วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
รายงานพิเศษ : อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์  แลโลก-มองไทยกับ3ตัวแปร

รายงานพิเศษ : อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แลโลก-มองไทยกับ3ตัวแปร

วันอาทิตย์ ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 07.00 น.
Tag : รายงานพิเศษ
  •  

มาถึงตอนสุดท้ายแล้วสำหรับเรื่องเล่าจากงานวิจัยชุดอุตสาหกรรม S Curve โดยอาจารย์หลายท่านจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ซึ่งเผยแพร่ในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2565 (EconTU Symposium)ครั้งที่ 44 ภายใต้หัวข้อ “ความท้าทายของการยกระดับ S-Curve ในยุค Next Normal” จัดโดยคณะเศรษฐศาสตร์ มธ. เมื่อเร็วๆนี้ โดยไล่ตั้งแต่ ยานยนต์ไฟฟ้า (หน้า 5 ฉบับวันที่ 22 ก.ย. 2565), ยาและเครื่องมือแพทย์ (หน้า 17 ฉบับวันที่ 5 ต.ค. 2565), อาหารแปรรูป (หน้า 3 ฉบับวันที่ 15 ต.ค. 2565)

จนมาถึงฉบับนี้จะว่าด้วยเรื่องของ “เครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์” โดยมี ผศ.ดร.อลงกรณ์ ธนศรีธัญญากุล เป็นผู้บรรยาย ซึ่งอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย เผชิญความท้าทาย 3 ประการ 1.ความขัดแย้งระหว่าง 2 มหาอำนาจ “สหรัฐอเมริกา-จีน” ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ “ปัญหาการขาดแคลนชิพในฐานการผลิตต่างๆ ทั่วโลก” อีกทั้งเป็นการขาดแคลนอย่างยาวนานแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


โดยสัญญาณการขาดแคลนเริ่มมาตั้งแต่สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ในปี 2562 จากนั้นเมื่อเข้าสู่ปี 2563 ทั่วโลกยังต้องเผชิญสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งจีนเลือกใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมโรค ยังไม่นับเหตุการณ์อื่นๆ เช่น ไฟไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ระดับโลก
3 แห่ง และภัยธรรมชาติต่างๆ อาทิ ภัยแล้งในไต้หวัน รวมถึงการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังใช้นโยบายการผลิตแบบชาตินิยม กล่าวคือ หากไม่ผลิตบนแผ่นดินสหรัฐฯ ก็ต้องผลิตในชาติที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ

นอกจากนี้ การย้ายการลงทุนจากประเทศพัฒนาแล้วไปสู่ประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย ยังทำให้บางแห่งยกระดับขึ้นมาเป็นแหล่งผลิตชิพชั้นนำของโลก เช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ซึ่งมีเทคโนโลยีชั้นสูงเป็นของตนเอง หรือกรณีของ แอปเปิล แบรนด์สินค้าไอทีเจ้าดัง ก็ยังพึ่งพาซัพพลายเออร์จากจีนอย่างมากเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับการพึ่งพาซัพพลายเออร์ในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

อีกด้านหนึ่ง ห่วงโซ่อุปทานการผลิตยังมีการแข่งขันที่สูงมากและเชื่อมโยงไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เนื่องจากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์มีวงจรชีวิตสั้นมาก เฉลี่ยอายุไม่เกิน 1 ปี เพราะบริษัทต่างๆ พากันเร่งแข่งขันผลิตสินค้า ในขณะที่ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แต่ละประเภทก็มีผู้เล่นหลักที่เป็นผู้ชนะเพียงรายเดียว รวมถึงมีความต้องการใช้อย่างก้าวกระโดดในสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV)

อนึ่ง มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ยังเป็นข้อจำกัดในการที่ผู้ประกอบการจะย้ายโรงงานออกจากจีน เช่น มีแผนย้ายไปเวียดนามแต่ไม่สามารถส่งผู้เชี่ยวชาญไปอบรมแรงงานในเวียดนามได้ โดยสรุปแล้ว “ภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในระดับโลกคงไม่เปลี่ยนแปลงในระยะสั้น แต่นโยบายของสหรัฐฯ จะกลายเป็นการเล่นเกมยาวเหมือนกับการวิ่งมาราธอน” ดังนั้น ในระยะสั้นไทยไม่น่าจะได้รับผลกระทบแต่ไทยก็ควรสงวนท่าทีไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และพยายามใช้โอกาสนี้ดึงดูดนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน

2.ความยืดหยุ่นของไทยในห่วงโซ่อุปทานการผลิตของโลก แหล่งนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไทยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในภูมิถาคเอเชียตะวันออก (จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น) และชาติร่วมอาเซียนด้วยกัน (สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย) โดย 2 ส่วนนี้รวมกันได้ราวร้อยละ 80 อย่างไรก็ตาม หากดูทั้งหมดจะพบว่าไทยนำเข้าจากแหล่งที่หลากหลายมาก โดยเฉลี่ย 22 ประเทศต่อรายการสินค้า อีกทั้งไทยยังนำเข้าชิ้นส่วนจากประเทศคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนภาพความแนบแน่นอย่างสูงระหว่างไทยกับเครือข่ายการผลิตระหว่างประเทศ

ถึงกระนั้น ดัชนีการกระจุกตัวก็เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว คาดว่ามาจากบริษัทข้ามชาติที่มีบทบาทสูง จึงเปลี่ยนแปลงแหล่งนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็ว “โดยสรุปแล้ว ไทยมีความยืดหยุ่นค่อนข้างดีในการเข้าถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากห่วงโซ่อุปทาน” ซึ่งก็มาจากหลายสาเหตุ อาทิ แหล่งนำเข้าที่มีการกระจายค่อนข้างสูง มีความแนบแน่นกับเครือข่ายการผลิต บวกกับความได้เปรียบทั้งทำเลที่ตั้งของประเทศซึ่งอยู่ใกล้ฐานการผลิตสำคัญ (เช่น เอเชียตะวันออก) และภูมิรัฐศาสตร์ที่มหาอำนาจทั้งสหรัฐฯ จีนและญี่ปุ่น ต้องการให้ไทยเป็นพื้นที่ปลอดภัย

และ 3.การปรับตัวของผู้ประกอบการในประเทศ ห่วงโซ่อุปทานสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องและเกือบครบวงจร แต่สิ่งที่ขาดคือความเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมต้นน้ำอย่างเซมิคอนดักเตอร์ และปลายน้ำอย่างสินค้าสำเร็จรูป การไม่เชื่อมโยงนี้ทำให้ผู้ประกอบการไทยบางรายเข้าถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญได้ยาก ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการยกระดับนวัตกรรมสินค้าในประเทศ

ที่ผ่านมาแม้ผู้ประกอบการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไทยพยายามเชื่อมโยงตนเองเข้ากับบริษัทข้ามชาติทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและอื่นๆ (เช่น ยานยนต์) แต่ทำไม่สำเร็จ สะท้อนความยากที่ผู้ประกอบการไทยจะไปเชื่อมต่อโดยตรง เนื่องจากผู้ประกอบการข้ามชาติอาจไม่มั่นใจในการใช้ชิพที่ผลิตโดยผู้ประกอบการไทย ส่วนโควิด-19 ก็ไม่ได้ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตในอุตสาหกรรมนี้ บริษัทข้ามชาติยังคงใช้ฐานการผลิตเดิม โดยผลักดันให้สาขาในไทยยกระดับไปผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความยากมากขึ้นเพื่อกระจายความเสี่ยง

ยังมีข้อค้นพบอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ผู้ประกอบการในประเทศกระจายการลงทุนไปที่อุตสาหกรรมกลุ่ม S Curve ที่หลากหลาย แต่เป็นการกระจายที่ไม่เกื้อหนุนกัน จึงไม่กล้าลงทุนเต็มที่ งบประมาณเพื่อการวิจัยและพัฒนา (R&D) จึงเกิดขึ้นไม่มาก อีกทั้งยังมีข้อจำกัดทั้งเรื่องการเงินและห้องทดสอบ อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไทยแม้จะเป็นกลุ่มรับจ้างผลิต(OEM) แต่ก็พบการปรับตัวหันไปใช้เทคโนโลยีจักรกลอัตโนมัติ (Automation)มากขึ้น เพราะมนุษย์ไม่สามารถประกอบชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กได้

สำหรับ “อุปสรรคสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อัจฉริยะ 3 อันดับแรกที่ผู้ประกอบการให้ความเห็น” อันดับ 1 ขาดข้อมูลและองค์ความรู้ของงานวิจัย อันดับ 2 ขาดผู้เชี่ยวชาญ และอันดับ 3 ความยากในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์(Commercial Product) จึงนำมาซึ่งข้อเสนอแนะ 1.ภาครัฐต้องส่งเสริมให้เกิดตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เพื่อจูงใจผู้ประกอบการให้ลงทุนวิจัยและพัฒนา

2.ส่งเสริมกลไกเชื่อมต่อองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี การเข้าถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเงินทุน แก่ห่วงโซ่อุปทานในการผลิตทั้งหมดทั้งผู้ประกอบการรายเดิมและรายใหม่ 3.มีมาตรการยกเว้นภาษีสำหรับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตในประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้าถึงชิ้นส่วนได้มากขึ้น และ 4.ศึกษาจากตัวอย่างของผู้ประสบความสำเร็จ เพื่อถอดต้นแบบและประสบการณ์สู่ภาครัฐและผู้ประกอบการ!!!

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รายงานพิเศษ : ประเทศไทยยังมีหวัง...พลังเงียบจะกลับมา รายงานพิเศษ : ประเทศไทยยังมีหวัง...พลังเงียบจะกลับมา
  • รายงานพิเศษ : ‘รพ.บางปะหัน’วางแนวทาง จัดแพ็คเกจบริการครอบคลุม รายงานพิเศษ : ‘รพ.บางปะหัน’วางแนวทาง จัดแพ็คเกจบริการครอบคลุม
  • รายงานพิเศษ : ถึงเวลาทบทวนยุทธศาสตร์การควบคุมการบริโภคยาสูบ รายงานพิเศษ : ถึงเวลาทบทวนยุทธศาสตร์การควบคุมการบริโภคยาสูบ
  • รายงานพิเศษ : ​ทบทวน ‘แผนวิจัย’ ของประเทศ ตอบสนองสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง รายงานพิเศษ : ​ทบทวน ‘แผนวิจัย’ ของประเทศ ตอบสนองสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง
  • รายงานพิเศษ : ‘AHSAN Trustmark’ ศรัทธาสู่มาตรฐานสินค้า รายงานพิเศษ : ‘AHSAN Trustmark’ ศรัทธาสู่มาตรฐานสินค้า
  • รายงานพิเศษ : กางแผนยุทธศาสตร์รับมือแผ่นดินไหว เจาะลึกเทคโนโลยีและนวัตกรรม ววน. รายงานพิเศษ : กางแผนยุทธศาสตร์รับมือแผ่นดินไหว เจาะลึกเทคโนโลยีและนวัตกรรม ววน.
  •  

Breaking News

ละเมิดสิทธิเด็ก! ‘ยูเอ็น’ประณาม‘อิสราเอล’สั่งปิดโรงเรียนในเยรูซาเล็มตะวันออก อ้าง‘ฮามาส’แฝงตัว

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหารราชองครักษ์ในพระองค์ จำนวน 18 นาย

'แรปเปอร์มะกัน'ไม่จบ! เหยียดแรงยันห้องน้ำไทย ลั่นประเทศนี้ไร้ระบบบำบัดน้ำเสีย

'ไพศาล'ชี้แพทย์ 3 รายโดนฟันจริยธรรม! เสี่ยงคดี 157 ละเมิดอำนาจศาล

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved