หลายคนคงเคยฝันว่า อยากเป็นอะไร เช่น แพทย์ พยาบาล ตำรวจ ทหาร ครูอาจารย์ นักธุรกิจ เป็นต้น

หากไม่ได้เป็นตามฝัน หลายคนก็จะสร้างภาพให้กับตัวเองตามที่ต้องการก็ได้

ตอนผู้เขียนยังเป็นเด็ก มีแม่บ้านและสามีอยู่ที่บ้านด้วย ปกติสามีแม่บ้านสมมุติว่าชื่อ ศักดิ์ ทำงานรับจ้าง อาชีพไม่แน่นอน แล้ววันหนึ่งศักดิ์ก็แต่งตัวชุดตำรวจ ยศนายสิบ ซึ่งเขาอยู่หลังบ้านแยกจากบ้านหลังใหญ่ เขาทำอะไรก็ไม่ค่อยมีใครรู้เท่าไร เพราะมีประตูหลังบ้านเข้า-ออกไม่เกี่ยวกับบ้านหลังใหญ่

ต่อมาศักดิ์โดนจับข้อหาแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ์ พอถามว่า เขาใส่ชุดตำรวจทำไม เขาบอกว่า เขาชอบและอยากเป็นตำรวจ ดูๆ ก็น่าสงสารที่เขาอยากเป็นในสิ่งที่เขาไม่มีสิทธิ์เป็น แล้วโดนจับเพราะไปทำอะไรอีกเราไม่รู้

ที่ฟลอริดา ก็คงกรณีคล้ายศักดิ์ คือ โอมาร์ ฟอดน์ พนักงานรักษาความปลอดภัยวัย 40 ปี โดนจับ เพราะเขาทำตัวเป็นตำรวจ โดยเขาไปเบ่งกับตำรวจจริงๆ ของออร์แลนโด

แจคการี ไพร์ซ ตำรวจที่เพิ่งหมดหน้าที่ ก็โดนโอมาร์ สวมใส่ยูนิฟอร์มของหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจอาชญากรรมซึ่งเป็นหน่วยงานที่เขาทำงานอยู่ โดยโอมาร์เรียกเขาเข้าไปถนนใกล้ทะเลสาบเพื่อตรวจสอบ

พอรู้ว่าเป็นตำรวจ โอมาร์อ้างว่า เขาแค่กังวลแจคการีที่ดูเหมือนจะมึนเมา เลยเรียกมาถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นขับรถเลื้อยไปเลื้อยมาตอนผ่านหน้าเขา (คงขนลุกเจอตำรวจจริง)

พอโดนจับข้อหาแต่งกายเลียนแบบตำรวจ และใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ เขาปฏิเสธเรื่องแต่งกายเลียนแบบ และได้ประกันตัวไปจำนวนเงินเท่าไร ข่าวไม่ได้แจ้ง และต้องมาขึ้นศาลในภายหลัง ซึ่งคงปฏิเสธยากเจอข้อหาที่ผิดซึ่งหน้าจริงกับตำรวจจริง (ซวยไหม)

นี่คือตัวอย่างว่า อยากเป็นอะไรก็ต้องเป็นให้ถูกต้อง ดีกว่าโดนจับจนเสียคน

เรียกว่า จงพอใจในสิ่งที่ตัวมีและเป็นอยู่ อย่าฝัน เกินจริง

การกระทำผิดกฎหมายไม่มีทางที่จะรอด ถ้าถูกจับได้ อย่าคิดว่าไม่เป็นไรเพราะเป็นแน่ ถ้าเจอตำรวจเหมือนสองกรณีนี้