วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ปัจจุบัน ยาที่ใช้สำหรับสัตว์นั้น มีรูปแบบการเตรียมที่หลากหลาย ทั้งเพื่อใช้ป้องกันและใช้รักษาโรคหรือความผิดปกติ ซึ่งเมื่อต้องให้ยาแก่สัตว์เลี้ยงแล้ว เจ้าของสัตว์ควรให้ยาตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีที่สุด และเป็นการป้องกันเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่อาจเกิดขึ้นด้วย วันนี้เราจะมาคุยกันถึงวิธีการให้ยาในแต่ละรูปแบบกันครับ
รูปแบบยาที่เป็นที่นิยมใช้และพบได้บ่อย ได้แก่
1) ยากินชนิดเม็ดหรือแคปซูล
ยาชนิดนี้ เจ้าของสัตว์ต้องเป็นผู้ป้อนยาแก่ตัวสัตว์ โดยสามารถทำได้โดยการจับสัตว์เลี้ยงเงยหน้าขึ้นพอประมาณ พร้อมทั้งเปิดปากของสัตว์เลี้ยง วางยาไว้ที่โคนลิ้นของสัตว์ และปิดปากอย่างรวดเร็ว ทำการลูบบริเวณลำคอเพื่อกระตุ้นให้สัตว์กลืนเม็ดยา โดยเจ้าของสัตว์อาจป้อนน้ำหรือให้สัตว์ดื่มน้ำภายหลังจากการป้อนยา เพื่อป้องกันไม่ให้เม็ดยาหรือแคปซูลยาติดค้างในหลอดอาหาร
ในปัจจุบัน มียาในรูปแบบยากินชนิดเม็ดเคี้ยว (chewable tablet) ซึ่งมีการแต่งกลิ่นและรสให้มีความน่ากิน โดยยากินในรูปแบบนี้ สามารถให้โดยวิธีป้อนให้สัตว์เคี้ยว หรือให้สัตว์กินเม็ดยาเองได้โดยตรง
2) ยากินชนิดน้ำ
ยาชนิดนี้ต้องอาศัยอุปกรณ์ในการป้อนยา ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กระบอกฉีดยา (syringe) ในขนาดที่เหมาะสมต่อตัวสัตว์และปริมาตรยาที่ต้องให้ ก่อนให้ยาทุกครั้งควรเขย่าขวดยาให้ยาเข้ากันเสียก่อน และใช้กระบอกฉีดยาดูดตัวยาในปริมาตรที่สัตวแพทย์ระบุไว้ในฉลากยา
การป้อนให้แก่สัตว์เลี้ยงทำได้โดยจับให้สัตว์เงยหน้าเล็กน้อยค่อยๆ สอดปลายกระบอกฉีดยาเข้าด้านข้างปาก ระหว่างช่องของฟันกรามด้านข้างตรงกระพุ้งแก้มอย่างนุ่มนวล ค่อยๆ ดันตัวยาอย่างช้าๆ เพื่อให้สัตว์ค่อยๆ กลืนยา ระหว่างนั้นก็ควรรูปคอเพื่อกระตุ้นให้สัตว์กลืนยาเข้าไป
ไม่ควรดันตัวยาเร็วเกินไปหรือสอดกระบอกฉีดยาลงในลำคอของสัตว์โดยตรง เนื่องจากอาจทำให้สัตว์สำลักและมีตัวยาหลุดเข้าไปในหลอดลมซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาในระบบทางเดินหายใจตามมาได้
3) ยาหยอดตาและยาป้ายตา
การหยอดตานั้น โดยปกติเราจะหยอดครั้งละ 1-2 หยด โดยประคองใบหน้าของสัตว์เลี้ยงให้เงยขึ้นพอประมาณ กดหนังตาล่างลงและหยดยาบริเวณหัวตาของสัตว์เลี้ยงด้วยความนุ่มนวล
สำหรับการป้ายตาชนิดครีมหรือ ointment นั้น เราจะป้ายจากหัวตาไปทางหางตา ในบริเวณเปลือกตาล่างด้านใน ทั้งนี้ ต้องประคองใบหน้าของสัตว์ให้นิ่ง เพื่อลดโอกาสเกิดอันตรายจากการสะบัด
ในการหยอดตาหรือป้ายตานี้ สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ ต้องระมัดระวังไม่ให้ปลายหลอดยาสัมผัสกับมือเจ้าของสัตว์ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของตัวสัตว์ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกในหลอดยา ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนเข้าสู่ดวงตาในการให้ยาครั้งต่อไปได้
4) ยาหยอดหู
ในการใช้ยาหยอดหูสำหรับสัตว์เลี้ยงนั้น ควรทำความสะอาดช่องหูก่อนการให้ยา โดยใช้สำลีพันปลายไม้ที่มีขนาดสำลีใหญ่กว่าในคนเพราะจะไม่ทำให้สัตว์เจ็บเวลาเช็ด
ใช้มือข้างหนึ่งจับใบหูข้างที่ต้องการหยอดยาขึ้น ใช้มืออีกข้างหยอดยาลงไปในช่องหูตามจำนวนหยดหรือตามขนาดที่สัตวแพทย์แนะนำ จากนั้นให้จับใบหูค้างไว้ก่อน (เพราะเมื่อมียาหรือน้ำเข้าหูแล้วตามสัญชาตญาณแล้ว สัตว์พยายามสะบัดเพื่อไล่เอาสิ่งแปลกปลอมออก)จากนั้นทำการนวดเบาๆ ที่บริเวณโคนหูเพื่อให้ตัวยากระจายอย่างทั่วถึง
หลังการใช้ยาแล้ว ควรทำความสะอาดปลายหลอดยาหยอดหู เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกที่อาจติดค้างก่อนเก็บทุกครั้งด้วย
5) ยาป้องกันและกำจัดปรสิตภายนอกชนิดหยดบนผิวหนัง (spot on)
ปัจจุบันมียากำจัดเห็บ หมัด และปรสิตภายนอก ชนิดหยดที่ใช้หยดบนผิวหนัง ในหลายชื่อการค้าและตัวยาออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันหลายชนิด โดยทั่วไปการใช้ยาในรูปแบบนี้จะแนะนำให้หยดบนผิวหนังบริเวณหลังคอเหนือหัวไหล่ หรือระหว่างหัวไหล่ทั้งสองข้าง
โดยในช่วงระยะเวลา 2-4 ชั่วโมง ภายหลังจากการหยดยา เจ้าของสัตว์ไม่ควรสัมผัสบริเวณที่หยดยา และไม่ควรให้สัตว์สัมผัสหรือคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น เพื่อป้องกันการสัมผัสยาโดยไม่ได้ตั้งใจรวมถึงต้องคอยสังเกตว่าสัตว์ไม่เอาตัวไปถูกับผนังบ้านหรือพื้น เพราะจะเป็นการเช็ดยาออกด้วย
สำหรับตัวยาออกฤทธิ์บางชนิด อาจจะมีข้อกำหนดเรื่องการงดอาบน้ำในช่วงระยะเวลาก่อนและหลังการหยดยา ซึ่งเจ้าของสัตว์ควรปฏิบัติตามที่สัตวแพทย์แนะนำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพของตัวยาสูงสุด
นอกจากนั้นควรให้ยาเป็นประจำและสม่ำเสมอตามที่สัตวแพทย์แนะนำ และไม่ควรแบ่งยา เนื่องจากปริมาณยาที่สัตว์เลี้ยงได้รับอาจไม่เพียงพอต่อการออกฤทธิ์ด้วยครับ
หวังว่า ท่านที่ได้อ่านข้อมูลเรื่องนี้แล้วคงจะคลายความสงสัยและทราบวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องในการให้ยาแต่ละชนิดกันนะครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี