ปัจจุบันปัญหาด้านกระทบทางสิ่งแวดล้อมนั้นมิได้ลดลง แต่กลับมีเรื่องร้องเรียนและความเสียหายเกิดขึ้น ผู้เขียนมีโอกาสให้คำแนะนำประชาชนรวมถึงนักกฎหมายที่เข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับการดำเนินคดีสิ่งแวดล้อมบ่อยครั้ง ผู้อ่านหลายท่านคงแปลกใจว่าทำไมทนายความรวมถึงนักกฎหมายยังต้องสอบถามเกี่ยวกับการเตรียมข้อมูลและการสอบข้อเท็จจริงในคดีสิ่งแวดล้อมนั้นนอกเหนือจากข้อกฎหมายที่เป็นเรื่องเฉพาะทางแล้ว Action ในการดำเนินคดีก็มีส่วนสำคัญเนื่องจากคดีสิ่งแวดล้อมนั้นเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพิพาทกับผู้ประกอบการรายใหญ่ หน่วยงานของรัฐ รวมถึงผู้มีอิทธิพล
ดังนั้น การดำเนินคดีทางสิ่งแวดล้อมจึงนิยมให้หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ รวมถึงสภาทนายความฯ เป็นผู้ดำเนินคดี ซึ่งจะมีความเชี่ยวชาญและมีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งขั้นตอนการเตรียมข้อมูลก่อนนำเรื่องเข้าร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ รวมถึงสภาทนายความฯเบื้องต้นมีดังนี้ 1.ข้อมูลรายชื่อและข้อมูลของผู้เสียหาย 2.ข้อมูลภาพถ่ายหรือเอกสารยืนยันความเสียหาย 3.ข้อมูลของผู้ก่อมลพิษ หากเป็นกรณีเอกชน คือชื่อของบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้ประกอบการ หากเป็นหน่วยงานรัฐให้ดูว่าโครงการดังกล่าวนั้นอยู่ภายใต้กำกับดูแลของหน่วยงานใดบ้าง 4.หนังสือร้องเรียนโดยสรุปปัจจัยสำคัญดังนี้ 4.1 รายละเอียดกิจการของผู้ก่อมลพิษ 4.2 ระยะเวลา
ที่เริ่มประกอบกิจการจนถึงระยะเวลาที่เริ่มเกิดความเสียหายทางด้านสิ่งแวดล้อม 4.3 รายละเอียดของความเสียหายว่าเป็นลักษณะใด 4.4 รวมถึงรายละเอียดของผู้เสียหายว่ากระทบกับใครบ้าง 4.5 ตลอดจนสิ่งที่ต้องการให้ดำเนินการ เช่นให้เยียวยาแก้ไขหรือปิดกิจการ
ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นนี้เป็นการละเอียดเบื้องต้น เมื่อผู้เสียหายได้รวมตัวกันยื่นข้อร้องเรียนและมอบหมายให้หน่วยงาน ที่ไว้วางใจแล้ว คณะทำงานก็จะมีการสอบและขอข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูล และวิธีแก้ปัญหาง่ายและรวดเร็วมากขึ้น