‘บิ๊กโจ๊ก’ปรากฏตัวแล้ว
เซ็นชื่อศปก.ตร.
ก่อนหายเงียบตามเดิม
สะพัดโดนตั้ง6ข้อหา
ศรีวราห์ปัดคุมสอบคดี
“บิ๊กโจ๊ก” ดอดเซ็นชื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่ ศปก.ตร. ก่อนหายตัวไปอีก ขณะที่ “พล.ต.อ.ศรีวราห์”ปัด ไม่รู้เรื่องถูกแต่งตั้งเป็นผู้ควบคุมการสอบสวนความผิด อดีต ผบช.สตม. จำนวน 6 ข้อกล่าวหา ด้านดร.เซปิง ย้ำอีกรอบ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งย้ายนายตำรวจระดับสูง
เมื่อวันที่ 8 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 232/2562 ลงวันที่ 5 เมษายน 2562 เรื่อง ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ โดยให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุของการมีคำสั่งดังกล่าวออกมา เนื่องจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นับเป็นนายตำรวจที่ออกสื่อบ่อยที่สุดนายหนึ่งโดยมักจะมีการแถลงข่าวถึงผลการจับกุมคดีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ว่า สำหรับความเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์ ยังคงถูกปิดการติดต่อทุกช่องทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เดินทางเข้ารายงานตัวที่ ศปก.ตร.ตามคำสั่งดังกล่าวแล้ว นับตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา และมีกระแสข่าวด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 เมษายน ทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ซึ่งต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ยัง ศปก.ตร. โดยได้มาเซ็นชื่อ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเป็นปกติ แต่หลังจากนั้นก็ได้หายตัวไป ไม่มีผู้ใดติดต่อได้
นอกจากนี้ มีรายงานว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ อาจจะถูกสอบสวนในความผิด 6 ข้อกล่าวหา แต่ยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดว่าเป็นความผิดในข้อหาใดบ้าง ซึ่งเบื้องต้นทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เป็นผู้ควบคุมการสอบสวนคดีนี้เอง แต่จากการตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งข่าว ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ไม่มีคำสั่งดังกล่าวจาก ผบ.ตร. จริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้เปิดเผยว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และตนก็ไม่เคยทราบเรื่อง ดังนั้น จึงอยากฝากจะเตือนถึงการนำเสนอข่าวในข้อเท็จจริงด้วย
ก่อนหน้านี้ ในเวลา 10.30 น.วันเดียวกัน ที่บ้านเลขที่ 124/3 โซนเอ็น หมู่บ้านมณียาเพอร์เฟคมาสเตอร์พีช ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี ดร.เซปิง ไชยศาส์น ประธานโครงการ “เฟซออฟ” พร้อมด้วยทนายความ แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีถูกกล่าวหาในคดีฉ้อโกงประชาชน โดยมีการนำรูปภาพผู้ทำศัลยกรรม มายกเป็นกรณีตัวอย่าง โดยระบุว่า เป็นความโหดร้ายที่สุดของชีวิตที่ถูกกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน ทั้งที่ไม่เคยทำ และไม่เคยคิด ยืนยันว่าไม่เคยฉ้อโกงใคร ไม่ได้มีกระบวนการใดๆ ที่จะเป็นการฉ้อโกง ไม่ได้กระทำการใดที่ผิดกฎหมาย และไม่ได้ถูกอายัดทรัพย์ตามที่เป็นข่าว
ดร.เซปิง กล่าวต่อว่า โครงการเฟซออฟ ดร.เซปิง ตั้งขึ้นเพื่อให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะมีความรู้เรื่องศัลยกรรม หรือผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรม และย้ำทุกครั้งกับผู้ที่มาขอคำปรึกษาว่าไม่ใช่แพทย์ หลังจากให้คำปรึกษา จึงแนะนำให้ทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และยืนยันว่าตนไม่ได้มีส่วนได้เสียกับทางโรงพยาบาล มั่นใจว่าไม่ผิด ไม่ได้ฉ้อโกงใคร หลังจากนี้จะเดินหน้ารวบรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อฟ้องกลับคนที่ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง ในข้อหาหมิ่นประมาท ส่วนจะฟ้องกลับสื่อด้วยหรือไม่ ก็ต้องมาวิเคราะห์ก่อน อาจจะมีบางสื่อ
ส่วนที่มีข่าวว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งย้ายนายตำรวจระดับสูงรายหนึ่งนั้น ตนเคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่ทราบเรื่อง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจเพราะเป็นไม่กี่คดีที่ถูกจับในเวลาใกล้เคียงกันจึงถูกนำชื่อไปเชื่อมโยงไปด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี