การแนะนำสั่งสอนสัตว์โลกกว้างแคบขนาดไหน ใครจะมีภาระมากยิ่งกว่าศาสดา ในหลักธรรมท่านกล่าวไว้มี 5 ประการว่าเป็นพุทธกิจ คือ งานประจำของพระพุทธเจ้ามีถึง 5 ประการในวันคืนหนึ่งๆ คือ
ข้อ 1. สายณฺเห ธมฺมเทสนํ ตอนบ่ายสามโมงสี่โมงเย็นลงไปแล้ว ประทานพระโอวาทแก่ประชาชน นับแต่พระราชามหากษัตริย์ เศรษฐี กุฎุมพีตลอดพ่อค้าประชาชนคนธรรมดาลงมาโดยลำดับ ทางฝ่ายฆราวาส
ถัดจากนั้นไปก็ ปโทเส ภิกฺขุโอสาทํ ประทานโอวาทแก่บรรดาพระสงฆ์เป็นประจำ ตามแต่พระสงฆ์เหล่านั้นจะมีภูมิอรรถ ภูมิธรรม สูงต่ำขนาดไหน สอนตั้งแต่ธรรมพื้นๆขึ้นไป จนกระทั่งถึงวิมุตติหลุดพ้นพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไม่มีอัดมีอั้น เพราะมีเต็มอยู่ในพระทัยหมดแล้ว บรรดาธรรมทั้งหลายที่นำมาสอนโลกพระองค์ได้บรรจุไว้แล้วด้วยความรู้แจ้ง แทงตลอด ไม่มีบกบาง จึงทรงนามว่าเป็นศาสดาเอกของโลก
อฑฺฒรตฺเต เทวปญฺหนํ ตั้งแต่ 6 ทุ่มล่วงไปแล้วทรงแก้ปัญหาและเทศนาสอนเทวบุตร เทวดา อินทร์ พรหมทั้งหลายที่มาจากชั้นต่างๆ ทรงแก้ทั้งปัญหาการไต่ถามของเทวดาทั้งหลาย ทั้งประทานพระโอวาทให้เทวดาทั้งหลายได้รับประโยชน์ทั่วถึงกัน
พอตอนปัจฉิมยามล่วงไปแล้ว ท่านกล่าวไว้เป็นบทบาลีว่า ภพฺพาภพฺเพ วิโลกนํ ทรงเล็งญานดูสัตว์โลก ผู้มีอุปนิสัยปัจจัยที่ควรจะได้รู้อรรถรู้ธรรม คือ บรรลุธรรมเฉพาะอย่างยิ่งอรหัตธรรม แต่ชีวิตอันตรายจะถึงตัวผู้นั้นในไม่ช้า เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาพระองค์ก็เสด็จไปโปรดคนนั้นก่อน เพราะจะขาดผลประโยชน์อันใหญ่หลวงและอัศจรรย์เกินโลกไปเสียที่เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งชาติ พอที่จะรับผลประโยชน์อันอัศจรรย์ภายในจิตใจ ก็พอดีอันตรายคือ ความตายนี้จะเข้ามาถึงเสียก่อน หากพอแก้ไขได้พระพุทธเจ้าก็รีบเสด็จไปโปรดคนนั้นก่อน จนได้สำเร็จอรหัตมรร คอรหัตผลเต็มภูมิแล้ว ก็ปล่อยไปตามสภาพแห่งสังขารธรรม ซึ่งเป็นกอง อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เช่นเดียวกับโลกทั่วๆไป นี่เป็นข้อที่ 4.
ปุพฺพณฺเห ปิณฺฑปาตญฺจ ตอนเช้าก็เสด็จออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ ในครั้งพุทธกาลนั้นท่านโปรดสัตว์จริงๆ ไปไม่มีความมุ่งหวังปัจจัยไทยทานโลกามิสใดๆกับบรรดาประชาชน. ทรงโปรดสัตว์ด้วยพระเมตตาสงสารทางน้ำพระทัยของพระพุทธเจ้าจริงๆ แม้สาวกท่านก็เป็นแบบเดียวกัน มีความสงสารสงเคราะห์ เพื่ออนุเคราะห์เขา เขาได้ให้ทานมากน้อย. เขาได้พบได้เห็นท่านชั่วกาลชั่วเวลา ที่เรียกว่า สมณานญฺจ ทสฺสนํ การเห็นสมณะเป็นมงคลอันสูงสุด ในขณะนั้นเขาก็ได้เห็นสมณะผู้เป็นมงคลอันสูงสุด เป็นสมณะที่สูงสุดด้วยได้แก่ สมณะที่ 4 คืออรหัตบุคคล หรืออรหัตภิกขุ
คำว่า “สมณะ“ นั้นมีอยู่สี่ สมณะที่ 1 คือพระโสดา สมณะที่ 2 คือพระสกิทาคามี สมณะที่ 3 คือพระอนาคา สมณะที่ 4 คือพระอรหัตบุคคล เขาทั้งได้เห็นทั้งได้ยินการรับสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งจากพระพุทธเจ้า ทั้งได้ให้ทานแก่สมณะผู้สงบกายวาจา ใจ เป็นผู้ลอยบาปเสียแล้วโดยสิ้นเชิงภายในใจ มีใจที่บริสุทธิ์ล้วนๆ
ท่านไปบิณฑบาตเพื่อโปรดสัตว์จริงๆ อนุเคราะห์เขาจริงๆเขาให้ทานมากน้อยเพียงไรก็เป็นผลเป็นประโยชน์แก่เขาเพราะท่านเป็น ปุญญกฺเขตฺตํ โลกสฺส เป็นเนื้อนาบุญของสัตว์โลกอย่างแท้จริงไม่มีเนื้อนาบุญใดยิ่งไปกว่าครั้งพระพุทธกาลท่านทำจริงจังอย่างนั้น จนเห็นผลเป็นที่พึงพอใจ พระพุทธเจ้าของเราท่านทรงบำเพ็ญพระองค์ต่อสัตว์โลกโดยสม่ำเสมอ คือพุทธกิจ 5 ไม่ทรงละ นอกจากจะทรงงดงามตามเหตุการณ์ อันควรงดในบางกาลเท่านั้น
ความลำบากลำบนใครจะเกินพระพุทธเจ้า นับตั้งแต่การบำเพ็ญจนกระทั่งตรัสรู้ก็เป็นความลำบากทรมานมากอยู่แล้ว พอได้ตรัสรู้ถึงขั้นความเป็นศาสดาของโลกแล้ว ก็ทรงทำหน้าที่แห่งความเป็นศาสดาด้วยพระเมตตาทรงสั่งสอนสัตว์โลกทั้งใกล้ทั้งไกล สามโลกธาตุพระองค์เป็นครูสั่งสอนทั้งนั้น
ตามหลักธรรมท่านกล่าวไว้ว่า สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พระพุทธเจ้าทรงเป็นครูทั้งเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายคำว่า“เทวดา“ก็ตั้งแต่ชั้นต้นรุกขเทวดาขึ้นไปจนถึงท้าวมหาพรหม ในแหล่งโลกธาตุนี้เป็นลูกศิษย์ของคถาคตทั้งสิ้นไม่มีใครที่สามารถเป็นครูของศาสดาได้ เพราะฉะนั้นในพุทธคุณบทนี้ จึงประกาศให้เราทั้งหลายได้เห็น ได้ยินอย่างเด่นชัดว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นครูทั้งเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
คนสามารถที่จะเป็นครูแห่งเทวดา อินทร์ พรมทั้งหลายได้จะเป็นคนประเภทใด ถ้าไม่เป็นคนประเภทเหนือโลกเหนือไตรภพ คือพระพุทธเจ้าทรงบรรลุโลกุตรธรรมที่เป็นธรรมเหนือโลกแล้วจึงเป็นบุคคลเหนือโลก ทรงสามารถสั่งสอนโลกได้อย่างเต็มภูมิเรื่อยมา นี่พูดถึงความลำบาก พระองค์ไม่ทรงสนพระทัยในความลำบาก ยิ่งกว่าอยากให้สัตว์โลกทั้งหลายได้รับผลประโยชน์จากพระองค์เท่าที่เขาจะสามารถรับได้และเท่าที่พระกำลังของพระองค์จะอำนวยทางสุขภาพ บรรดาสาวกทั้งหลายก็ดำเนินตามแบบนั้นเรื่อยมา
..............
คัดลอกจากหนังสือ "เทวดา" หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี