“ภาพยนตร์” ถือเป็นสื่อการเรียนรู้ที่ดีและสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของมนุษย์ มีความผูกพันกับชีวิตของมนุษย์มาอย่างยาวนาน ซึ่งให้ทั้งสาระและความบันเทิงแก่
ผู้รับชม ดังนั้น ภาพยนตร์จึงถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาและมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ ที่ต้องเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี
โดยในส่วนของประเทศไทยนั้น “หอภาพยนตร์แห่งชาติ” ได้ก่อกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2527 หรือเมื่อ 40 ปีที่แล้ว จากหน่วยงานเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป หรือ หอศิลป์เจ้าฟ้า ต่อมาในปี 2552 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)” มาจนถึงปัจจุบัน ที่ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ด้านการอนุรักษ์ภาพยนตร์ไทยดังเดิม
ทั้งนี้ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานของรัฐ มีลักษณะเป็นหอสมุด พิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์ที่เก็บภาพยนตร์และ วีดิทัศน์ ตลอดจนสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาศึกษา ค้นคว้า และชื่นชม หรือใช้ประโยชน์อย่างสะดวกและกว้างขวาง
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ได้จัดกิจกรรมครบรอบ 40 ปีขึ้น ในงาน “Press Tour เที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์หอภาพยนตร์จากอดีตถึงปัจจุบัน” โชว์ประสบการณ์งานอนุรักษ์ฟิล์มและสื่อเคลื่อนไหว ความทันสมัยในงานเก็บและเผยแพร่สื่อใหม่ยุคดิจิทัล เป็นรากฐานซอฟต์พาวเวอร์ ด้วยการส่งเสริมผู้ชมทุกวัยโดยเฉพาะเด็กนักเรียนและการใช้หนังเพื่อให้เกิดปัญญา จนได้รับการยอมรับจากสมาพันธ์หอภาพยนตร์นานาชาติและเพื่อนในวงการเดียวกันจากนานาประเทศ
นางสาวชลิดา เอื้อบำรุงจิต ผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า หอภาพยนตร์(องค์กรมหาชน) เกิดจากการผลักดันของกลุ่มคนเล็กๆที่มีความเชื่อและความศรัทธา เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์สื่อโสตทัศน์ไว้เป็นมรดกภาพยนตร์และบันทึกความทรงจำของประวัติศาสตร์ ได้ร่วมมือกันผ่านกระบวนการต่อสู้มากมายกว่าจะมาถึงวันนี้ จนได้รับการยอมรับจากนานาประเทศด้านประสบการณ์ มาตรฐาน และความสามารถ
หอภาพยนตร์ของไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมใหญ่สมาพันธ์หอภาพยนตร์นานาชาติ FIAF Congress 2024 เมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทย อันเป็นหมุดหมายสำคัญในวาระฉลอง 40 ปีของการต่อตั้งหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)
นางสาวชลิดากล่าวว่า การได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน FIAF Congress 2024 นับเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรฯ เพราะภายในงานมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 คน จาก 80 ประเทศทั่วโลก ที่หลังจากได้ร่วมงานแล้ว ต่างให้การยอมรับหอภาพยนตร์ของไทยว่าทำงานด้านอนุรักษ์ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ
“คงไม่มีอะไรน่ายินดีไปกว่า การได้รับการยอมรับของคนในวงการเดียวกัน จากการทำงานที่เราให้ความสำคัญกับมาตรฐานด้านการอนุรักษ์มาตั้งแต่ต้น ส่งผลให้เกิด
ผลงานที่ดี สามารถอนุรักษ์สิ่งต่างๆ ได้จำนวนมาก เมื่อเพื่อนในวงการที่มาจากยุโรป อเมริกา ลาตินอเมริกา แอฟริกาฯลฯ มาเห็นด้วยตาตัวเอง เมื่อทุกคนกลับไปแล้วเกิดการพูดถึงบอกต่อ นี่คือซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่งที่ไม่ต้องโปรโมท” ผู้อำนวยการ หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) กล่าว
นางสาวชลิดา กล่าวว่า เมื่อพูดถึงซอฟต์พาวเวอร์หลายคนมองที่ปลายทาง แต่งานของหอภาพยนตร์เป็นต้นธารของซอฟต์พาวเวอร์ เพราะงานของหอภาพยนตร์มีสาระอยู่ที่การอนุรักษ์ภาพยนตร์ และการนำภาพยนตร์ทั้งเก่าและใหม่มาเผยแพร่เพื่อสร้างความรู้เสริมสร้างความหลากหลายของจินตนาการและรสนิยม โดยเฉพาะการทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างความเข้มแข็งให้วัฒนธรรมการชมภาพยนตร์ (หรือ audience development) โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน เช่น เด็กบางคนอาจมีประสบการณ์การดูหนังครั้งแรกที่นี่ ก่อนเข้าดูหนังจึงมีการสอนเรื่องมารยาทของการดูหนังร่วมกับคนอื่น
พร้อมกันนี้ ยังมีกิจกรรมชวนพูดคุยหลังดูหนังเพื่อรับฟังสิ่งที่เด็กได้เรียนรู้จากหนัง โดยไม่มุ่งเน้นการสอน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้ชมรุ่นเยาว์รู้จักคิดไตร่ตรองกับสิ่งที่เห็นอันเป็นพื้นฐานของการสร้างวัฒนธรรมภาพยนตร์ที่แข็งแรง และเป็นกลไกลสำคัญซอฟต์พาวเวอร์ที่สามารถต่อยอดในเรื่องเศรษฐกิจและความคิดสร้างสรรค์ ทั้งในมุมผู้สร้างและผู้ชมภาพยนตร์
สำหรับกิจกรรม “โรงหนังโรงเรียน” นี้ได้รับความนิยมและมีคิวเต็มและยาวไปถึงอีกสองเดือนข้างหน้าแล้ว
นอกจากนี้ บทบาทและหน้าที่หลักของหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2527 เป็นต้นมาคือการทำหน้าที่อนุรักษ์สื่อภาพเคลื่อนไหว โดยให้ความสำคัญกับผลงานที่สร้างโดยคนไทยหรือเกี่ยวข้องกับประเทศไทย และไม่เฉพาะภาพยนตร์ที่ฉายในโรงเท่านั้น แต่รวมไปถึงภาพยนตร์สารคดี หนังข่าวต่างๆ หนังที่สร้างจากหน่วยงาน หรือหนังบ้าน (หนังที่ถ่ายกันเองในครอบครัว เป็นบันทึกประวัติศาสตร์ภาคประชาชน)
ในยุคแรกๆ หอภาพยนตร์จะเก็บทุกอย่างที่เป็นฟิล์มเพราะเป็นวัตถุถ่ายทำดั้งเดิมและมีโอกาสเสื่อมสลายง่าย โดยเน้นการเก็บงานที่เป็นต้นฉบับ แต่เมื่อสื่อเปลี่ยนรูปแบบในยุคต่อมาเป็นเทป และเป็นไฟล์ดิจิทัล ฮาร์ดดิสก์ ฮาร์ดไดรฟ์ ต่างๆ หอภาพยนตร์ก็ยังคงเดินหน้าทำงานเก็บรักษาและใช้หนังเหล่านี้ในกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้สำหรับประชาชน
“เราค่อนข้างปรับตัวเข้ากับยุคดิจิทัลได้เร็ว แม้ด้านหนึ่งจะเป็นนักอนุรักษ์ ดูโบราณ แต่ขณะเดียวกันเทคโนโลยีการอนุรักษ์ด้านดิจิทัลมีกระแสมาสักระยะหนึ่งแล้วและเราก็ปรับตัวเข้ากับองค์ความรู้ในเชิงสากลมาก่อนแล้ว ประกอบกับเรามีเครื่องมือที่ทันสมัย ทำให้ทำงานด้านบูรณะและทำอะไรหลายๆ อย่างได้ด้วยตัวเอง เมื่อมาผนวกกับประสบการณ์และความสามารถที่มี จึงไม่มีปัญหาเรื่องการอนุรักษ์สื่อในยุคดิจิทัล หอภาพยนตร์ไม่ได้เพียงแค่เก็บหนังเก่าในประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่เก็บรักษาสื่อภาพเคลื่อนไหวที่สร้างขึ้นในปัจจุบัน เพราะประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ยังคงเดินต่อไปตลอดเวลา” นางสาวชลิดากล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี