วันนี้ผมขอยกกรณีที่น่าสนใจมาให้ท่านผู้เลี้ยงแมวได้อ่านกันครับ เป็นเรื่องราวจาก น.สพ.จตุรภัทร สายนุช จากแผนกเวชศาสตร์ฉุกเฉินและสัตว์ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสัตว์เล็กคณะสัตวแพทยศาสตร์จุฬาฯ ภาวะฉุกเฉินนี้มีชื่อเรียกว่า โรคลิ่มเลือดอุดตันในแมว หรือ Feline Aortic Thromboembolism ซึ่งเป็นความผิดปกติที่พบได้ในแมว โดยจะพบการไม่ใช้สองขาหลังอย่างเฉียบพลัน หลังจากนั้นจะพบว่า อาการค่อยๆ แย่ลง ขาเริ่มเน่า มีเนื้อตาย ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้ ถ้ามีภาวะแทรกซ้อนร่วมด้วย

อาการที่สามารถพบได้บ่อยและควรเฝ้าระวัง เรียกรวมกันได้ว่าเป็น 5 P

1. Pain ร้องเจ็บ

2. Pale ปลายเท้าซีด (ในกรณีที่มีสีม่วงที่บริเวณปลายเท้าร่วมด้วย และมีอาการของโรคอาจเป็นมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว)

3. Poikilothermia ปลายเท้าเย็น หรือรวมกับการวัดอุณหภูมิร่างกายจากทวาร

4. Pulseless ขาหลังไม่มีชีพจร โดยการคลำ femoral pulse ตรงบริเวณต้นขาหลังด้านใน ร่วมกับการวัดความดัน

5. Paralysis อัมพาตขาหลัง 1 หรือ 2 ข้าง

แต่ในความเป็นจริง ไม่จำเป็นต้องอาการครบทั้ง 5 อย่างพร้อมกันก็ได้  อาจพบเพียง 1-2 อาการ ก็สามารถวินิจฉัยได้ว่า อาจจะเกิดจากโรคนี้ได้เช่นกัน เนื่องจากอาการทั้งหมดมันจะพบแบบเฉียบพลัน โดยความรุนแรงของโรคนี้แมวอาจจะไม่ตอบสนองต่อยาได้ โรคอาจพัฒนาจนแมวตายได้ หรือถ้าแมวอาการกลับมาหายดีก็อาจไม่สามารถกลับมาใช้งานขาได้อย่างปกติ และมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้เช่นกัน

นอกจากอาการ  5 P แล้ว ในส่วนของอัตราการหายใจในแมวที่สูงนั้น แมวอาจมีภาวะโรคหัวใจร่วมด้วย เนื่องจากโรคหัวใจนั้นมีความเกี่ยวข้องกับการเกิด FATE สูงมาก หรือมีอาการหอบหรือหายใจเร็ว มีความเป็นไปได้ว่ามาจากอาการเจ็บปวด (pain) ก็ได้ ควรรีบพาไปรับวินิจฉัยทั้งการ X-rays รวมไปถึงตรวจเลือดเป็นต้น ร่วมกับทำการรักษาโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้อาจมีภาวะโรคอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายกันได้บางส่วน เช่น อุบัติเหตุ โรคทางระบบประสาท โรคทางระบบเลือด โรคทางระบบต่อมไร้ท่อ (เช่น จากโรค Hyperthytoid) หรือโรคที่เกี่ยวกับมะเร็ง เป็นต้น

วันนี้อย่าลืมไปสังเกตเจ้าเหมียวที่บ้านของเรานะครับว่ามีอาการแบบนี้หรือไม่ ถ้าพบอาการดังกล่าวแล้วรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วนครับ

หมอโอห์ม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร 

ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร

คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย