1 ส.ค.61 ที่ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.ร่วมกับ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับแถลงผลการจับกุมกรรมการบริษัทนำเที่ยวชื่อ โรแมนติก สมุย ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะสมุย โดยมีผู้ต้องหาคนไทยชื่อ นายสมศักดิ์ บุรุษชาติ , นายพัทธ์พล ราชบัณฑิต และนายหลิว เสี่ยวเฟย ชาวจีน ถือวีซ่าเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นนักท่องเที่ยว มาเป็นนอมินีจดทะเบียนเปิดบริษัทนำเที่ยวให้กับ นางฉางเหยี่ยน เหริน เจ้าของบริษัทชาวจีน
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวกว่า 10 ราย บนเกาะสมุย และ จ.สุราษฎร์ธานี โดนบริษัททัวร์จีนดังกล่าวเบี้ยวค่าจ้างและค่าบริการต่างๆ สูญเงินไปกว่า 3 ล้านบาท ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 ประจำพื้นที่เกาะสมุย ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเกาะสมุย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบ่อผุด และตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย
ลักษณะการทำทัวร์ของบริษัททัวร์จีนรายนี้จะนำนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย ส่วนใหญ่จะเดินทางเข้ามาทางสนามบินเกาะสมุย หรือสนามบินสุราษฎร์ธานี และจะว่าจ้างให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่เป็นผู้เสียหายรับหน้าที่ต่อ ซึ่งแต่ละ่ผู้ประกอบการจะเสียหายต่างกันค่าเดินทางกับเรือสปีดโบ๊ท ค่ารถขนส่ง ค่าทัวร์แบบซาฟารี ค่าร้านอาหาร และค่าโรงแรมที่พัก แต่เมื่อถึงกำหนดชำระเงินบริษัททัวร์จีนนี้ก็จะจ่ายเงินให้ไม่ครบตามจำนวนผลัดผ่อนไปเรื่อยจนมียอดใหม่มาสูงเพิ่มขึ้นจนเต็มวงเงินที่จะให้ได้ แต่บริษัททัวร์จีนนี้ก็จะไปเปิดเครดิตกับบริษัทอื่นๆ ไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้เสียหายได้ทั้งหมดกว่า 3 ล้านบาท
ต่อมากลุ่มผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ ทำให้ นางฉางเหยี่ยน เหริน เจ้าของบริษัทชาวจีนได้ไหวตัวเดินทางออกนอกประเทศไทย เหลือแต่เพียงผู้ต้องหา 3 คน ที่เป็นกรรมการบริษัท แต่ทั้งหมดยังไม่ยอมรับสภาพหนีดังกล่าว จึงได้ร่วมตัวกันไปร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐให้ช่วยเร่งตรวจสอบบริษัททัวร์จีนนี้ที่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่า นางฉางเหยี่ยน เหริน เจ้าของบริษัทชาวจีนมีการเดินทางเข้าออกประเทศไทย แต่ภายหลังได้เบี้ยวค่าจ้างมาหลายบริษัทแล้วและมี การร้องเรียน ก็ไหวตัวเดินทางกลับเอาตัวรอดไปแล้วปล่อยให้กรรมการบริษัท 3 คน ที่เป็นคนจีน 1 คน คนไทย 2 คน คอยดูแลบริษัทต่อ แต่จากการสืบสวนพบว่าคนไทย 2 คน ที่เป็นกรรมการบริษัทก่อนหน้านี้เป็นเพียงลูกจ้าง ได้ค่าจ้างเดือนละประมาณ 1 หมื่นบาท แต่ปีนี้มาจดทะเบียนเป็นเจ้าของกิจการมูลค่า 50 ล้าน หรือ 100 ล้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบย้อนไปถึงเส้นทางทางการเงิน และการเสียภาษี ซึ่งการหากินแบบนี้ในจังหวัดท่องเทียวสำคัญมีเยอะเช่นที่ภูเก็ต ซึ่งทางตำรวจท่องเที่ยว ถ้าปล่อยไปมาตรฐานความปลอดภัยจะล่มสลายหมด เราจึงจับมือกันกับประเทศเพื่อนบ้านให้สกัดกั้นขบวนการทำธุรกรรมแบบนี้ซึ่งจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย และนี้ถือเป็นเคสแรกที่เปลี่ยนจากทัวร์ศูนย์เหรียญมาจ้างคนไทยเป็นนอมินีเปิดบริษัททัวร์
ส่วน นายสมศักดิ์ บุรุษชาติ ผู้ต้องหา ให้การรับว่ารู้จักกับ นางฉางเหยี่ยน เหริน เจ้าของบริษัทชาวจีน มาตั้งแต่ปี 57 ถูกติดต่อว่าจ้างให้มาเป็นกรรมการบริษัท โรแมนติก สมุย จำกัด ตั้งแต่เดือน ก.พ.ปีนี้ ได้ค่าจ้างเป็นค่าตำแหน่งเดือนละ 3 หมื่นบาท และจะมีเงินปันผลปลายปี ที่ผ่านมาไ่ม่เคยคิดว่าจะมาเป็นนอมินีเปิดบริษัท รู้แต่เพียงว่าเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทโดยที่ไม่ต้องมีลงเงินลงทุน โ่ดยเป็นผู้บริหารมีเงินเดือน มีเงินปันผลปลายปีเท่านั้น ส่วนหนี้สินตนเองรับรู้แต่ไม่รู้จะใช้หนี้ยังไง เพราะเงินรายได้ของบริษัททุกบาทจะถูกโอนไปที่เจ้าของบริษัท ตนเองพยายามติดต่อไปหา นางฉางเหยียน เหริน แล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา
ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่ตกเป็นผู้เสียหายได้นำกระเช้าดอกไม้มามอบให้กับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เพื่อขอขอบคุณที่เจ้าหน้าที่มาดำเนินการจับกุม บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการ ทำให้รู้สึกอุ่นใจ และมั้นใจในการทำธุรกิจต่อไป
ล่าสุด พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายสมศักดิ์ บุรุษชาติ , นายพัทธ์พล ราชบัณฑิต และนายหลิว เสี่ยวเฟย ผู้ต้องหาว่า รับจ้างเป็นนอมินีเปิดบริษัทนำเที่ยวกระทำแทนโดยผิดเงื่อนไข พร้อมออกหมายจับ นางฉางเหยี่ยน เหริน เจ้าของชาวจีน เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี