้(2021) คือการเข้ามามีบทบาทในการกระตุ้นความตื่นตัวของตลาด “คริปโตเคอเรนซี” (เงินดิจิทัล)ด้วยการสื่อสารผ่านสื่อส่วนตัว จนอาจกลายเป็นคดีฟ้องร้องใหญ่โตต่อไปในอนาคต ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เรียกว่า“กระแสความสนใจ” ซึ่งมากไปกว่าแค่พฤติกรรม แต่เป็นตัวตนของคนคนนั้น ที่ได้สะสมต้นทุนของชีวิตมาอย่างมีคุณค่า จึงควรค่าแก่การรับรู้ของสังคม ไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม ประเด็นก็เลยไปอยู่ที่ว่า เขาจะใช้กระแสความสนใจนั้นมาทำอะไร และเพื่อใครมากกว่า นี่ถึงเป็น “มูลค่า”ที่แท้จริงของบุคคลแห่งปี


เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี