วันอาทิตย์ ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
รายงานพิเศษ : ‘แม่วัยใส-จนข้ามรุ่น’  ตัดวงจรไม่ส่งต่อ..ทำได้!

รายงานพิเศษ : ‘แม่วัยใส-จนข้ามรุ่น’ ตัดวงจรไม่ส่งต่อ..ทำได้!

วันอาทิตย์ ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag : รายงานพิเศษ
  •  

หมายเหตุ : เรียบเรียงจากการบรรยายหัวข้อ “พ่อแม่วัยรุ่นกับปัญหาความยากจนข้ามรุ่นของสังคมไทย” โดย ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนและประชากรวัยแรงงานนอกระบบ และกรรมการบริหาร กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และอดีตอาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเสวนา (ออนไลน์) เรื่อง “สร้างการเรียนรู้ให้พ่อแม่วัยรุ่น เพื่อแก้ปัญหาความยากจนข้ามรุ่น”จัดโดย กสศ. เมื่อเร็วๆ นี้

อาจารย์สมพงษ์ เริ่มด้วยการเล่าย้อนประวัติการทำงานในแวดวงการศึกษา ผ่านเหตุการณ์สำคัญ เช่น ข้อถกเถียงว่าสมควรตั้งตู้จำหน่ายถุงยางอนามัยในโรงเรียนหรือไม่ โดยในปี 2553-2555 พบข้อมูลที่น่าตกใจคือ ประเทศไทยมี “แม่วัยใส” หรือเด็กสาวที่ตั้งครรภ์ก่อนเวลาอันควร มากกว่า 120,000 คน เป็นที่ฮือฮาในสังคมมาก ณ เวลานั้น จนอาจเป็นประเทศที่พบแม่วัยใสมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้รัฐบาลเริ่มหาทางแก้ปัญหาอย่างจริง


“จะเห็นว่าปี 2563 ตัวเลขลดลงมาตามลำดับจนในที่สุดตอนนี้เหลือ 56,000 คน แต่ตัวเลขด้านเด็กอายุ 10-14 ปี จาก 3,700 คน ก็เหลือ 1,783 คน ฉะนั้นตัวเลขในปี 2569 เราจะตั้งเป้าหมายว่าจะต้องลดลงให้ได้มากที่สุด จนเหลือเด็กอายุ 10-14 ปี ซึ่งไม่น่าจะตั้งครรภ์ในเวลานี้ เหลือ 0.5 ต่อจำนวนประชากร 1,000 คน และในวัยรุ่นแล้ว อายุ 15-19 ปี เป้าหมายคือลดลงมาให้เหลือ 28.7 และเป้าหมายคือ 25 ต่อ 1,000ใกล้เคียงแล้ว” อาจารย์สมพงษ์ ระบุ

เมื่อลงลึกในรายละเอียด พบว่า “พื้นที่ชายแดนหรือพื้นที่อุตสาหกรรม มักพบแม่วัยใสจำนวนมากอย่างมีนัยสำคัญ” เช่น จังหวัดในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกอย่าง ฉะเชิงเทรา ระยอง รวมถึงที่ใกล้เคียงอย่าง ปราจีนบุรี หรือจังหวัดที่เป็นท้องถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ “เคยมีการศึกษาพบว่า..ความเป็นแม่วัยใสสามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้” กล่าวคือ หากแม่ตั้งครรภ์ตั้งแต่วัยเรียน ในอนาคตเด็กสาวที่เป็นลูกของแม่ลักษณะนี้จะมีแนวโน้มตั้งครรภ์ในวัยเรียนด้วยเช่นกัน

อาจารย์สมพงษ์ ยกตัวอย่างหนึ่งที่ จ.ปราจีนบุรี เด็กสาวตั้งครรภ์และต้องออกจากโรงเรียนระหว่างที่ยังเรียนอยู่ชั้น ม.2 เด็กสาวรายนี้พบว่าลูกเกิดมาเป็นเพศหญิง
เมื่อไม่ได้เรียนก็เข้าสู่ชีวิตการทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งชีวิตแต่ละวันอยู่กับการทำงานตั้งเวลาปกติ 8 ชั่วโมงพ่วงด้วยล่วงเวลา (OT) กว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำ ในเวลานั้น เด็กหญิงที่เกิดจากแม่วัยใส ค่อยๆ เติบโตเป็นสาว ซึ่งเมื่อไม่ได้รับการเลี้ยงดูเอาใจใส่เพราะแม่ต้องทำงานจนไม่มีเวลา ประกอบกับสภาพแวดล้อมรอบข้างก็ไม่ดีนัก บทสรุปคือ “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”ตั้งครรภ์ในวัยเรียนไม่ต่างจากแม่ตนเอง

จากข้อค้นพบนี้ “การแทรกแซงเพื่อตัดวงจรจึงมีความจำเป็น” โดยมีตัวอย่างอีกกรณีหนึ่ง เด็กสาวชั้น ม.ปลาย ในจังหวัดทางภาคเหนือ ปกติแล้วตั้งใจเรียน แต่วันหนึ่งก็ก้าวพลาดตั้งครรภ์ ต้องออกจากโรงเรียนไปทำงานร้านสะดวกซื้อ อย่างไรก็ตาม เด็กสาวรายนี้ได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น ทำให้สามารถกลับมาเรียนจนจบ ม.ปลาย และเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยได้ พร้อมๆ กับเลี้ยงลูกไปด้วย

“เรื่องแม่วัยใสมันมีทั้งด้านซ้าย ถ้าเราไม่ช่วยเหลือ เด็กก็จะส่งต่อ ในขณะที่ถ้ามีการช่วยเหลือจากภาครัฐ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ช่วยจากภาค NGO (องค์กรพัฒนาเอกชน) ภาคประชาสังคมที่เข้าไปช่วยออกแบบการเรียนรู้ให้กับเด็กกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นลักษณะของการออกแบบที่เราเรียกว่า Family Center (ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง) เด็กก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น” อาจารย์สมพงษ์ กล่าว

ในปี 2563 กสศ. พบเด็กที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม 899 คน จากเด็กทั้งหมดราว 36,000 คน ที่ กสศ. ให้ความช่วยเหลือขณะเดียวกัน มีเยาวชนอายุ 15-24 ปี ที่ต้องออกจากระบบการศึกษาไปประมาณ 9 แสนคน ดังนั้นแล้วความคาดหวังเรื่องเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของประเทศก็ดี หรือการเตรียมพร้อมเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ก็ตาม คงเป็นไปได้อยาก หากยังมีเด็กและเยาวชนจำนวนมากขนาดนี้ที่จบเพียงชั้นประถมหรือมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเป็นได้เพียงแรงงานไร้ฝีมือ(Unskilled Labour) สุ่มเสี่ยงเป็นผู้มีรายได้น้อยไปตลอดชีวิต และมีความจนเป็นมรดกให้คนรุ่นถัดไป

อาจารย์สมพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ต้องเริ่มจาก “เยียวยาจิตใจ” เด็กคนหนึ่งต้องออกจากระบบการศึกษา ซ้ำร้ายครอบครัวและสังคมรอบข้างยังมองในแง่ลบ อีกทั้งต้องมีภาระในการเลี้ยงดูชีวิตใหม่ที่เกิดมาอีก จึงต้องเข้าใจพื้นฐานจิตใจ ให้ความรักและรับฟังปัญหาก่อน ขณะที่การออกแบบการศึกษาที่เรียกว่า Family Center นั้น หมายถึงการที่พ่อและแม่วัยรุ่น จะต้องไปด้วยกันได้ทั้งด้านการเลี้ยงลูก การทำงานและการศึกษา การฟื้นฟูคนกลุ่มนี้จะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน รวมถึงครอบครัวของพ่อแม่กลุ่มนี้ก็จะต้องมาช่วยเลี้ยงลูกด้วย

ดังนั้นการจัดการชีวิตครอบครัว จึงมาจากการทำงานร่วมกันระหว่างครอบครัวของพ่อแม่วัยรุ่นที่พลาดพลั้งกับภาคประชาสังคม ส่วนด้านอาชีพนั้น เป็นการสนับสนุนให้ฝึกวิชาชีพระยะสั้น สามารถนำไปใช้ทำงานได้เร็ว โดย กสศ. จะมีทุนตั้งต้นให้ สุดท้ายเมื่อพ่อแม่วัยใสเริ่มมีอาชีพเลี้ยงตนเองและลูกที่เกิดมาได้ ไม่เป็นภาระใคร ทัศนคติจากสังคมรอบข้างก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

“สิ่งต่างๆ เหล่านี้ มันจะทำให้เกิดการนำพาครอบครัวไปสู่อนาคตที่ดี มีอาชีพ มีรายได้ มีเรื่องอะไรต่างๆ แล้วสุดท้ายมันจะตัดวงจรเรื่องความยากจนข้ามรุ่น การส่งต่อเรื่องแม่วัยใสไปสู่รุ่นลูกเขาได้” อาจารย์สมพงษ์ ฝากทิ้งท้าย

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รายงานพิเศษ : ‘นมจากพืช’ เชื่อมต่อสุขภาพที่ดี ทางเลือกใหม่ของคนแพ้นมวัว รายงานพิเศษ : ‘นมจากพืช’ เชื่อมต่อสุขภาพที่ดี ทางเลือกใหม่ของคนแพ้นมวัว
  • รายงานพิเศษ : ‘มันสำปะหลัง’ รุกตะวันออกกลาง โอกาสส่งออก ก้าวแรกสู่อุตฯใหม่ รายงานพิเศษ : ‘มันสำปะหลัง’ รุกตะวันออกกลาง โอกาสส่งออก ก้าวแรกสู่อุตฯใหม่
  • รายงานพิเศษ : สสส.สานพลังเครือข่าย อปท. ปกป้องพื้นที่ภาคใต้ไร้บุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า รายงานพิเศษ : สสส.สานพลังเครือข่าย อปท. ปกป้องพื้นที่ภาคใต้ไร้บุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า
  • รายงานพิเศษ : ครบรอบ 62 ปี วว. สร้างคุณค่านวัตกรรม ชู 4 กลยุทธ์ ‘S – I – E – N’ พัฒนาเศรษฐกิจ รายงานพิเศษ : ครบรอบ 62 ปี วว. สร้างคุณค่านวัตกรรม ชู 4 กลยุทธ์ ‘S – I – E – N’ พัฒนาเศรษฐกิจ
  • รายงานพิเศษ : Learn to Earn เสริมพลังคุณครู เปิดมุมมองส่งต่ออนาคตเด็กไทย รายงานพิเศษ : Learn to Earn เสริมพลังคุณครู เปิดมุมมองส่งต่ออนาคตเด็กไทย
  • รายงานพิเศษ : ประเทศไทยยังมีหวัง...พลังเงียบจะกลับมา รายงานพิเศษ : ประเทศไทยยังมีหวัง...พลังเงียบจะกลับมา
  •  

Breaking News

'ฉลามจัส-น้องหญิง'พร้อมแชมป์กีฬามหาลัย 6 สมัย ร่วมปฐมนิเทศน์ ต้อนรับนักศึกษาใหม่ มกธ.

จากแนวหลัง สู่แนวหน้า!! พ่อค้า แม่ค้า ร่วมมอบของกิน-ของใช้แก่ทหารชายแดน

จะได้รู้ใครเป็นใคร? 'อดีตครูวีระ'ยุส่ง'ไทย'ปฏิบัติตามมาตรการ'ตระกูลฮุน'

ทบ.แจง'ทหารไทย'ปรับปรุงเส้นทางพื้นที่'ช่องบก' ในภารกิจลาดตระเวน-ส่งกำลังบำรุง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved