ต้อกระจกคืออะไร
ต้อกระจก คือ การเสื่อมของเลนส์ตา หรือเลนส์ตาขุ่นลงนั่นเอง
~สาเหตุตาบอดอันดับหนึ่ง สามารถรักษาจนหายขาดได้ การผ่าตัดปัจจุบันปลอดภัยสูง
ต้อกระจก มีอาการอย่างไร
อาการนำสำคัญ คือตาพร่ามัว จากเลนส์ตาที่ขุ่นลง ทำให้การรวมแสงจากการมองภาพต่างๆ เข้าสู่จอประสาทตาแย่ลง อาการเตือนบางอย่าง เช่น ขับรถเริ่มมองลำบากขึ้น การมองหลายๆ จุดสลับไปมาเริ่มยากขึ้น หรือต้องเปลี่ยนแว่นสายตาบ่อยขึ้น
แยกความแตกต่างของตาพร่ามัว ว่าเป็นโรคต้อกระจก หรือแค่เพียงสายตาสั้นยาวเอียงทั่วไปได้อย่างไร
ถ้าวัดแว่นแล้วการมองเห็นยังไม่ดีขึ้นเหมือนแต่ก่อนก็น่าจะไม่เกี่ยวกับเรื่องสายตา ควรสงสัยว่าอาจเป็นโรคทางตาอื่นๆ และโรคที่พบบ่อยในวัยผู้ใหญ่คือ โรคต้อกระจกนั่นเอง ควรมาพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
การรักษาต้อกระจก มีทางเลือกไหนบ้าง
1.การรักษาแบบประคับประคอง ได้แก่ การเปลี่ยนแว่นสายตาใหม่ อาจช่วยให้การมองเห็นดีขึ้นบ้าง เนื่องจากต้อกระจกสามารถทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนได้
2.การรักษาแบบให้หายขาด คือ การผ่าตัดรักษาต้อกระจก มีหลายเทคนิควิธี ซึ่งในปัจจุบันสามารถรักษา ด้วยการใช้คลื่นความถี่สูง ซึ่งเป็นการรักษาแบบแผลเล็ก และใส่เลนส์แก้วตาเทียมทดแทนเลนส์ตาที่ขุ่นเดิมได้
ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดรักษาต้อกระจก
1.การมองเห็นแย่ลงและมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น เดินขึ้นลงบันไดลำบาก ขับรถลำบากขึ้นหรือเป็นอุปสรรคในการทำงาน ที่จำเป็นต้องใช้สายตาที่แม่นยำ เช่น นักบิน
2.มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดโรคทางตาอื่นแทรกซ้อน เช่น ต้อหิน หรือม่านตาอักเสบ เป็นต้น
3.เพื่อการประเมิน และรักษาโรคทางตาอื่นๆ เช่น เบาหวานขึ้นจอตา, จอประสาทตาเสื่อม ซึ่งถ้ามีต้อกระจกบังอยู่จะทำให้การรักษายาก และอันตรายได้
ปัจจุบันการผ่าตัดรักษาต้อกระจก ไม่จำเป็นต้องนอนพักที่โรงพยาบาล เนื่องจากการผ่าตัดมีความปลอดภัยสูงฟื้นตัวไว ยกเว้นมีภาวะแทรกซ้อน หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวหลายอย่าง ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม
แพทย์จะนัดตรวจหลังผ่าตัดในวันรุ่งขึ้น ควรพักผ่อนอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ หลีกเลี่ยงการโดนแดด และระมัดระวังเรื่องการรักษาความสะอาดรอบดวงตา หยอดยาตามแพทย์สั่ง
เลนส์ตาเทียมใส่ครั้งเดียวอยู่ได้ตลอดชีวิตไหม
เลนส์จะอยู่ตลอดชีวิต หากไม่ได้มีภาวะแทรกซ้อนหรืออุบัติเหตุใดๆ
เลนส์ตาเทียมมีหลายชนิด ดังนี้
1.เลนส์โฟกัสระยะเดียว ต้องใส่แว่นสายตาช่วยในการมองระยะอื่นๆ ข้อดี คือ มีความคมชัดสูง และมีแสงกระจายน้อย
2.เลนส์แก้ไขสายตาเอียง จะช่วยให้ความคมชัดสูงขึ้นลดการผิดเพี้ยนของภาพ
3.เลนส์โฟกัสได้หลายระยะจะช่วยลดอุปสรรคในการมอง ทำให้สามารถมองได้หลายระยะมากขึ้น ข้อจำกัด คือ ยังไม่สามารถมองได้ทุกระยะ และความคมชัดน้อยกว่าเลนส์โฟกัสระยะเดียว และอาจมีแสงกระจาย
นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติของเลนส์บางอย่างที่เพิ่มเติมเช่น เลนส์บางชนิดสามารถขยับตัวเลนส์ได้ เพื่อการปรับโฟกัส แต่ในปัจจุบันยังไม่ได้ผลดีมากนัก ยังอยู่ในการวิจัยอยู่ เลนส์บางชนิดมีการเคลือบสารป้องกันแสงอัลตราไวโอเลต เพื่อช่วยถนอมดวงตาเพิ่มขึ้น
(อ่านต่อฉบับหน้า)
บรรยายโดย พ.อ.(พ.)ผศ.นพ.ธีระเทพ ตันตยาคม
จัดทำโดย นศพ.ณิชารีย์ ศรีงาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี