นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่ถอดบทเรียนความสำเร็จและแลกเปลี่ยนเรียนรู้“พลังหมออนามัย ชวนคนลด ละ เลิกเหล้า Checkตับ ยืดชีวิต” จัดการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเอนไซม์ตับ ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายหมออนามัยเพื่อพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพในผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชนโดยมีการเจาะเลือดตรวจหาค่าเอนไซม์ตับจากกลุ่มผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งที่ 2 ภายหลังเข้าร่วมโครงการฯ ครบ 6 เดือน พร้อมการตรวจเยี่ยมบ้านผู้เข้าร่วมโครงการฯ
โดย นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ล่าสุด ปี 2564 พบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 32.2 สูงเป็นอันดับ 2 รองจากภาคเหนือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุหลักของภาระโรคของคนไทย รองจากบุหรี่ และยังเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ ไขมันแทรกในตับ ตับแข็ง ตับวาย และมะเร็งตับ คนไทยมีพฤติกรรมดื่มสุราแบบหนักในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาจำนวน 5.73 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 10.05 การดื่มหนักจะส่งผลให้ตับอักเสบ และตรวจพบเอนไซม์ตับรั่วออกมาในกระแสเลือดในปริมาณสูงได้ สสส. จึงได้บูรณาการองค์ความรู้ด้านปัจจัยเสี่ยงหลัก และระบบบริการสุขภาพ โดยริเริ่ม “โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายหมออนามัยเพื่อพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพในผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน” ควบคู่กับการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ตามแนวคิด “ฤดูกาลสุขปลอดเหล้า” (Healthy Sobriety) ตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายหมออนามัยวิชาการ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ร่วมขับเคลื่อนการแก้ปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน พัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ด้วยการรณรงค์ให้ประชาชน “วัดค่าเอนไซม์ตับ” ในพื้นที่นำร่อง 80 พื้นที่ ใน 12 เขตสุขภาพทั่วทุกภูมิภาค
นพ.พงศ์เทพ กล่าวต่อว่า จากผลการคัดกรองพฤติกรรมผู้ดื่มด้วยแบบประเมินปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (AUDIT Score) ในทุกภูมิภาค เมื่อเดือน ธ.ค. 2566 จำนวน 13,556 คน พบกลุ่มผู้ดื่มแบบเสี่ยง 4,236 คน คิดเป็นร้อยละ 31.25 ซึ่งมีความเสี่ยงต่อภาวะตับ และได้ชวนกลุ่มเสี่ยงเพื่อตรวจเลือดประเมินค่าเอนไซม์ตับโดยมีผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการ 3,469 คน พบเอนไซม์ตับผิดปกติ 849 คน คิดเป็นร้อยละ 24.47 สำหรับพื้นที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย มีนโยบาย “สามหมอ สานพลัง ชวนคนโพนพิสัยเลิกเหล้า” โดยใช้ รพ.สต. เป็นฐานปฏิบัติการ เชื่อมภาคีเครือข่ายในชุมชน ชวนคน ลด ละ เลิกเหล้า Check ตับ ยืดชีวิต มี รพ.สต. ในพื้นที่เข้าร่วม 6 แห่ง มีประชาชนเข้าร่วมโครงการประเมินและคัดกรองพฤติกรรมผู้ดื่ม 1,594 คน เมื่อปี 2566 พบผู้ดื่มระดับเสี่ยงและอันตรายต่อสุขภาพ 478 คน ในจำนวนนี้ผู้สมัครใจตรวจเลือด เพื่อตรวจค่าเอนไซม์ตับ 377 คน พบการทำงานตับปกติ 302 คนผิดปกติ 75 คน
“สสส. เครือข่ายหมออนามัย และภาคีเครือข่าย ได้รณรงค์และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ความรู้เท่าทันอันตรายและการช่วยเหลือให้คำปรึกษาเลิกดื่ม ทำให้มากกว่าครึ่งหนึ่งสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลด ละ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โครงการนี้ช่วยรณรงค์ให้คนเลิกดื่มในช่วงเข้าพรรษา และลดต่อเนื่องตลอดทั้งปี ช่วยลดปัญหาสุขภาพของประชาชน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพปฐมภูมิ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน”ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว
