ปรับทุกข์กันได้ ก็ดีแน่ ถ้าช่วยกันหาทางแก้ ก็ยิ่งดี : ขออย่าให้เหมือนเดิม

ปรับทุกข์กันได้ ก็ดีแน่ ถ้าช่วยกันหาทางแก้ ก็ยิ่งดี : ขออย่าให้เหมือนเดิม

วันอาทิตย์ ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.

เพลงสมัยครูเอื้อ สุนทรสนาน เนื้อร้องโดย พรพิรุณ เป็นที่นิยมกันมาช้านาน ตั้งแต่สมัยเราใช้ระบอบประชาธิปไตย มาแทนระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เมื่อปี พ.ศ. 2475 ก็คือ ขอให้เหมือนเดิม

แต่จนบัดนี้ พ.ศ. 2568 เป็นเวลา 93 ปี การเมืองของประเทศไทย ก็ยังคงเหมือนเดิม เหมือนเดิม


- เรายังคงมีการซื้อเสียง จากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สส., สว., สจ., อบจ., อบต. เหมือนเดิม

- เรายังคงมีการซื้อเสียง สส., สว. เพื่อจะเข้าสู่อำนาจบริหาร เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี กันเช่นเดียวกับการปกครองส่วนท้องถิ่น ก็ต้องซื้อเสียงเพื่อเป็นนายก อบจ. นายก อบต. นายกเทศมนตรี กัน

- เรายังคงมีการเมืองที่ต้องมีบ้านใหญ่ หรือมุ้งใหญ่หรือเจ้าพ่อ เหมือนเดิม เหมือนเดิม

- เราก็ยังต้องมีการทุจริตคอร์รัปชั่น กันในทุกวงการ เพื่อหาเงินไปเป็นถุงขนม ถุงกล้วย แจกในสภา เพื่อให้ได้อยู่ในอำนาจบริหาร

- เราก็ยังปล่อยให้มีนักการเมือง (นักนิติบัญญัติ ที่พยายามเข้าสู่อำนาจบริหาร) กลุ่มเดิม คุณภาพเดิม เข้ามาบริหารประเทศ

ทั้งๆ ที่สภาพของประเทศไทยของเรา กำลังจะเป็นประเทศที่ล้มเหลว (failed state) อยู่แล้ว คือ

1.เราอยู่บนขอบเหวของเศรษฐกิจ

- คนจนกันเกือบ 90% คนมีอันจะกิน 8% คนรวย 2%

- รายได้ประชาชาติ (GDP) โตน้อยกว่าประเทศในกลุ่มอาเซียน

- ต่างชาติเข้ามายึดธุรกิจดีๆ ทำเลดี ไปเกือบหมด

- ธุรกิจขนาดเล็ก ดับลงไปทุกเดือน ทุกปี

2.เรายืนอยู่บนขอบเหวของเทคโนโลยี

- คนกำลังตกงานอีกมากมาย เพราะหุ่นยนต์Automatic และ AI

- GPT กำลังเข้ามาทดแทนคนทำงาน

- โลกแห่งเทคโนโลยี ก้าวไปไกลเกินกว่า การศึกษาด้านสังคมศาสตร์ และบริหารธุรกิจของเรา

3.เรายืนอยู่บนขอบเหวของประชากร

- คนแก่ในประเทศกำลังเพิ่มพูนขึ้น แต่ยังไม่มีแผนรองรับที่ชัดเจน

- เรายังไม่มีแผนความกลมกลืน (Assimilation) ที่จะทำให้คนงานต่างชาติ เป็นคนไทย โดยให้การศึกษาภาษาไทย วัฒนธรรม เป็นภาคบังคับในการที่จะสามารถทำงานในประเทศได้อีกนานๆ

- เรายังกำหนดค่าแรงขั้นต่ำ ให้แรงงานทุกประเภท 400 บาทต่อวัน ไม่ว่าจะจบ ม.3, ม.6 หรือผู้เกษียณแล้วแต่ยังทำงานได้ ก็ได้ 400 บาทเท่ากับคนพม่า, เขมรที่ยังพูดไทยไม่ได้

4.เรายืนอยู่บนขอบเหวของศีลธรรม

- คนที่ถูกศาลสั่งจำคุก ก็ไม่ต้องเข้าคุก

- พระสงฆ์องค์เจ้า ถูกจับศึกจำนวนมาก เพราะสีกาบ้าง เพราะการทุจริตบ้าง

5.เรากำลังยืนอยู่บนสายน้ำที่ยากจะหวนกลับมา (The river of no return)

- การท่องเที่ยวหดตัวไป เพราะข้าราชการหลายหน่วยกลายเป็นสีเทา (หรือสีดำ) กันไปมากมาย

- นักท่องเที่ยวถูกผู้ขับขี่ยานพาหนะโกง ขู่เข็ญ และผู้ถูกจี้ ถูกปล้น ถูกข่มขืน ฯลฯ โดยเจ้าหน้าที่เฉยเมย

- สยามแดนยิ้ม กำลังกลายเป็น สยามที่จะถูกทอดทิ้ง
(โดยนักท่องเที่ยว)

- อุตสาหกรรมทั้ง เล็ก กลาง ใหญ่ กำลังกระทบกระเทือนด้วยการเมืองระหว่างประเทศ

วันนี้ จึงขอชวนชาวไทยร้องเพลงว่า

“ขออย่าให้เหมือนเดิม”

เลือกผู้บริหารประเทศแล้ว ก็ขออย่าให้เหมือนเดิม

เลือก สส., สว. ฯลฯ ใหม่แล้ว ก็ขออย่าให้เหมือนเดิม

แต่ร้องเพลงอย่างเดียว คงไม่พอ ก็คงจะเหมือนเดิมอีกต่อไป

คนไทยทุกคนต้องช่วยกันคิด ต้องช่วยกันทำ ช่วยกันแก้ไข สิ่งที่ทำให้เกิดสภาพเช่นนี้ขึ้นในบ้านเมืองของเรา

ถ้าทุกคนปล่อยปละละเลย ทุกอย่างก็จะเป็นไป

เหมือนเดิม เหมือนเดิม

ไหนๆ รัฐบาล 4 เดือนของภูมิใจไทย ก็ถูก ปชน. มีเงื่อนไขว่า ต้องยุบสภา ต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่

- การมอบหมายให้ประชาชนทั่วไป เป็นผู้เลือกตั้ง(Electoral Body) สส., สว. (หรือนักนิติบัญญัติ) มาใช้อำนาจนิติบัญญัติแทนปวงชนชาวไทย ก็น่าจะดีแล้ว เพราะมาจากอาชีพต่างๆ ความชำนาญต่างๆ และท้องถิ่นต่างๆ รู้ความต้องการและใกล้ชิดกับประชาชนอยู่แล้ว

- การมอบหมายให้ผู้มีความรู้ด้านกฎหมายมีประสบการณ์ทางกฎหมาย ผ่านการกลั่นกรอง การอบรม การฝึกฝน อย่างเข้มงวดในวัฒนธรรมตุลาการ เป็นผู้เลือกตั้ง(Electoral Body) ผู้ใช้อำนาจตุลาการแทนปวงชนชาวไทยก็น่าจะดีอยู่แล้ว เพราะผู้ใช้อำนาจนี้ ต้องมีความรู้ ความสามารถเป็นพิเศษเฉพาะทาง

- แต่ การมอบหมาย ให้ สส., สว. ผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติอยู่แล้ว มาเป็นผู้เลือกตั้ง (Electoral Body) หัวหน้าฝ่ายบริหาร และคณะผู้บริหารประเทศ(คณะรัฐมนตรี) นี่แหละ ที่ทำให้การเมืองของประเทศไทยอยู่ในสภาพ “ สิ้นหวัง” มาจนทุกวันนี้

เราก็น่าจะใช้โอกาส 4 เดือนนี้ เตรียมแก้รัฐธรรมนูญ ตามเงื่อนไขของพรรค ปชน. ว่าควรต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดย

ตัดการมอบหมายให้ สส., สว. ที่เคยเป็นผู้เลือกตั้ง (Electoral Body) หัวหน้าฝ่ายบริหารและคณะผู้บริหารประเทศ (คณะรัฐมนตรี) เสีย แต่มอบหมายให้ นักบริหารมืออาชีพ (Professional Executive) จากแขนงธุรกิจ (Business Sector) รัฐกิจ (Public Sector) และประชากิจ (Social Sector) มาเป็นผู้เลือกตั้งหัวหน้าฝ่ายบริหาร (นายกรัฐมนตรี และ ค.ร.ม.) เสีย ในทำนองเดียวกับการเข้าสู่อำนาจตุลาการ

ประเทศจึงจะได้ “ผู้ใช้อำนาจบริหารแทนปวงชนชาวไทย ที่มีความสามารถและประสบการณ์” ดีพอที่จะบริหารประเทศได้ (Professional Public Administrator)และได้คนดี ที่มิใช่นักการเมืองแบบที่ท่านเบื่อหน่ายมาบริหารประเทศกันเสียที

โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากของเก่าที่เป็นแบบ ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา (Parliamentarian Democracy) มาเป็นประชาธิปไตยแบบสมดุล (Balanced Democracy) กันเสียในโอกาสนี้

ถ้าประชาชนไม่ช่วยกันทำ ไม่ช่วยกันแก้ ใครที่ไหนจะมาแก้ให้

เราก็คงจะต้องร้องเพลง “ขออย่าให้เหมือนเดิม” ต่อไปจนกว่าประเทศไทยจะสิ้นลมหายใจ

ศิริภูมิ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top