ดร.บุญเรือง ขาวนวล นายกสมาคมเครือข่ายหมออนามัยวิชาการ และรองคณบดีฝ่ายวิจัยนวัตกรรมและภารกิจพัฒนานิสิต คณะวิทยาการสุขภาพและการกีฬา มหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าวว่า การตรวจค่าเอนไซม์ตับถือเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ทำให้ผู้ดื่มตระหนักถึงผลกระทบของแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพตับ หากมีค่าเกิน 40 ยูนิต/ลิตร ถือว่าการทำงานของตับผิดปกติ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ใช่สาเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น เช่น การกินยาบางชนิดโรคไวรัสตับอักเสบ โรคไขมันพอกตับ ความผิดปกติจากพันธุกรรม สารพิษจากสิ่งแวดล้อม โรคทางเมตาบอลิซึม(โรคเบาหวาน ภาวะดื้ออินซูลิน) อย่างไรก็ตาม การดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลต่อสุขภาพตับ ทำให้อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตาเหลือง ตัวเหลือง จุกแน่นใต้ชายโครงด้านขวาเกิดจากการอักเสบของตับ นำไปสู่โรคตับแข็งในที่สุด หากเลิกดื่มตับจะฟื้นฟูได้เองอย่างน้อย 1-3 เดือนตับฟื้นฟูได้ ร้อยละ 80 ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนดังนั้น การรณรงค์ให้ประชาชนลด ละ เลิกดื่มเริ่มต้นในช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้ และการตรวจเอนไซม์ตับ จะทำให้ประชาชนตระหนักและรู้ภาวะสุขภาพตับและสุขภาพของตัวเอง ช่วยให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลด ละ เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้
“หมออนามัยเป็นผู้ให้บริการสุขภาพที่ใกล้ชิดชุมชน รู้จักคน รู้จักพื้นที่ จึงมีส่วนสำคัญในการสานพลังภาคีเครือข่ายในพื้นที่ทั้ง อสม. ชุมชน มาร่วมช่วยกันสร้างสิ่งแวดล้อมเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่ม ตลอดจนให้ความรู้เรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงกรณีผู้ป่วยมีอาการรุนแรงประสานส่งต่อการรักษาไปยังแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว หรือแพทย์ของโรงพยาบาลแม่ข่าย” ดร.บุญเรือง กล่าว
นางสาวสมบูรณ์ หาญชนะ อายุ 50 ปี ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย หนึ่งในผู้ตรวจเอนไซม์ตับ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนดื่มเหล้าขาวทุกวัน ดื่มกัน 4-5 คน ประมาณ 3-4 ขวดต่อวัน เฉลี่ยคนละประมาณ 1 ขวด สาเหตุที่ดื่มเพราะตนทำอาชีพเกษตรกร มีความเชื่อว่าการดื่มเหล้าจะช่วยล้างสารเคมีจากการเกษตร เมื่อได้รับการชักชวนให้เข้าร่วมโครงการงดเหล้า ได้มีการตรวจเอนไซม์ตับครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2566 พบค่าเอนไซม์ตับสูงถึง 542 ถือว่าวิกฤตเพราะมาตรฐานคือไม่ควรเกิน 40 จึงถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่ รพ.โพนพิสัยและเมื่อโรงพยาบาลเจาะเลือดก็พบว่าค่าเอนไซม์ตับขึ้นไปสูงถึง 800 ทางแพทย์จึงให้นอนโรงพยาบาล 2 วัน และให้ยารักษา ติดตามอาการทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง จากค่าเอนไซม์ตับที่สูงเช่นนี้ทำให้ลูกกังวล กลัวว่าแม่จะป่วยเป็นตัวแข็งและเสียชีวิต จึงตัดสินใจที่เลิกดื่ม ซึ่งผลการตรวจล่าสุดเมื่อเดือนพ.ค. 2567 พบว่าค่าเอนไซม์ตับลดลงมาเหลือ 27 ในระยะเวลา 5 เดือน ปัจจุบันแพทย์ไม่ได้นัดติดตามแล้วและตั้งใจที่จะเลิกดื่มต่อไป
SCOOP@NAEWNA.COMโปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี